บูสต์โพสต์เฟซบุคอย่างไรไม่ให้เสียเงินเปล่า

อันที่จริงแล้วการ “บูสต์โพสต์” หรือการเพิ่มการมองเห็นให้กับโพสต์ในเฟซบุคนั้นไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร เพิ่งคลิกปุ่ม “Boost Post” ที่มุมขวาล่างของแต่ละโพสต์ที่เราต้องการก็จบ แต่หากคุณกำลังคิดว่ากลยุทธ์ในการบูสต์โพสต์มีเพียงเท่านั้นละก็ คุณอาจจะกำลังเอาเงินไปละลายเล่นยิ่งกว่าเข้าบ่อนที่ลาสเวกัส วันนี้เราจะมาดูเทคนิคการบูสต์โพสต์ขั้นเทพที่เซียนโซเชี่ยลเขาทำกัน คุณจะไม่ต้องเสียเงินเปล่าไปกับผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการอีกต่อไป
 
1. เติมเชื้อไฟให้กับโพสต์ที่กำลังฮ็อต
ในการที่เราจะจ่ายเงินไปกับการบูสต์โพสต์แต่ละครั้ง สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงถึงคือเป้าหมายของการกระตุ้นการมองเห็นในแค่ละครั้งคืออะไร ต้องการทราฟฟิคเข้าสู่บล็อก? เพิ่มคลิกในหน้าแลนด์ดิ้งเพจ? มอบส่วนลดฟรี? เพิ่มยอดไลค์? ระบุเป้าหมายของตัวเองให้ชัด อย่าเสียเงินบูสต์โพสต์โดยไร้เป้าหมาย
 
สำหรับเทคนิคในการเลือกโพสต์ที่จะนำมาบูสต์นั้นก็ง่ายมาก เพียงดูฟีดแบคว่า โพสต์ใดได้รับความสนใจมากอยู่แล้วก็ควรเลือกที่จะบูสต์โพสต์นั้น เพราะถือว่าเราได้รู้คร่าวๆ แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายของเราชอบหรือไม่ชอบเนื้อหาหรือโพสต์แบบไหน การกระตุ้นให้เกิดการมองเห็นโพสต์ที่ทุกคนชอบอยู่แล้วจะทำให้คุณเสียเงินน้อยมากต่อการมองเห็น  แถมอาจจะยังได้เอ็นเกจเมนต์เพิ่มมาฟรีๆ จากการคอมเมนต์และแชร์เนื้อหาที่โดนใจด้วย
 

 
2. กลุ่มเพื่อนของแฟนเพจก็น่าสนใจ
 
โดยพื้นฐานแล้วหากเราต้องเสียเงินให้กับเฟซบุคเพื่อกระตุ้นการมองเห็นโพสต์ เราก็ควรเลือกให้กลุ่มแรกที่มองเห็นคือคนที่เป็นแฟนของเราอยู่แล้ว แม้จะต้องจ่ายเงินมากกว่า แต่คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเอ็นเกจกับโพสต์ของเรามากกว่า อาจกลายมาเป็นสมาชิก ร่วมกิจกรรม หรือเป็นลูกค้าซื้อสินค้าของเราได้มากกว่า
 
แต่ถ้าเรายังมีแฟนเพจจำนวนไม่มาก เราจะทำอย่างไรดี? คำตอบคือกลุ่ม “เพื่อนของแฟนเพจ” ถือเป็นกลุ่มถัดไปที่ควรมุ่งเป้า แต่ข้อควรระวังก็คือต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายให้ชัด จำกัดการมองเห็นไปยังกลุ่มเพื่อนของแฟนเพจที่น่าจะสนใจเนื้อหาของเพจเรา ด้วยการระบุลักษณะของผู้รับสารที่ต้องการทั้งจากโลเคชั่น อายุ พฤติกรรมต่างๆ ซึ่งทางเฟซบุคจะมีให้เลือกค่อนข้างละเอียดในส่วนของความสนใจของผู้ใช้
 

 
3. จ่ายเงินเมื่อมีผลลัพธ์เท่านั้น!
จงยอมเสียเงินเพื่อเอ็กเกจเมนต์ไม่ใช่อิมเพรสชั่น เมื่อเราบูสต์โพสต์ที่มีเนื้อหาดี มีคุณค่าทางธุรกิจแล้ว เราจะไม่สนใจว่าจะมีคนเห็นโพสต์นั้นมากแค่ไหน แต่เราควรสนใจว่ามีคนที่สนใจเนื้อหาโพสต์จริงๆ เท่าไหร่
 

 
ดังนั้น ในหน้าเลือกงบประมาณที่จะจ่าย เลือกประเภทการจ่ายเงินเป็นจ่ายตามยอดการเอ็นเกจเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นการกดไลค์ คอมเมนต์ หรือแชร์ แล้วการซื้อโฆษณาผ่านเฟซบุคของเรา จะไม่ใช่การแบ่งปันเสียเงินเปล่าอีกต่อไป