หลังจากที่ตลาดน้ำอัดลมของไทยมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเป๊ปซี่ ยุติความสัมพันธ์ที่เคยมีกับ “เสริมสุข” ผู้ผลิต บรรจุขวด และทำตลาดเป๊ปซี่มายาวนานถึง 58 ปี ต้องสิ้นสุดลง เป๊ปซี่ตั้งโรงงานผลิตและจัดจำหน่ายเอง ยกเลิกขวดแก้ว หันมาเน้นผลิตแต่ขวด PET
ในขณะที่เสริมสุข ตัดสินใจขายหุ้นให้กับ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ของ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ใช้เครือข่ายความแข็งแกร่งของไทยเบรฟ ผลักดันแบรนด์ “เอส” ออกมาสู้ศึกกับอดีตคู่ค้าที่กลายเป็น “คู่แข่ง” ที่มีจุดแข็งเรื่องของแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยดี และยังมีโค้ก ที่อาศัยจังหวะที่คู่แข่งเกิดการเปลี่ยนแปลง แซงหน้าขึ้นมาครองแชมป์
การเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในช่วงปีที่ผ่านมา การแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น เมื่อเป๊ปซี่ ที่หลังจากต้องใช้เวลาพักใหญ่ไปกับการสร้างความพร้อมในเรื่องโรงงาน สามารถป้อนสินค้าออกสู่ตลาดได้ ที่มีโจทย์ใหญ่รออยู่ กับการที่ต้องทวงบังลังก์แชมป์จากโค้กคืนมา หลังจากที่ปล่อยให้โค้กขึ้นเบอร์หนึ่งมาหลายปี
บริษัท W&S ประเทศไทย ภายใต้บริษัท World Wide System Corporation ประเทศญี่ปุ่น บริษัทรับทำวิจัยทางการตลาด ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ในปี 2557 โดยใช้วิธีการสำรวจทางช่องทางออนไลน์ ผ่าน Yimresearch เนื้อหาประกอบไปด้วยมูลค่าตลาดน้ำอัดลม ส่วนแบ่งทางการตลาด รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อน้ำอัดลม
การสำรวจ
ใช้วิธีการสำรวจทางออนไลน์ ช่วงเวลาระหว่างวันที่ 1-15 ธันวาคม 2557 กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 450 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป แบ่งเป็น ชาย 50% และหญิง 50% แบบสำรวจจะมีทั้งหมด 17 ข้อ กล่าวถึงสภาพตลาดน้ำอัดลมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
กลุ่มตัวอย่าง
พฤติกรรมผู้บริโภค
1. ความถี่ในการดื่มน้ำอัดลม
25.6% ของกลุ่มตัวอย่างได้ตอบว่าดื่มน้ำอัดลม 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และก็พบว่ามีกลุ่มคนในสัดส่วนถึง 60.8% ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ 18% ดื่มน้ำอัดลมทุกวัน 17.3% ดื่ม 5-6 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งกลุ่มใหญ่ 49.3% เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 16-24 ปี มีการดื่มมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วน 41.9% เป็นกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี ดื่ม 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือน้อยกว่านั้น
2. ดื่มเวลาไหน
กลุ่มใหญ่ยังคงเป็นอายุ 16-24 ปี เหตุผลหลักยังคงเป็นดื่มเพื่อผ่อนคลาย 68.7% สำหรับกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี ดื่มเพื่อความสดชื่น 62.6%
3. ปัจจัยในการเลือกซื้อ
86.4% เลือกซื้อเพราะรสชาติเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องการหาซื้อได้ง่าย และเรื่องราคาก็เป็นปัจจัยรองลงมา
4. นิยมดื่มขนาดไหน
84.4% นิยมดื่มน้ำอัดลมขนาดกลาง ส่วน 82.7% ชอบดื่มขนาดเล็ก แต่อย่างไรก็ตามขนาดกลางและขนาดใหญ่เป็นที่นิยมมากในกลุ่มวัยทำงานอายุ 25-34 ปี และวัยผู้ใหญ่อายุ 35-44 ปี โดยที่ส่วนใหญ่นิยมแพคเกจจิ้งแบบขวดพลาสติก
5. พบโฆษณาของน้ำอัดลมที่ไหน
95.3% ยังคงพบโฆษณาบนโทรทัศน์ที่เป็นสื่อหลัก แต่บางแบรนด์อย่างบิ๊กโคล่าจะพบโฆษณาตามช่องทางอินเตอร์เน็ต โรงภาพยนตร์ รถเมล์ และวิทยุด้วย
6. แบรนด์ไหนเป็นท็อป ออฟ มายด์
โคคาโคล่ายังคงเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง โดย 3 แบรนด์แรกที่ผู้บริโภครู้จักได้แก่ โคคา โคล่า 96% เป๊ปซี่ 95.8% และแฟนต้า 90.2%
7. ทดลองชิมน้ำอัดลมแบรนด์ไหนมาล่าสุด
87.6% ได้เคยลองชิมเป๊ปซี่ และ 70% ได้ดื่มเป๊ปซี่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
8. แบรนด์ที่ชื่นชอบ
70% ของผู้บริโภคได้ดื่มเป๊ปซี่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่ง 52.4% ได้บอกว่าเป๊ปซี่เป็นแบรนด์ที่พวกเขาดื่มเป็นประจำ
9 การตัดสินใจซื้อน้ำอัดลมในอนาคต
92.4% บอกว่าเขาตัดสินใจซื้อเป๊ปซี่ในอนาคตแน่นอน ในขณะที่ในการเลือกโคคาโคลาที่ 90.4%