หัวเว่ยบุกลอนดอนเปิด P8 และ P8 Max

หัวเว่ยชิงเปิดตัวสมาร์ทโฟนสุดหรูกลางกรุงลอนดอน ท่ามกลางนักข่าวและดีลเลอร์จากทั่วโลกกว่า 1,000 ชีวิต เผยจุดเด่นด้านการออกแบบ และเน้นฟีเจอร์ด้านเซ็นเซอร์กล้องพร้อมคุณสมบัติการเชื่อมต่อโครงข่ายที่โดดเด่น ดึงแบรนด์ดังเปรียบเทียบสเปกเครื่องฟีเจอร์ต่อฟีเจอร์ ลั่นกลองรบบุกตลาดยุโรปเต็มรูปแบบ ขณะที่ไทยหงอยไม่ติดกลุ่มแรกแม้จะเป็นฮับของเออีซีก็ตาม

ความร้อนแรงของสมาร์ทโฟนจีนเริ่มระอุอีกครั้ง เมื่อหัวเว่ยจัดงานเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของสมาร์ทโฟนซีรีย์ P ในใจกลางกรุงลอนดอน ของประเทศอังกฤษ ในวันที่ 15 เมษายน 2558 ด้วยการเชิญนักข่าวและแขกรับเชิญกว่า 1,000 ชีวิตเข้าร่วมงาน ด้วยความหวังที่จะเจาะตลาดยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศทั่วโลก โดย นายริชาร์ด ยู ซีอีโอ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวบนเวทีว่า “ความพยายามในการพัฒนาสมาร์ทโฟนกลุ่มซีรีย์ P ให้เป็นเสมือนเครื่องหมายและสัญลักษณ์ของความสวยงามที่ชาญฉลาดบนเครื่องสมาร์ทโฟน ด้วยประสบการณ์ทางด้านเน็ตเวิร์กที่ยาวนาน ตลอดจนประสบการณ์ด้านการผลิตโทรศัพท์มือถือ สิ่งเหล่านี้ได้กลั่นกรองให้เกิดเครื่องสมาร์ทโฟนที่สมบูรณ์แบบในรุ่น P8 และ P8 Max ออกมา”

***ทำความรู้จัก P8 และ P8 Max
      
จุดเด่นแรกที่ถูกนำเสนอในงานนี้คือการออกแบบที่เลือกใช้วัสดุเกรดสูง เจียระไนออกมาเป็นโครงสร้างแบบ Unibody ให้เกิดเป็นชิ้นงานตามต้องการจนทำให้ได้ความบางของตัวเครื่องเพียง 6.4 มิลลิเมตร สามารถซ่อนกล้องหลังได้มิดชิดไม่มีขอบยื่นออกมาแม้ว่าจะบางเพียงน้อยนิด ขณะที่เซ็นเซอร์กล้องระดับเดียวกับกล้อง DSLR ที่ให้ความสามารถในการถ่ายแสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งฟีเจอร์การควบคุมกล้องวิดีโอจากมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นๆ พร้อมกันถึง 3 เครื่องในโหมด Director รวมทั้งการป้องกันการสั่นไหวที่เพิ่มองศาการสั่นได้กว้างขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญการโฟกัสภาพที่แม่นยำด้วยการประมวลผลภาพเชิงซ้อน นอกจากจะช่วยการโฟกัสภาพที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างแบบคอนทรัสต์ที่ดีขึ้นด้วย
      
นอกจากประสิทธิภาพด้านฮาร์ดแคร์ที่เป็นตัวบ่งชี้ความพิถีพิถันแล้วนั้น ความสามารถของ EMUI 3.1 ยิ่งช่วยขับความสามารถของหน่วยประมวลผลแบบชิปเซ็ต Kirin 930/935 ได้เป็นอย่างดี โดยแบ่งความสามารถของการจัดการเพื่อประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว ถึงแม้ว่าจะมีแบตเตอรี่เพียง 2,680 มิลลิแอมป์ ก็สามารถใช้งานหนักได้ตลอดทั้งวัน ขณะที่การเชื่อมต่อใช้ความสามารถของหัวเว่ยด้านโครงข่ายเข้ามาช่วยพัฒนาให้เกิดการเชื่อมต่อที่ลื่นไหล ด้วยเทคโนโลยี “โรมมิ่งพลัส” ที่ช่วยให้ทุกการเชื่อมต่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3 เท่า

ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือความสามารถของ Knuckle Sense Technology ที่ยอมให้การใช้ข้อนิ้วเคาะเรียกการบันทึกหน้าจอ หรือแม้กระทั่งการใช้ข้อนิ้ววาดพื้นเพื่อครอปหน้าจอก็ยังได้ และฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนที่ช่วยให้สายสนทนาสามารถฟังเสียงได้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีเสียงดังอยู่ก็ตาม โดยทางเทคนิคแล้ว เทคโนโลยี Voice+ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงขึ้นได้กว่า 58% ซึ่งก็ทำให้สามารถใช้งานแฮนด์ฟรีได้ในรัศมี 2 เมตร ทั้งยังมีลูกเล่นใหม่ด้านการสื่อสารกับโทรศัพท์ด้วยเสียงเมื่อต้องการเรียกหา P8 ที่หลงลืมว่าอยู่ไหน เครื่องจะทำการตอบกลับเป็นเสียงอย่างอัตโนมัติ ขณะที่ด้านเสียงเพลงก็ยังเพิ่มเทคโนโลยี Music+ ให้คุณภาพเสียงดีขึ้นอีกด้วย
      
ด้าน P8 Max ที่นอกจากจะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก โดยมีจุดที่แตกต่างเช่นกล้องหน้าที่มีขนาดเล็กลงเพียง 5 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาดความจุสูงถึง 4,360 มิลลิแอมป์ ที่สามารถใช้งานหนักได้ตลอดทั้งวันเช่นกัน และหากเป็นการใช้งานแบบปกติจะสามารถใช้งานได้นานถึง 2.3 วันกันเลยทีเดียว ขณะที่ความร้อนจากแบตเตอรี่ลดลง 5% ด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบเฉพาะตัว แต่ยังคงความบางและสัดส่วนพื้นที่หน้าจอที่กว้างขึ้น และที่สำคัญทางผู้ผลิตมีภาพอวดว่าสามารถใส่กระเป๋าหลังได้อย่างสบาย

นายสรทัศน์ ศฤงคารบริบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด หัวเว่ย ดีไวซ์ ประเทศไทย

      
โดย P8 และ P8 Max ทั้ง 2 รุ่นยังแบ่งเป็นรุ่นมาตรฐานและรุ่นพรีเมียม ซึ่งแตกต่างที่ความจุของตัวเครื่องที่มีขนาดมาตรฐานที่ 16GB และรุ่นพรีเมียมที่มีขนาดความจุ 64 GB ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และเอเชียบางประเทศเป็นกลุ่มแรกก่อนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2558 โดยราคาเปิดตัว P8 รุ่นมาตรฐานจะอยู่ที่ 499 ยูโร (ราว 17,900 บาท) และ P8 รุ่นพรีเมียมจะอยู่ที่ราคา 599 ยูโร (ราว 21,500 บาท) ด้านรุ่น P8 Max ที่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเริ่มต้นรุ่นมาตรฐานด้วยราคา 549 ยูโร (ราว 19,700 บาท) และรุ่นพรีเมียมจะอยู่ที่ราคา 649 ยูโร (ราว 23,300 บาท)
      
ขณะที่ประเทศไทยซึ่งไม่ติดในกลุ่มประเทศแรกแม้ว่าจะถูกวางตัวเป็นฮับของกลุ่มประเทศเออีซีก็ตาม ได้รับคำตอบจาก นายสรทัศน์ ศฤงคารบริบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด หัวเว่ย ดีไวซ์ ประเทศไทย ว่า “ในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกรุ่นในประเทศไทย ทำให้ต้องเว้นระยะห่างเพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าได้ทำตลาดและสร้างรายได้ ทำให้คาดว่าจะสามารถวางจำหน่าย Huawei P8 ในรุ่นมาตรฐาน ได้ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหัวเว่ยได้เป็นอย่างดี ขณะที่เป้าหมายตลอดทั้งปีที่ 6 แสนเครื่องยังคงเดินหน้าส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง หลังดึงพรีเซ็นเตอร์ชื่อดังอย่าง “อาเล็ก” ธีรเดช เมธาวรายุทธ เข้ามาช่วยกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ได้มากขึ้น โดยในภาพรวมหัวเว่ยสามารถแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดได้กว่า 5%

 

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000043676