สติกเกอร์ ไลน์ จำกัดอยู่แค่กลุ่มศิลปิน นักออกแบบเพียงอย่างเดียว ยุคนี้ก็มีเหล่าดารา และเซเลบริตี้ชื่อดังหันมาทำสติกเกอร์ ไลน์กับเขาบ้าง ไว้เป็นช่องทางโปรโมต และสร้างแบรนด์อีกรูปแบบหนึ่ง
หลังจากที่ไลน์ได้เปิดโครงการ “ไลน์ ครีเอเตอร์ มาร์เก็ต” ได้ครบ 1 ปี ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปส่งผลงานสติกเกอร์เข้าไปขายในไลน์ได้ โดยทำการแบ่งสัดส่วนรายได้ 50% กับไลน์ (หลังจากหักค่าเกตเวย์ให้ App Store และ Google Play แล้ว)
การเติบโตของผู้ที่ส่งผลงานเข้าไปขายนับว่าน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีจำนวนครีเอเตอร์ทั่วโลกทั้งหมด 393,000 คน เป็นครีเอเตอร์คนไทย 40,897 คน หรือคิดเป็น 10% ของจำนวนทั้งหมด
ในช่วงแรกเริ่มจากกลุ่มศิลปิน นักวาดภาพประกอบ คาแร็กเตอร์ดีไซน์ ทำให้มีผู้แจ้งเกิดจากตรงนี้เยอะทีเดียว เช่น คาแร็กเตอร์ติดลม, โมโม, หัวกะลา เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นสติกเกอร์ที่ติดอันดับท็อปเทนที่ขายดีที่สุด
จากนั้นเริ่มมีกลุ่มคนดังในวงการ และกลุ่มคนจาก “เพจ” ในเฟซบุ๊ก ที่มีคอนเทนต์เป็นที่นิยมอย่างเพจทูนหัวของบ่าว, Eat all day, มุนิน, บ่นบ่น, เค้าเรียกผมว่าแมว และอื่นๆ อีกมากมาย ก็นำคาแร็กเตอร์ที่มีอยู่ในเพจมาวาดเป็นสติกเกอร์ เพื่อขายในครีเอเตอร์ มาร์เก็ต
แต่ที่น่าสนใจคือในปีนี้เราได้เห็นกลุ่มคนที่เราเรียกว่าดารา หรือเซเลบริตี้ ก็หันมาจับปากกาวาดลวดลายในครีเอเตอร์ สติกเกอร์ด้วยเช่นกัน โดยหวังใช้ช่องทางของสติกเกอร์ไลน์เป็นเครื่องมือในการโปรโมตตนเองอีกช่องทาง โดยมีทั้งในรูปแบบที่วาดสติกเกอร์ด้วยฝีมือตัวเอง และเป็นการจ้างวาด เซเลบริตี้ที่ตอนนี้มีผลงานในครีเอเตอร์ สติกเกอร์ ได้แก่ เม-พิชญ์นาฏ, กอล์ฟ-พิชญะ, เปิ้ล-นาคร, ดีเจพุฒ และนิว-นภัสสร
เอก อัครประเสริฐกุล หัวหน้าฝ่ายออกแบบ LINE ประเทศไทย เผยว่า “ปีนี้เห็นการเติบโตของเซเลบริตี้ในการทำครีเอเตอร์ สติกเกอร์เยอะขึ้นมาก ในปีก่อนยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ซึ่งเซเลบริตี้มีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปั้นคาแร็กเตอร์ใหม่ และมีฐานแฟนคลับที่แน่นหนา โดยเขาก็มีช่องทางในการโปรโมตของเขาอยู่แล้วเช่นกัน แต่การที่เขามีสติกเกอร์ไลน์ ถือเป็นการสร้างแบรนด์ของเขาเองให้แข็งแกร่งด้วย ทำให้คนเห็นหน้า หรือคาแร็กเตอร์เขาตลอด เทรนด์นี้ถือว่ามีแค่ที่ประเทศไทยกับประเทศเกาหลีเท่านั้นที่ดาราลงมาทำครีเอเตอร์สติกเกอร์ ในเกาหลีส่วนใหญ่จะเป็นศิลปิน นักร้อง เพราะมีฐานแฟนคลับเยอะ แต่ประเทศอื่นๆ ยังไม่เห็นดาราลงมาทำมากนัก”
ยกตัวอย่าง “กอล์ฟ-พิชญะ นิธิไพศาลกุล” ที่มีการลงลายเส้นออกแบบสติกเกอร์ชุด “Mr.Pichaya” ด้วยตัวเอง เพราะมีความสนใจด้านการวาดภาพ วาดการ์ตูนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และอยากมีสติกเกอร์เป็นของตัวเอง จึงออกแบบคาแร็กเตอร์ในเวอร์ชันการ์ตูน แต่ใส่แอ็กชันให้ดูตลกๆ เกรียนๆ เล็กน้อย เพื่อสื่อให้เห็นถึงอารมณ์เวลาใช้จริงๆ
ส่วน “เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย” ได้เลือกทำสติกเกอร์เป็นคาแร็กเตอร์ของลูกชาย และลูกสาว “น้องออก้า-น้องออกัส” เริ่มต้นจากเปิ้ลชอบส่งภาพของลูกๆ แทนอีโมชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทานข้าว หิว หรือง่วงนอน เพราะคิดว่าภาพตลกของลูกๆ สามารถสื่อสารอารมณ์ได้ดีกว่าคำพูด
จึงได้ว่าจ้างนักออกแบบในการทำสติกเกอร์น้องออก้า และน้องออกัสออกมา นักออกแบบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเจ้าของคาแร็กเตอร์ “Jujuu” หมีดีดดิ้ง ที่มีผลงานในครีเอเตอร์ สติกเกอร์ถึง 2 ชุด
หรือแม้แต่ 4 แอดมินเพจดังในโลกออนไลน์ อีเจี๊ยบ เลียบด่วน, ดราม่าแอดดิก, บันทึกของตุ๊ด และ JayTheRabbit ก็รวมตัวกันทำสติกเกอร์ในชื่อชุด JeabJarShaTai
แต่ในการที่เป็นดาราหรือเซเลบริตี้ก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือไปกว่าบุคคลทั่วไป เพราะก็ต้องทำตามกระบวนการอยู่ดี โดยเปิ้ลได้เปิดเผยว่า สติกเกอร์ของตนเองใช้ระยะเวลาถึง 6 เดือนกว่าจะได้วางขายจริง ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสติกเกอร์ของไลน์
โปรโมตน้อย แต่รายได้เยอะกว่า!
โดยปกติแล้วสติเกอร์ไลน์จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.Official Sticker คือสติกเกอร์ที่ทางไลน์เป็นผู้ผลิตเอง คือ คาแร็กเตอร์ไลน์ หรือที่ไลน์จับมือกับพาร์ตเนอร์อย่างดิสนีย์ หรือซานริโอ เพื่อทำสติกเกอร์ออกมา 2.Sponsor Sticker คือสติกเกอร์ของแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่เข้ามาเปิด Official Account กับไลน์ และ 3.Creator’s Sticker คือสติกเกอร์จากโครงการครีเอเตอร์ มาร์เก็ต
ในช่วงที่ผ่านมาไลน์ได้มีการจับมือกับทางเซเลบริตี้คนดังเพื่อออกสติกเกอร์อยู่แล้ว แต่เป็นในรูปแบบของ Official Sticker ซึ่งไลน์จะเป็นผู้คัดเลือกเองในการทำสติกเกอร์
วารดี วสวานนท์ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไลน์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมาเราได้เพิ่มโลคอล คอนเทนต์เพื่อตอบรับกับผู้ใช้ชาวไทยมากขึ้น สติกเกอร์ก็เริ่มต้นจากมีข้อความภาษาไทยเข้าไป และมีการทำร่วมกับ Influencer บนโลกออนไลน์ ปีนี้ก็ได้เพิ่มสติกเกอร์ที่เป็นคาแร็กเตอร์ของเซเลบริตี้เข้าไปด้วย เราจะมีการคัดเลือกคนที่คิดว่ามีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ”
เท่ากับว่าตอนนี้ไลน์มีสติกเกอร์ที่เป็นเซเลบริตี้ ได้แก่ ชมพู่, แพรี่พาย, มาดามมด, บี้ สุกฤษฎิ์, ปาล์มมี่, ไทเทเนี่ยม และมาริโอ้ จะมีทั้งแบบโฟโต้ สติกเกอร์เป็นรูปภาพ และเป็นแบบภาพวาด
แต่ความแตกต่างของสติกเกอร์เซเลบริตี้ระหว่าง Official Sticker กับครีเอเตอร์ สติกเกอร์อยู่ที่ “รายได้” ซึ่งครีเอเตอร์ สติกเกอร์จะมีการแบ่งสัดส่วยรายได้ 50% กับไลน์ แต่ Official Sticker ได้ในสัดส่วนที่น้อยกว่า แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเท่าไหร่
ในขณะเดียวกันก็ต้องแลกกับแรงโปรโมตที่ไลน์จะโปรโมตให้ Official Sticker มากกว่า โดยที่ครีเอเตอร์ สติกเกอร์อาจจะต้องออกแรงโปรโมตเองเสียมากกว่า
ออฟฟิเชียล สติกเกอร์ยังคงฮิต
จากผลสำรวจของผู้ใช้ และผู้ขายสติกเกอร์บนโลกออนไลน์ระหว่างสติกเกอร์ของเซเลบฯ ทั้งสองแบบ Official Sticker และครีเอเตอร์ สติกเกอร์
พบว่าสติกเกอร์แบบ Official ได้รับความนิยมมากกว่า เพราะผู้ใช้ได้เห็นผ่านหน้าแรกของสติกเกอร์ชอปในไลน์ ส่วนครีเอเตอร์ สติกเกอร์คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเท่าไหร่ว่ามีสติกเกอร์อะไรบ้าง
และสติกเกอร์แบบโฟโต้ สติกเกอร์ที่เป็นรูปภาพของดาราก็ได้รับความนิยมกว่าแบบรูปภาพเช่นกัน เพราะได้เห็นหน้าที่ชัดเจน ต่างจากภาพวาดที่บางคนอาจจะมองไม่ออกว่าเป็นดารา แต่เทรนด์ที่คนชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือสติกเกอร์ที่มีเสียง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงตลาดของครีเอเตอร์ สติกเกอร์ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่วงการศิลปิน หรือนักออกแบบอีกต่อไป แต่มีทั้งเพจดังในเฟซบุ๊ก และดาราต่างพากันเห็นโอกาสจากช่องทางการใช้สติกเกอร์ไลน์
โดยที่เป็นทั้งช่องทางหารายได้ และเป็นเครื่องมือสร้างแบรนด์ให้แกร่งมากยิ่งขึ้น เพราะสติกเกอร์ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนไปแล้ว