นักวิเคราะห์ฟันธงไมโครซอฟท์กำลังแสดงความมั่นใจครั้งใหม่ผ่านการเปิดตัว ‘เซอร์เฟซ บุ๊ก (Surface Book)’ ซึ่งเป็นสินค้ารุ่นใหญ่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในบรรดานานาสินค้าระบบปฏิบัติการ ‘วินโดวส์ เทน (Windows 10)’ ที่ถูกเปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เดิมพันนี้ของไมโครซอฟท์ถูกมองว่าเป็นการปิดประตูไม่ร่วมวงเล่นในตลาดแท็บเล็ตสำหรับคอนซูเมอร์อย่างชัดเจน แต่จะรุกหนักเต็มสูบในวงการคอมพิวเตอร์วางตักธรรมดาดั้งเดิมแทน
เดิมพันของไมโครซอฟท์ถูกตอกย้ำในงานใหญ่ที่ถูกจัดขึ้นที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา งานนี้ถือเป็นอีกงานช้างในรอบ 20 เดือนที่ซีอีโอใหม่ ‘สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella)’ ขึ้นรับตำแหน่งหัวเรือไมโครซอฟท์ เนื่องจากที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเองมาตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ถูกบริษัทอื่นแซงในช่วง 10 ปีข้างหน้า และสินค้าที่ถูกเปิดตัวในงานนี้จะสามารถสะท้อนเส้นทางที่ไมโครซอฟท์เตรียมเดินไปในอนาคต
ดาวเด่นของงานนี้ไม่ใช่แท็บเล็ตใหม่ ‘เซอร์เฟซ โปร โฟร์ (Surface Pro 4)’ อย่างที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ แต่เป็น ‘เซอร์เฟซ บุ๊ก (Surface Book)’ สินค้าที่ได้รับคำชมว่าสามารถเรียกความสนใจจากสาธารณชนได้อย่างงดงามเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของไมโครซอฟท์
ฆ่าตัดตอนคอมพ์วางตัก
หลังจากประสบความสำเร็จกับ Surface Pro 3 ไมโครซอฟท์เปิดตัวแท็บเล็ตใหม่ตระกูลเซอร์เฟซโปรในชื่อ Surface Pro 4 ชูจุดขายเรื่องหน้าจอใหญ่กว่าแต่ตัวเครื่องเล็กลง โดยหน้าจอที่ถูกเพิ่มขนาดเกิดขึ้นบนการลดเนื้อที่ขอบเครื่อง ขณะที่ Surface Book ถูกแจ้งเกิดให้สามารถพับหน้าจอโดยหักคีย์บอร์ดไปด้านหลัง เมื่อพับแล้ว Surface Book จะสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสที่สามารถใช้งานได้ดีกับปากกาใหม่ล่าสุด ‘เซอร์เฟซ เพน (Surface Pen)’
ดีเดย์สั่งจอง Surface Pro 4 คือ 26 ตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับ Surface Book คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กซึ่งสามารถพับเพื่อใช้งานเป็นแท็บเล็ตที่จะวางขายในราคา 1,499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท
อุปกรณ์ตระกูล Surface ถูกวิจารณ์ว่าเป็น ‘เพชรฆาตแล็บท็อป’ หรือ laptop killer ที่จะดึงความสนใจจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทั่วไป โดย Surface ทั้ง 2 รุ่นใหม่ถูกวางตัวให้สามารถใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์พกพาได้สะดวกกว่าแท็บเล็ตทั่วไป
Surface Pro 4 ถูกออกแบบให้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 12.3 นิ้ว แต่เป็นการเพิ่มขนาดที่เกิดขึ้นบนการลดเนื้อที่ขอบเครื่อง ทำให้รุ่น 4 มีขนาดเครื่องที่บางกว่า Surface Pro 3 ซึ่งมีหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ข้อมูลความละเอียดหน้าจอคือ 2,736×1,824 พิกเซล ความหนาแน่นในการแสดงผล 267 พิกเซลต่อนิ้ว
การเพิ่มขนาดแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์เป็นความเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับผู้ผลิตรายอื่น ทั้งแอปเปิล (Apple) กูเกิล (Google) และแบรนด์ผู้ผลิตแท็บเล็ตต่างพยายามหนีตายด้วยการสร้างแท็บเล็ตที่มีความเหนือกว่าสมาร์ทโฟนจอใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อุปกรณ์ลูกผสมที่สามารถใช้งานได้ทั้งแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์พีซีเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอุปกรณ์ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบเมื่อเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดพกพา
ไมโครซอฟท์ประสบความสำเร็จมากกับการพัฒนาแท็บเล็ตลูกผสมสไตล์นี้ ตัวเลขล่าสุดคือสินค้ากลุ่ม Surface มียอดจำหน่ายเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐเรียบร้อย มูลค่านี้คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2013
แม้ Surface Pro 4 จะถูกคาดหวังว่าจะสามารถทำเงินให้ไมโครซอฟท์มากขึ้น แต่ Surface Pro 4 จะต้องพบกับการแข่งขันดุเดือดจากสินค้าอย่าง ‘ไอแพด โปร (iPad Pro)’ หน้าจอ 12.9 นิ้วความละเอียดจอภาพ 2,732×2,048 พิกเซลบนชิป A9x ซึ่งสามารถแสดงผล 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกัน รวมถึง ‘พิกเซล ซี (Pixel C)’ แท็บเล็ต กูเกิลหน้าจอ 10.9 นิ้วที่สามารถแปลงร่างเป็นคอมพิวเตอร์วางตักได้เมื่อเสียบคีย์บอร์ดแม่เหล็ก
สิ่งที่แสดงว่าไมโครซอฟท์ตัดสินใจไม่ยุ่งกับตลาดแท็บเล็ตสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งไอแพดครองตลาดอยู่ คือ Surface Pro 4 ถูกไมโครซอฟท์จัดเต็มให้ผู้ใช้อัปเกรดพื้นที่หน่วยความจำสูงสุดถึง 1 เทราไบต์ บนหน่วยความจำ RAM ขนาด 16GB ความสามารถนี้ทำให้ไมโครซอฟท์พูดเต็มปากว่า Surface Pro 4 ไม่ใช่อุปกรณ์ในตลาดเดียวกับไอแพดของแอปเปิล
สำหรับ Surface Book คอมพิวเตอร์วางตักขนาดหน้าจอ 13.5 นิ้ว ความละเอียด 267 พิกเซลต่อนิ้วนี้ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถเหนือกว่า Surface รุ่นปกติ โดยสามารถพับหน้าจอด้วยการหักคีย์บอร์ดไปด้านหลัง เมื่อพับแล้ว Surface Book จะสามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตหน้าจอสัมผัสที่สามารถใช้งานได้ดีกับปากกาใหม่ล่าสุด ‘เซอร์เฟซ เพน (Surface Pen)’
ไมโครซอฟท์ตั้งชื่อปากกาสไตลัสรุ่นใหม่ของตัวเองว่า Surface Pen จนถูกมองว่าเป็นการท้าชนกับสินค้าใหม่ของแอปเปิลอย่าง Apple Pencil เบื้องต้น Surface Pen ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ดีกับสินค้าตระกูล Surface โดยเฉพาะรุ่นใหม่ทั้ง Surface Book และ Surface Pro 4 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างงานครีเอทีฟ หรือใช้แอปพลิเคชันพิเศษได้ดีกว่านิ้วมือ ข้อมูลระบุว่า Surface Pen สามารถตรวจจับความแรงในการกดได้มากกว่า 1,024 ระดับ ด้านบนของปากกามี ‘ยางลบ’ ที่สามารถใช้ลบเส้นสายที่เพิ่งเขียนได้เหมือนดินสอ ตัวปากกามีแถบแม่เหล็กทำให้สามารถติดยึดกับเครื่อง Surface เพื่อการพกพาที่ง่ายขึ้น
Windows 10 ทะลุ 110 ล้านชิ้น
นอกจากแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์พับได้ ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัวนานาสินค้าที่เชื่อว่าจะทำให้ระบบปฏิบัติการใหม่ของบริษัทมีอิทธิพลมากขึ้นในตลาดโลก โดยปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ระบุว่า Windows 10 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ถูกติดตั้งในอุปกรณ์มากกว่า 110 ล้านชิ้นแล้ว ถือเป็นสถิติใหม่สำหรับระบบปฏิบัติการที่ถูกเปิดตัวในเวลา 10 สัปดาห์
สำหรับร้านดาวน์โหลดแอปพลิเคชันวินโดวส์อย่าง ‘วินโดวส์ สโตร์ (Windows Store)’ นั้นมียอดเข้าชมมากกว่า 1,250 ล้านครั้งแล้ว
นาฬิกาแบน ทู (Microsoft Band 2) คืออีกหนึ่งในสินค้าที่ถูกเปิดตัวในงานนี้ อุปกรณ์สวมใส่ได้รุ่นล่าสุดที่ไมโครซอฟท์ปรับใช้หน้าจอโค้งจะมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลรอบตัวมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงข้อมูลสุขภาพในร่างกาย แต่ยังมีระบบตรวจจับระดับรังสียูวีในแสงเดด ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาให้ Band 2 มีความสามารถที่ต่างจากนาฬิกาอัจฉริยะทั่วไปที่สามารถติดตามการนอนหลับ หรือการเผาผลาญพลังงาน เช่นเดียวกับการแจ้งเตือนสายโทร.เข้า อีเมล และข้อความใหม่
ไม่เพียง Band 2 ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัวอุปกรณ์แสดงภาพโฮโลแกรมแบบสวมใส่ได้ตระกูล ‘โฮโลเลนส์ (HoloLens)’ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายให้คอเกมได้เพลิดเพลินเต็มที่ในไตรมาสแรกของปีหน้า
ในมุมสมาร์ทโฟน โทรศัพท์มือถือเรือธงอย่าง Lumia 950 และ 950XL ก็ถูกเปิดตัวในงานนี้ด้วยตำแหน่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ไมโครซอฟท์เปิดตัวเพื่อระบบปฏิบัติการ Windows 10 Mobile อย่างเป็นทางการ โดยทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้วและ 5.7 นิ้วตามลำดับ ทั้งคู่จะวางจำหน่ายพร้อมแอปพลิเคชันในเครือไมโครซอฟท์ ทั้งสไกป์ (Skype) สำหรับการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต, คอร์ทานา (Cortana) บริการผู้ช่วยส่วนตัวเอ่ยปากสั่งได้, ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ (Microsoft Office) แอปพลิเคชันสร้างงานเอกสาร รวมถึงระบบคอนตินัม (Continuum) ซึ่งทำให้สมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ด เมาส์ และหน้าจอได้แบบไร้สาย
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของไมโครซอฟท์ใช้กล้องดิจิตอล 20 ล้านพิกเซลเป็นกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K ยังคงมาพร้อมเลนส์ ‘ไซส์ (Zeiss)’ บนแฟลช LED จำนวน 3 ตัว ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเพื่อชาวเซลฟี่ ความจุข้อมูลในสมาร์ทโฟนคือ 32GB สามารถเพิ่มได้เป็น 256GB ด้วยเมมโมรี่การ์ดเสริม หน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB
ผลสรุปเดิมพันนี้จะหมู่หรือจ่า ไมโครซอฟท์จะได้รู้ผลในไม่กี่เดือนนับจากนี้แน่นอน