หลายคนคงเคยได้ยิน หรือเคยใช้ประโยคประจำชาติอย่าง “เค้าบอกว่า” กันเป็นประจำ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการเล่าเรื่องราว หรือคำเชื่อต่างๆ ต่อๆ กันผ่านปากต่อปาก หรือรุ่นสู่รุ่น แต่หารู้ไม่ว่าคำว่าเค้าบอกว่าที่เราแอบอ้างกันอยู่ทุกวันนี้ “เค้าคือใคร” เราเองก็ไม่รู้ที่มาจริงๆ ว่ามาจากใคร เป็นข้อมูลที่จริงเท็จแค่ไหน และน่าเชื่อถือเพียงใด
ประกอบกับพฤติกรรมของคนไทยที่อ่อนน้อมถ่อมตน และพร้อมที่จะรับหรือเชื่ออะไรกันง่ายๆ อยู่แล้ว ข้อมูลต่างๆ จึงกลายเป็นความเชื่อที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจนโต หลายคนกล่าวเพราะความเคยชิน แต่ไม่ทันได้คิดถึงความจริงของข้อมูลเลย
แบรนด์น้ำตาล “วังขนาย” จึงนำประเด็น “เค้าบอกว่า” มาตั้งคำถามให้กลายเป็นไอเดียทางการตลาดได้อย่างเฉียบคม สามารถมาเชื่อมโยงกับความเชื่อของคนไทย เข้าถึงพฤติกรรมและนิสัยของผู้บริโภคที่เลือกจะเชื่อสิ่งที่อยู่ในกระแส เชื่อในสิ่งที่ไม่ใช่โฆษณา
วังขนายได้เลือกใช้สื่อในหลากหลายรูปแบบ เริ่มจากสื่อในระดับแมส เป็นสื่อโฆษณา แต่ไม่ใช่เพื่อการโฆษณา! เป็นบิลบอร์ดสามมิติปริศนา 3 ป้ายทั่วกรุงเทพถูกติดตั้งพร้อมๆ กัน ใครที่เคยผ่านน่าจะพอจำได้ ซึ่งนำ 3 ความเชื่อยอดนิยมของคนไทยมาอยู่บนบิลบอร์ด ได้แก่ ผู้หญิงเก่ง มักขึ้นคาน, นกขี้ใส่ จะโชคดี และคนหัวล้านมักน้อยใจ สามารถสร้างกระแส #เค้าบอกว่า และ #เค้าคือใคร ได้อย่างมากมายบนโลกออนไลน์
จากนั้นเริ่มสร้างการรับรู้สู่คนรุ่นใหม่โดยกลุ่ม Online Influencer อย่างเช่น “คัตโตะ” วงลิปตา ที่มีคอนเทนต์ถูกใจคนรุ่นใหม่อยู่แล้ว โดยวังขนายได้เชื่อมโยงแคมเปญให้เข้ากับคอนเทนต์ของคัตโตะอย่างเนียบเนียน โดยให้คนที่สนใจเข้าไปติดตามแคมเปญได้ที่เว็บไซต์ www.thailandwhosaid.com
รวมถึงการทำภาพยนตร์สั้นออนไลน์ ผลงานโดย “เอส คมกฤษ ตรีวิมล” ผู้กำกับชื่อดังจากค่าย GTH ภาพยนตร์สั้นออนไลน์ 6 เรื่อง มีเนื้อหาในการบอกเรื่องราวเกี่ยวกับ 6 ความเชื่อสุดฮิตของคนไทย ได้แก่ ให้สาวบริสุทธิ์ปักตะไคร้แล้วฝนจะไม่ตก, จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน, มองลอดหว่างขาจะเห็นผี, คนหัวล้านมักใจน้อย, คนเงียบมักซาดิสม์ และนกขี้ใส่หัวแล้วจะโชคดี สามารถรับชมผ่านทางเว็บไซต์เช่นกัน
สุดท้ายแล้ว ใจความสำคัญที่วังขนายต้องการสื่อสารเกี่ยวกับแคมเปญนี้ก็คือ เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบความจริงว่า “น้ำตาลทรายขาว ทุกถุง ทุกยี่ห้อ ไร้สารฟอกขาวมานานกว่า 20 ปีแล้ว” เพราะความเชื่อของผู้บริโภคที่มีต่อน้ำตาลทรายนั้นใช้สารฟอกสีมาโดยตลอด วังขนายเองก็เช่นกัน ที่ไร้สารฟอกขาวมานานแล้ว
แต่ที่จริงแล้วประเทศไทยเลิกใช้สารฟอกขาวผลิตน้ำตาลทรายขาวมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีใครมาประกาศให้ประชาชนรับรู้ชัดเจนว่าความจริงเท่านั้นเอง
อีกนัยหนึ่ง วังขนายก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมคนไทย ให้หยุดคิดก่อนที่กล่าวอ้างประโยค “เค้าบอกว่า” โดยย้อนกลับมาคิดสัดนิดว่า “เค้าคือใคร”
