มี “สติกเกอร์” ร้อนๆ มาขาย

ความนิยมส่ง “สติกเกอร์” ไลน์ ส่งผลให้นักออกแบบ “สติกเกอร์” เป็นหนึ่งช่องทางทำเงินของนักออกแบบมืออาชีพ และสมัครเล่นไปแล้ว

“จะออกแบบสติกเกอร์ไลน์ขาย ต้องทำยังไง?”
“มีใครทำสติกเกอร์ไลน์ขายในครีเอเตอร์แล้วบ้าง?

คือส่วนหนึ่งของคำถามมากมายที่ถูกโพสต์บนเว็บบอร์ด pantip.com สะท้อนถึงความสนใจของหลายคนในวันนี้ ที่มาจากกระแสความนิยมในการส่ง “สติกเกอร์” ผ่านไลน์ ได้รับความสนใจจากนักวาดมืออาชีพ มือสมัครเล่น คนทั่วไป เพื่อหวังทำเงินจากสื่อใหม่เหล่านี้

ถ้าดูตัวเลขเติบโตของครีเอเตอร์ จะพบว่า สติกเกอร์ของไลน์ที่เปิดให้กับคนทั่วไปออกแบบสติกเกอร์วางขาย เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนแรกที่มีการวางจำหน่ายสติกเกอร์เพียง 1,200 ชุด ปัจจุบันหลังจากเปิดวางขาย 4 เดือน (พ.ค. – ก.ย.) มีครีเอเตอร์ สติกเกอร์ที่วางขายกว่า 19,000 ชุดแล้ว และมีการวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 100 ชุด

ทำให้ทุกวันนี้มีสติกเกอร์จากนักวาดมืออาชีพ และสมัครเล่นเข้ามาวางขายอยู่ทั้งสติกเกอร์ช็อป และครีเอเตอร์ มาร์เก็ตที่ไลน์ให้เลือกมากมาย

ขณะเดียวกันก็มีการรวมกลุ่มเล็กๆ บนเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่า Line Creator Community Thailand เป็นกลุ่มสำหรับนักออกแบบสติกเกอร์ หรือคนที่สนใจอยากทำสติกเกอร์ โดยมีสมาชิกพันกว่าคน ไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการทำครีเอเตอร์ สติกเกอร์ เป็นเหมือน “คัมภีร์” เล็กๆ ให้สมาชิกได้ศึกษา

โอ-สัญญา เลิศประเสริฐภากร เจ้าของคาแร็กเตอร์ควาย “ติดลม” หนึ่งในผลงานที่ประสบความสำเร็จจากครีเอเตอร์ สติกเกอร์ และเป็นหนึ่งในผู้ดูแลกลุ่มนี้ เปิดเผยว่า กลุ่มนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สติกเกอร์ยังไม่มีวางขาย ช่วงแรกมีสมาชิกเพียงไม่กี่ร้อยคน จนตอนนี้มีพันกว่าคน แสดงให้เห็นว่ามีคนสนใจเยอะขึ้นมาก ในกลุ่มก็จะคอยแชร์คำแนะนำ หรืออัปเดตสถานะสติกเกอร์ของแต่ละคนว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว ซึ่งแต่ละคนไม่ใช่นักวาดหรือนักออกแบบมืออาชีพ บางคนวาดเป็นงานอดิเรกเพื่อหารายได้ และมองว่าไลน์เป็นพื้นที่แสดงผลงานได้ดีที่สุด

สัญญาเล่าว่า หลักๆ จะมี “นักออกแบบ” สติกเกอร์อยู่ 2 กลุ่มด้วยกัน คือ คนที่ไม่ได้เป็นนักวาดมากก่อน แต่ออกแบบสติกเกอร์แล้วส่งเล่นๆ ไม่มีการอัปเดตผลงาน และอีกกลุ่มหนึ่ง คือ ออกแบบสติกเกอร์เพื่อส่งจริงจัง บางคนส่งไปแล้วมากถึง 7 ชุด ส่วนใหญ่แล้วนักออกแบบมากกว่า 60% จะส่งไปมากกว่า 1 ชุด แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะมี “คนถอดใจกับไม่ถอดใจ” บางคนขายได้ไม่ดีก็หายไป แต่บางคนที่ส่งไปแล้วไม่ได้ก็เปลี่ยนแบบแล้วส่งไปอีกเรื่อยๆ

จ้างวาดสติกเกอร์ ค่าจ้างเหยียบแสน

จากกระแสความนิยมของครีเอเตอร์ สติกเกอร์นี้เอง ทำให้การรับจ้างวาดสติกเกอร์เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ทำรายได้ให้กับนักวาดมืออาชีพ และสมัครเล่นมาแล้วหลายราย ทั้งจากการว่าจ้างโดยแบรนด์สินค้าและบริการ และองค์กรต่างๆ ที่ต้องการออกสติกเกอร์เป็นเครื่องมือสื่อสาร เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์ และผู้ที่ต้องการมีสติกเกอร์ไปวางขาย

โอ-สัญญาเอง พอหลังจากประสบความสำเร็จจากสติกเกอร์ติดลม เขาได้รับการติดต่อจากแบรนด์สินค้า ให้ออกแบบสติกเกอร์ให้ Official Accounts ของแบรนด์ต่างๆ อีกจำนวน 5 ชุด แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อแบรนด์ได้ โดยที่ค่าจ้างอยู่ที่หลักแสนขึ้นไป

เช่นเดียวกับนักวาดคนอื่นที่มีผลงานเป็นที่รู้จัก ก็ถูกว่าจ้างให้ออกแบบด้วยเช่นกัน โดยที่เรตราคาอาจจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่บุคคล ทำให้ตลาดการออกแบบคาแร็กเตอร์เปิดกว้างมากขึ้น แบรนด์เริ่มพยายามมองหา และปั้นคาแร็กเตอร์ประจำตัวเองมากขึ้น

เมย์ วรางคณา และ แจน วรรณิดา เกียรติปานอภิกุล สองพี่น้องจากเพจ “ลอย ละ ล่อง” ในเฟซบุ๊ก ซึ่งมีผลงานในครีเอเตอร์ สติกเกอร์แล้ว 2 ชุด ก็ได้รับการติดต่อให้ออกแบบสติกเกอร์ไลน์

“ลูกค้าที่จ้างให้วาดสติกเกอร์ 2 ราย ค่าจ้างวาดจะสูงอยู่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท หนึ่งในนั้นคือโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แต่ปล่อยขายวันแรกยอดโหลดขึ้นเป็นอันดับ 1 ภายใน 5 ชั่วโมง เขาสามารถคืนทุนได้เลย”

นักออกแบบสาวทั้งสอง มองว่า การออกแบบสติกเกอร์เฉพาะกลุ่มให้กับองค์กร หรือหน่วยงาน ที่สะท้อนถึงการรวมกลุ่ม จะเป็นอีกหนึ่งในความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ทำสติกเกอร์แบบไหนให้โดนใจ

สำหรับการออกแบบสติกเกอร์ไลน์เพื่อวางขายใน “ครีเอเตอร์” แล้วก็ตาม แต่ใช่ว่าทุกชุดจะทำเงิน จากตัวเลขของทางไลน์พบว่า มีสติกเกอร์ที่วางขาย 40% ที่ขายไม่ดี ทำยอดขายไม่ถึง 10,000 เยน

แล้วทำอย่างไรล่ะจึงจะขายได้ สัญญาแนะนำว่า ส่งสติกเกอร์เข้ามาเยอะๆ เพื่อสร้างโอกาสมากขึ้น โดยที่ชุดแรกอาจจะใส่คาแร็กเตอร์หรือใส่ความเป็นตัวเองได้เต็มที่ ส่วนชุดต่อไปก็สามารถมาวิเคราะห์ได้แล้วว่าคาแร็กเตอร์แบบไหน ข้อความอะไรที่ขายดี เพราะจะมีข้อมูลสถิติจากทางไลน์

การออกแบบสติกเกอร์ ควรเน้นความแตกต่าง และความต้องการที่เป็น “เฉพาะกลุ่ม” มากขึ้น เพราะแนวน่ารักนั้นมีให้เลือกอยู่มากมายแล้ว เขายกตัวอย่าง มีแก๊งขี่จักรยานก็จะมีศัพท์เฉพาะของเขาอย่างเช่น ล้อดุ้ง คนที่ใช้จักรยานต้องซื้อแน่ๆ เพราะอีกหมื่นลายในตลาดไม่มีคำนี้เลย หรือแก๊งเล่นโยคะ อาจจะมีท่าทางที่เฉพาะเจาะจง

“ในตลาดตอนนี้ที่มีหมูหมาไก่แมวมันน่ารักหมด แต่มันไม่มีเอกลักษณ์อะไร และนี่คือสาเหตุว่าทำไมสติกเกอร์ “ลูกสุนัข” Puppy เป็นที่ฮือฮาและถูกวิจารณ์มาก เพราะสติกเกอร์ไม่ได้ดูน่ารัก แถมคำพูดก็เป็นคำแปลแบบตรงตัว แต่คนไทยกลับนิยม นั่นเพราะเกิดความแตกต่าง และความเกรียนของสติกเกอร์”

ถ้ามองเป็นโอกาสแล้ว การวาดสติกเกอร์ไม่จำเป็นต้องมีลายเส้นที่สวยเป๊ะก็ได้ เพียงแต่ออกแบบให้ถูกจริตคนใช้ก็พอ อย่าง สติกเกอร์ “ลูกสุนัข” ก็เป็นของนักออกแบบชาวญี่ปุ่น ที่ใส่ข้อความเป็นภาษาไทย ปรากฏว่าคนไทยโหลดซื้อกันมากมาย

ส่วนสติกเกอร์แบบไหนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจากไลน์ ส่วนใหญ่สติกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ หรือความรุนแรง อย่างเช่น รูปแฟนตีหัวกัน รูปที่มีเลือดสาด รูปใส่บิกินี่ รูปอาบน้ำเห็นก้น รูปที่มีของมีคม (มีด, ดาบ) หรือแม้แต่รูปที่สัญลักษณ์ของตราสินค้า อย่าง สัญลักษณ์ “กดไลค์” ของเฟซบุ๊ก หรือรูปโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอเรียงแอปพลิเคชันอยู่ ก็ไม่ผ่าน

เพจดัง ทำไมไม่รุ่ง

มีไม่น้อยที่สติกเกอร์วางขายในไลน์เคยโด่งดังมาจาก “เฟซบุ๊ก แฟนเพจ” มีฐานแฟนมากมาย แต่เมื่อนำมาพัฒนาขายใน “ครีเอเตอร์ สติกเกอร์ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสติกเกอร์เหล่านั้นขาดคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน และไม่มีข้อความประกอบ หรือข้อความไม่โดนใจผู้ใช้ เหตุผลที่คนตัดสินใจเลือกซื้อสติกเกอร์ยังคงเป็น “คอนเทนต์” ในสติกเกอร์ ทั้งคาแร็กเตอร์ที่โดนใจ หรือข้อความที่ใช้สื่อสารแทนตัวเองได้

“พฤติกรรมคนไทยแล้วยังไงก็ชอบ “ข้อความ” ในสติกเกอร์ โดยที่ใส่เป็นคำพูดมาตรฐานอย่าง สวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ หรือใส่ศัพท์แสลงเข้าไปเพื่อเพิ่มสีสัน”  สัญญาสะท้อนแนวคิด

รวมไปถึงการโปรโมตก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้หลายคนรู้จักสติกเกอร์ แม้ว่าบางเพจจะมีช่องทางและจำนวนแฟนคลับที่แข็งแกร่ง แต่ควรโปรโมตให้ถูกจังหวะเวลา เช่น กำหนดวัน และเวลาที่ชัดเจนในการปล่อยสติกเกอร์ เพื่อให้คนติดตามไปซื้อสติกเกอร์พร้อมกัน จะสามารถช่วยดันสติกเกอร์ให้ขึ้นอันดับต้นๆ และทำให้คนทั่วไปเห็นได้ง่ายขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น เพจ “ทูนหัวของบ่าว” เพจแมวชื่อดังบนโลกออนไลน์ ที่มียอดแฟนเพจกว่า 1.4 ล้านไลค์ ได้ทำการโปรโมตสติกเกอร์ผ่านแฟนเพจก่อน พร้อมทั้งบอกเวลาในการปล่อยสติกเกอร์ที่ชัดเจน คือตอน 2 ทุ่ม ของวันที่ 3 ตุลาคม ทำให้คนที่สนใจเข้าไปซื้อสติกเกอร์พร้อมกัน จากนั้นสติกเกอร์ก็ขึ้นอันดับ 1 ในทันที

แล้วคุณล่ะ..ออกแบบสติกเกอร์หรือยัง