เอชทีซี (HTC) บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของไต้หวันถูกปลดออกจากรายชื่อ 50 อันดับบริษัทยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน (TWSE 50 Index) แล้ว โดยหล่นลงมาอยู่ในกลุ่ม Mid-Cap 100 ที่มีมูลค่าเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ของตลาดหุ้นโดยรวมแทน
ถือเป็นช่วงมรสุมของบริษัทเอชทีซีอย่างแท้จริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี เอชทีซีทำรายได้เพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทขาดทุนเป็นเงิน 5.1 พันล้านเหรียญไต้หวัน หรือประมาณ 155 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วยการปรับลดพนักงานทั่วโลกลง 15 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นตัวเลขประมาณ 2,250 ตำแหน่ง และหุ้นของบริษัทที่ร่วงลงไป 66 เปอร์เซ็นต์
การหล่นจาก TWSE 50 ของไต้หวันยังมีผลทำให้ราคาหุ้นเอชทีซียิ่งร่วงหนักไปอีก โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ไม่ต้องการถือหุ้นที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม TWSE 50
แม้เอชทีซีจะเดินมาไกลมากนับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยในช่วงแรกนั้นบริษัทผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์มือถือแบบหน้าจอสัมผัส อีกทั้งยังเป็นผู้พัฒนาโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์เป็นบริษัทแรกของโลกด้วย อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเอชทีซีไม่ติดอันดับผู้นำของตลาดสมาร์ทโฟนอีกต่อไป โดยผู้นำในยุคนี้คือ แอปเปิล (Apple) ซัมซุง (Samsung) และแอลจี (LG)
ขณะที่ในตลาดล่าง เอชทีซีก็เจอคู่แข่งจากจีน เช่น เสี่ยวหมี่ (Xiaomi) และเลอโนโว (Lenovo) คอยแย่งลูกค้า
นักการตลาดบางรายวิจารณ์ว่า เหตุที่เอชทีซีเจอมรสุมเช่นนี้มาจากบริษัทตั้งงบประมาณในการทำตลาดเอาไว้น้อยเกินไป โดยอ้างว่า งบประมาณด้านการตลาดเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Galaxy S6 ของซัมซุงนั้นสูงเท่ากับงบการตลาดของเอชทีซีทั้งปีเลยทีเดียว
ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายก็วิจารณ์ว่า มาจากตัวผลิตภัณฑ์ของเอชทีซีเองที่ไม่มีนวัตกรรมมาดึงดูดใจผู้บริโภคเพียงพอ แม้บริษัทจะมีการพัฒนาโปรดักต์ในหลายๆ กลุ่มแล้วก็ตาม เช่น กลุ่มอุปกรณ์ Fitness Tracker ในชื่อ Grip หรือกลุ่มหูฟัง
อย่างไรก็ดี ในวันที่ถูกถอดชื่อออกจาก TWSE 50 เอชทีซีก็ได้มีการประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟน HTC Desire 728 ในจีนอย่างเป็นทางการ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวมาพร้อมหน้าจอ 5.5 นิ้ว รองรับ Dual SIM และใช้แอนดรอยด์ 5.1 Lollipop
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีรายงาน “Vive” อุปกรณ์สวมศีรษะเพื่อประสบการณ์ Virtual Reality ของเอชทีซีก็มีแผนจะวางจำหน่ายในช่วงสิ้นปีนี้้ด้วย ซึ่งมีการระบุว่า มีการดึงนักพัฒนากว่า 1 พันคนมาช่วยพัฒนาคอนเทนต์สำหรับคอเกม ความบันเทิง และการศึกษาเลยทีเดียว
แม้เอชทีซีจะหลุดจาก TSWE 50 มาแล้ว แต่บริษัทก็ยังคงอยู่ในกลุ่ม Mid-Cap 100 ของตลาดหุ้นไต้หวัน ซึ่งประกอบด้วยบริษัทระดับกลาง 100 แห่ง อย่างไรก็ดี มูลค่าของบริษัททั้ง 100 แห่งนี้รวมกันแล้วคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของตลาดหุ้นไต้หวันเท่านั้น
ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000101590