ในงาน Adobe Summit ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปีด้าน Digital Marketing ของอะโดบีที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทอะโดบี (Nasdaq: ADBE) ประกาศการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ด้าน “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบีที่ได้รวมเอา framework สำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ ไว้อย่างครบวงจร โดยโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีในที่นี้เป็นหนึ่งใน Core Service ของ Adobe Marketing Cloud ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโมบายล์แอพฯการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้แก่ โมบายล์แอพฯ, ระบบวิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ และการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานของโมบายล์แอพฯ ซึ่ง “โมบายล์เซอร์วิส” นี้ถือเป็นโซลูชันที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในวงการ และยังเป็นโซลูชันแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเน้นการแก้ปัญหาของนักการตลาดที่เคยต้องใช้งานโซลูชันที่หลากหลายซึ่งไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่รวมเอาทั้งการพัฒนาและการบริหารจัดการโมบายล์แอพฯ เอาไว้ภายในโซลูชันเดียว ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ ทางอะโดบียังได้ประกาศรายชื่อของพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ โมบายล์แอพฯ ชั้นนำ ที่จะนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้งานร่วมกันใน framework สำหรับการพัฒนาและบริหารจัดการ โมบายล์แอพฯ นี้อีกถึง 6 ราย
“ข้อมูลจาก Adobe Digital Index data ได้แสดงให้เห็นถึงการทำลายสถิติครั้งใหม่ในการใช้งานอุปกรณ์พกพา แต่ในขณะเดียวกัน การสร้างประสบการณ์การใช้งานโมบายล์แอพฯ ที่ดีก็ยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักการตลาดหลายราย” มร. แมท อะเซย์, รองประธานกรรมการด้านกลยุทธ์โมบายล์ของอะโดบี กล่าว “”เหล่านักการตลาดต้องวุ่นวายกับการทำความคุ้นเคยในการใช้งาน mobile tools ต่างๆ สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะทางในแต่ละเรื่อง แต่ด้วย “โมบายล์เซอร์วิส” ของอะโดบี เราจะทำให้งานทั้งหมดนี้กลายเป็นกระบวนการที่ง่ายมากขึ้น และทำให้นักการตลาดสามารถสร้างและใช้ประโยชน์จากแอพฯ ของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย”
Framework ของ โมบายล์แอพฯในโมบายล์เซอร์วิสของอะโดบีนี้ จะรวบรวมเอาเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงโมบายล์แอพฯ จาก Adobe Marketing Cloud เอาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Adobe Experience Manager Apps, AdobePhoneGap Enteprise, Adobe Analytics – Mobile Apps และ Adobe Target ในขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันกับเครื่องมือสำหรับการพัฒนาและจัดการโมบายล์แอพฯ จากพาร์ทเนอร์ก็จะช่วยให้การบริหารจัดการ lifecycle ของโมบายล์แอพฯ เป็นไปได้อย่างยืดหยุ่นและครบวงจรสูงสุด ดังนี้:
· การพัฒนาโมบายล์แอพฯ: ด้วย Adobe Experience Manager Apps และ Adobe PhoneGap Enterprise องค์กรต่างๆ จะสามารถสร้างโมบายล์แอพฯ ที่ทำงานได้บนอุปกรณ์พกพาทุกๆ แพลตฟอร์มผ่านการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาเว็บไซต์ซึ่งได้แก่ HTML, CSS และ Javascript โดยโมบายล์แอพฯ ที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะสามารถทำงานร่วมกับ Adobe Experience Manager เพื่อให้สามารถทำการบริหารจัดการการแสดงผลเนื้อหาต่างๆ ภายในโมบายล์แอพฯ ได้ถูกต้องตรงกัน โดยไม่ต้องกังวลถึง App Stores ที่มีหลายแห่ง, ระบบปฏิบัติการต่างๆ จำนวนมาก และขนาดของอุปกรณ์ที่หลากหลายอีกต่อไป ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น Adobe Experience Manager Apps ยังช่วยให้เหล่านักการตลาดสามารถสร้างความผูกพันให้กับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ เหล่านั้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นเปิดตัวให้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้แล้ว ทีมการตลาดและทีมธุรกิจจะสามารถทำการอัพเดตทั้งเนื้อหาและความสามารถในการทำงานของโมบายล์แอพฯ ทั้งหมดนั้น แล้วทำการอัพเดตไปยังอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งโมบายล์แอพฯ นั้นๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องอาศัยนักพัฒนาโมบายล์แอพฯ อีกต่อไป ในขณะที่นักพัฒนาโมบายล์แอพฯ เองก็ยังคงสามารถออกแบบและพัฒนาโมบายล์แอพฯ ให้มีความสวยงามเพิ่มขึ้นได้ผ่านการเรียกใช้งาน Ionic ซึ่งเป็น framework สำหรับการพัฒนา HTML5 นั่นเอง
· การสร้างฐานผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Acquisition): การเป็นพันธมิตรกันระหว่างอะโดบี กับ Fiksu ที่ช่วยเสริมความสามารถให้กับ Adobe Analytics นั้น ทำให้องค์กรต่างๆ มีหนทางในการสร้างฐานผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้กับโมบายล์แอพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบจะทำการสร้างและติดตาม brand awareness ผ่านทางสื่อโฆษณา, การค้นหาโมบายล์แอพฯ, การติดตั้งโมบายล์แอพฯ และอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งความสามารถในการทำ A/B testing บน Adobe Target ก็จะช่วยให้นักการตลาดสามารถปรับปรุงเนื้อหาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้นโดยสามารถทำการจำแนกกลุ่มของผู้ใช้งานตามเงื่อนไขต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์พกพา เช่น ประเภทของอุปกรณ์ และระบบปฏิบัติการ และด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันกับโซลูชันของ Kochava ก็จะทำให้แบรนด์ต่างๆ ได้รับรู้ว่าการโฆษณาทางสื่อใดสามารถสร้าง Conversion ได้บ้าง และการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาที่ลงทุนไปมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
· ระบบวิเคราะห์การใช้งานโมบายล์แอพฯ (App Analytics): ด้วย Adobe Analytics-Mobile Apps นักการตลาดทั้งหลายจะได้รับรู้พฤติกรรมการใช้งานโมบายล์แอพฯ จริงๆ ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความถี่ในการเข้าใช้งานโมบายล์แอพฯ ของผู้ใช้งาน, ผู้ใช้งานเข้าใช้งานหน้าจอใดในโมบายล์แอพฯ บ้าง, ผู้ใช้งานคลิกที่ URL ใดจนนำมาสู่การดาวน์โหลด และใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้สำเร็จ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยถ้าหากทำการพัฒนาโมบายล์แอพฯ โดยการฝัง Mobile SDK ของอะโดบีเข้าไปด้วย ก็จะช่วยให้โมบายล์แอพฯ เหล่านั้นมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานได้ทันที และสามารถส่ง in-app message ไปยังผู้ใช้งานได้โดยตรง ทั้งนี้ด้วยการทำงานร่วมกันกับโซลูชันในการบริหารจัดการประสิทธิภาพของแอพฯ จาก Crittercism องค์กรต่างๆ ก็จะได้รับข้อมูลที่มีละเอียดเพิ่มเติมไปจากรายงานการเกิด crash แบบทั่วๆ ไป และทำให้เข้าใจความผิดพลาดและการกระทำที่เกิดขึ้นได้ในเชิงลึก นอกจากนี้ การทำงานร่วมกันระหว่างอะโดบี กับระบบ App Store Analytics จาก appFigure ก็ยังช่วยให้แบรนด์สามารถรวบรวมและแสดงผลข้อมูลของเหตุการณ์ต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น ยอดขายและยอดดาวน์โหลดของโมบายล์แอพฯ, ลำดับที่ของโมบายล์แอพฯ ใน app store และอื่นๆ อีกมากมาย
· การสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ (User Engagement): การสนับสนุนการใช้งาน GPS และ iBeacons แบบ native ภายใน Adobe Analytics นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานโมบายล์แอพฯ ได้รับเนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์อย่างแม่นยำทันทีที่แบรนด์เข้าถึงผู้ใช้งาน โดยการเป็นพันธมิตรกับ Vibes ได้ช่วยเพิ่มเครื่องมือต่างๆ สำหรับการสร้างความผูกพันกับผู้ใช้งาน และส่งมอบประสบการณ์ในการใช้งานหรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสภาพแวดล้อมรอบด้านไปยังผู้ใช้งาน รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างความสามารถในการจัดการ Mobile Wallet ของ Vibes กับ Adobe Campaign ก็ทำให้แบรนด์สามารถสร้าง “บัตรผ่าน” พิเศษที่สามารถจัดเก็บและใช้งานได้จาก Apple Passbooks และ Google Wallet สำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายได้ ทำให้นักการตลาดสามารถสร้างบัตรผ่านแบบติจิตอลสำหรับดึงดูดผู้ใช้งาน โมบายล์แอพฯ แทนคูปองกระดาษ, ใบราคาเสนอขาย และบัตรผ่านแบบเดิมๆ ได้ทันที