ชาวเกาะเปิดเกมรุกตลาดอาหรับ-แดนปลาดิบ ลงสนาม GULFOOD-FOODEX ปิดยอดขายไตรมาส 2/2015 ทะลุเป้า

บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรรายใหญ่ของไทย เร่งขยายส่วนแบ่งตลาดการค้าในดินแดนตะวันออกกลางและเมืองปลาดิบ นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แปรรูปแบรนด์ชาวเกาะลงสนาม GULFOOD-FOODEX เทรดแฟร์สินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ชูสินค้าเรือธง น้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าวขูดฝอย น้ำมะพร้าว และกะทิไขมันต่ำ ปิดการขายยอดสั่งซื้อล้น ส่งผลให้การผลิตแน่นถึงปลายไตรสมาส 2/2015

นางสาวนันทินี เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2015 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานมหกรรมแสดงนวัตกรรมสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ ที่สำคัญระดับโลก 2 แห่ง คือ Gulfood Exhibition งานแสดงสินค้าประจำปีที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการค้าในอุตสาหกรรมอาหารของโลกอาหรับ ซึ่งจัดขึ้นที่ดูไบ และ Foodex Japan งานแสดงสินค้าด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การร่วมงานทั้ง 2 แห่งทำให้บริษัทฯ สามารถปิดยอดขายสินค้าได้จนถึงปลายไตรมาส 2/2015 เกินกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้

การเข้าร่วมงาน Gulfood ของบริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัดในปีนี้ ถือเป็นปีที่ 3 ของการก้าวสู่สนามการค้าในดินแดนตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับจากคู่ค้าอาหรับเป็นอย่างดี และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งความสนใจในสินค้าแบรนด์ชาวเกาะและสินค้าที่รับผลิตเพื่อใช้แบรนด์ของลูกค้าที่ต้องการทำตลาดเอง (OEM) โดยสัดส่วนของสินค้าทั้ง 2 ประเภทนี้อยู่ในอัตราส่วนร้อยละ 80:20 และในปีนี้ผลิตภัณฑ์เนื้อมะพร้าวขูดฝอยอบแห้งตราชาวเกาะได้กลายเป็นสินค้านำตลาด หลังจากที่ได้ทดลองเปิดตลาดเมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึงกะทิผงก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งควบคู่กับกะทิไลท์ที่มีไขมันต่ำ และน้ำมะพร้าว

“การที่ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภค เป็นเพราะลักษณะอาหารของชาวอาหรับจะมีเครื่องแกงที่ใช้กะทิที่ไม่ข้นมากเป็นส่วนผสมในการปรุง ซึ่งกะทิไลท์สามารถตอบโจทย์เรื่องความหอมมันของกะทิได้ดี ขณะที่มะพร้าวขูดฝอยอบแห้งของชาวเกาะถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มรสชาติในอาหารและเป็นส่วนผสมของเบเกอรี่ เพื่อเพิ่มความน่ารับประทานมากขึ้น ส่วนน้ำมะพร้าวก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มยืนพื้นที่ชาวอาหรับนิยม เพราะเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในแถบตะวันออกกลางที่ร้อนและแห้ง การเลือกเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น ดับกระหาย และให้พลังงานอย่างน้ำมะพร้าว จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในแถบนี้มากกว่าน้ำดื่มธรรมดา” นางสาวนันทินี กล่าว

Gulfood Exhibition 2015 นับเป็นงานที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศและซัพพลาย-เออร์ ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานมากกว่า 4,800 บริษัท จาก 120 ประเทศทั่วทุกภูมิภาค นำเสนอสินค้ากว่า 10,000 แบรนด์ และมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานเพื่อเลือกซื้อสินค้ากว่า 85,000 คน จากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

นอกจากงานมหกรรมสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติของ Gulfood แล้ว บริษัทฯ ยังเข้าร่วมงาน Foodex Japan 2015 งานแสดงนวัตกรรมอาหารนานาชาติ ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของเอเชีย และสร้างโอกาสทางการค้าทั้งในและนอกภูมิภาคเอเชีย จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมงาน Foodex Japan 2015 ถึง 2,800 แห่ง จากกว่า 80 ประเทศจากทั่วภูมิภาคในโลก และมีผู้สนใจเข้าร่วมชม ติดต่อธุรกิจ และเลือกซื้อสินค้ากว่า 80,000 คน วัตถุประสงค์หลักของการร่วมงานของบริษัทในครั้งนี้ก็เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด และพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับลูกค้าเดิม รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการขยายตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเช่นน้ำมันมะพร้าว

นางสาวนันทินี กล่าวว่า “ปีนี้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพยังคงเป็นเทรนที่มาแรงในตลาดญี่ปุ่น จึงเป็นโอกาสดีของเทพผดุงพรมะพร้าวในการนำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ตราชาวเกาะเข้าสู่ตลาด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเกินกว่าที่คาดไว้ สินค้ากว่า 1,000 ยูนิต หรือประมาณ 12,000 ชิ้น ที่เตรียมไว้สำหรับงานนี้ถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึง 5 วัน และยังมียอดสั่งซื้อเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องเร่งผลิตเต็มกำลังการผลิต โดยมีกำหนดส่งมอบสินค้ายาวไปถึงปลายไตรมาส 2/2015”

ผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวได้รับการยอมรับในด้านการเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น ซึ่งไม่เพียงแต่การนำไปใช้กลั้วปาก ทาผิว หมักผม หรือประกอบอาหารและเบเกอรี่เท่านั้น แต่ยังได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์และเวชภัณฑ์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่นอีกด้วย

“การเข้าร่วมงานมหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในระดับนานาชาติ เป็นหนึ่งในแนวทางการขยายตลาดที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว และสามารถพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงใจอยู่ตลอดเวลา” นางสาวนันทินี กล่าวทิ้งท้าย