สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรมคนไทยกับการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์
ผลสำรวจพบว่า ผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ในรอบ 6 เดือน โดยส่วนใหญ่ จะซื้อสินค้า/บริการที่มีมูลค่าไม่เกินครั้งละ 1,000 บาท ยกเว้นกลุ่มสินค้าประเภทการเงิน/การลงทุนและการซื้อแพคเกจเดินทาง/ท่องเที่ยว โดยกลุ่มสินค้าที่มี
การซื้อไม่เกิน 1,000 บาท มากเป็นอันดับที่ 1 ได้แก่ การซื้อบริการดาวน์โหลดริงโทน/ เพลง/ ภาพยนตร์/ละคร/เกมออนไลน์ คิดเป็น 78.8% อันดับที่ 2 เป็นสินค้าอัญมณี/เครื่องประดับ คิดเป็น 57.0% ส่วนอันดับที่ 3 และ อันดับที่ 4 มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยอันดับที่ 3 เป็นสินค้าเพื่อความบันเทิง เช่น ตั๋วชมภาพยนตร์, คอนเสิร์ต, การแสดงต่างๆ 45.3% และอันดับที่ 4 สินค้ากลุ่มแฟชั่น 45.1%
ในขณะที่การลงทุนทางการเงิน และการซื้อแพคเกจเดินทาง/ท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะซื้อครั้งละมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป คิดเป็น 76.6% และ 37.2% ตามลำดับ
“ผู้ใหญ่” โดยหลอกง่าย ประสบการณ์น้อยท่องเน็ต มักให้ข้อมูลสำคัญโดยไม่รู้ตัว
จากผลสำรวจพบว่าผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ มักจะให้กับผู้ขายสินค้า/บริการทางออนไลน์ แต่เมื่อเทียบกับเจนเนอเรชั่นแล้ว พบว่า ผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ที่มี “อายุมาก” จะมีสัดส่วนการให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญกับร้านค้าออนไลน์สูงกว่าคนที่มีอายุน้อยกว่า
นั่นแสดงว่ากลุ่ม Baby Boomer และ Gen X เป็นกลุ่มอายุที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการจะได้รับความเสียหายจากการที่บุคคลผู้ไม่หวังดีอาจจะนำเอาข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญ เช่น อีเมล, ระดับรายได้ และหมายเลขบัตรประชาชนไปใช้ในทางที่ผิดสูงกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ
โดยกลุ่ม Baby Boomer จะให้ข้อมูลอีเมล 72.8%, ระดับรายได้ 7.7% และหมายเลขบัตรประชาชน 15.8% กับร้านค้าออนไลน์ ในขณะที่ Gen X จะให้ข้อมูลอีเมล 75.4%, ระดับรายได้ 6.1% และหมายเลขบัตรประชาชน 10.7% กับร้านค้าออนไลน์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าวัยอื่นๆ
ในที่นี้รวมถึงการโดนหลอกลวงเรื่องเงินด้วย อาจจะโดนหลอกให้ซื้อสินค้า แต่ทางร้านไม่จัดส่งให้ หรือเป็นมิจฉาชีพแฝงตัวมาเป็นร้านค้าออนไลน์ ถึงแม้ว่าคน 2 กลุ่มนี้จะมีวุฒิภาวะที่มากก็ตาม แต่ในเรื่องประสบการณ์ทางด้านการใช้อินเตอร์เน็ตอาจจะยังน้อยอยู่ บางรายเพิ่งหัดใช้อินเทอร์เน็ตก็ว่าได้
เมื่อเทียบกับเด็กกลุ่ม Gen Y หรือ Gen Z ที่แม้ว่าจะมีอายุน้อย แต่มีประสบการณ์ในเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า ทำให้เด็กสองกลุ่มนี้มีอัตราการโดนหลอกเรื่องซื้อของออนไลน์น้อยกว่ากลุ่มผู้ใหญ่
ถอดพฤติกรรมคนไทย กับการซื้อสินค้าออนไลน์
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรมคนไทยกับการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์
ผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 35.1% จากจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ระบุว่าไม่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ ด้วยสาเหตุหลัก คือ กลัวโดนหลอก 57.6% รองลงมา คือ การไม่ได้สัมผัส/ไม่ได้ลองก่อนซื้อ 42.1% และในเว็บไซต์ หรือร้านค้าออนไลน์ไม่มีสินค้าที่ผู้ตอบต้องการ 32.2%
ส่วนผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์โดยส่วนใหญ่ 58.2% เข้าเว็บไซต์ขายสินค้า/บริการทางออนไลน์ เพราะต้องการเข้าไปดูรีวิว/ความคิดเห็นของผู้ที่เคยซื้อ/ใช้สินค้า/บริการดังกล่าวเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการดังกล่าว โดยเฉพาะเพศหญิง 60.8% และเพศที่สาม 59.1% จะมีสัดส่วนในการใช้ช่องทางนี้สูงกว่าเพศชาย 56.4%
ส่วน Gen Z และ Gen Y เป็นกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากคำแนะนำของ Blogger/Net Idol/ดาราเซเลบ ในการเข้าเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ สูงกว่าเจนเนอเรชั่นอื่นๆ
สินค้า/บริการที่นิยมสั่งซื้อออนไลน์มากที่สุด 3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 42.6% สินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องประดับ
อันดับที่ 2 27.5% อุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์
อันดับที่ 3 24.4% สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม เช่น เครื่องสำอาง, อาหารเสริม
โดย Gen X, Gen Y และ Gen Z มีสัดส่วนของการเคยซื้อสินค้ากลุ่มแฟชั่น, อัญมณี/เครื่องประดับ และสินค้าเพื่อความบันเทิงสูงกว่ากลุ่ม Baby Boomer ในขณะที่กลุ่ม Baby Boomer, Gen X และ Gen Y จะมีสัดส่วนของเคยซื้อสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม, อุปกรณ์ไอที และบริการแพคเกจเดินทาง/ท่องเที่ยวสูงกว่า Gen Z
ช่องทางการชำระเงินยอดนิยมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในยุคนี้
อันดับที่ 1 65.5% การโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร
อันดับ 2 31.2% โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม
อันดับที่ 3 26.4% ชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ บัตรเครดิต
เมื่อเปรียบเทียบช่องทางการชำระเงินกับกลุ่มอายุของผู้ที่เคยซื้อเคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ พบว่า Gen X และ Baby Boomer ใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้า/บริการทางออนไลน์ สูงว่ากลุ่มวัยอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ คิดเป็น 50.4% และ 51.5% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาช่องทางการชำระเงินค่าสินค้า/บริการที่ซื้อทางออนไลน์เทียบกับกลุ่มอายุของผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ พบว่า Gen X และ Baby Boomer ใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าสินค้า/บริการทางออนไลน์ สูงว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ถึงกว่า 50% ซึ่งกลุ่ม Gen X และกลุ่ม Baby Boomer เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการชำระเงินค่าสินค้า/บริการที่ซื้อทางออนไลน์สูงกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่นิยมใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ แต่กลับขาดความระมัดระวังในการกรอกข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญให้กับร้านค้าออนไลน์
อีกทั้งเนื่องจากเป็นวัย หรือกลุ่มใหม่ที่เข้าใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่ค่อยระมัดระวังกับการให้ข้อมูลเวลาซื้อของออนไลน์ หรือตามไม่เท่าคนอื่น แต่ในขณะที่กลุ่มเจนวาย แม้จะอายุน้อย แต่มีความระมัดระวังในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอย่างมาก
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการผ่านช่องทางออนไลน์
– 51.2% การนำเสนอข้อมูลสินค้าของเว็บไซต์ที่ถูกต้องครบถ้วน
– 50.5% ความชัดเจน และความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์
– 46.4% สินค้าและบริการถูกกว่าร้านค้าปกติ
– 46.1% ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสามารถสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
– 41.6% โปรโมชั่นโดนใจ
ปัญหาที่เกิดจากการซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์
อันดับที่ 1 58.7% ได้รับสินค้าล่าช้ากว่ากำหนด
อันดับที่ 2 29.9% ได้รับสินค้าไม่ตรงตามในเว็บไซต์
อันดับที่ 3 24.% สินค้าที่ได้รับมาเกิดความชำรุดเสียหาย