รอยเตอร์ส – กระทรวงพาณิชย์จีนคาดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติจะเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 4 ในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะรัฐบาลกลางพยายามส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น
สำนักข่าวซินหวารายงาน (20 ก.ค.) อ้างนายหวัง โซ่วเหวิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงฯ ระบุตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนอาจแตะระดับสูงสุดที่ 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.25 ล้านล้านบาทในปีนี้ หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในเศรษฐกิจนอกแดนมังกร
เอฟดีไอของจีนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1.7 ในปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 แม้ว่ามูลค่าการลงทุนสุทธิจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 119,600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4 ล้านล้านบาทก็ตาม
ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจก็กระตุ้นบรรดาบริษัทและผู้ประกอบการชาวจีนนำเงินออกไปลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศจนกลายเป็นกระแสนิยมและคาดว่ามีสิทธิ์ดีดตัวขึ้นไปเทียบเท่าหรือแซงหน้าการลงทุนที่ไหลเข้าสู่ประเทศ
“เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกซบเซาอย่างต่อเนื่อง การฟื้นฟูในกลุ่มประเทศนักลงทุนรายใหญ่ก็ค่อนข้างล่าช้า รวมถึงการลดขนาดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา เอฟดีไอของจีนจึงยังคงเผชิญความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลังนี้” หวังกล่าว
ทั้งนี้การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติของจีนในช่วงหกเดือนแรก ปี 58 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ไปอยู่ที่ 68,400 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.33 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เอฟดีไอจัดเป็นตัวชี้วัดสุขภาพของเศรษฐกิจภายนอกประเทศ ซึ่งช่วยพยุงภาคการผลิตขนาดมหึมาของจีน แต่เป็นเพียงปัจจัยเล็กๆ ของการเคลื่อนย้ายเงินทุนสุทธิ (overall capital flows) เมื่อเทียบกับภาคการส่งออก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา