หลังจากที่มีข่าวช็อควงการสำหรับการประกาศยุบค่ายหนัง GTH และการประกาศแยกทางของ 3 ผู้ถือหุ้น ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และหับ โห้หิ้น บางกอกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพราะด้วยความคิดเห็นไม่ตรงกันเรื่องการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในตอนนั้นเองทางหับ โห้หิ้น บางกอก ได้เปรยไว้อยู่แล้วว่าจะมีการเปิดตัวบริษัทใหม่ในเดือนธันวาคม ซึ่งยังผลิตภาพยนตร์ต่อไป
ล่าสุดได้มีการประกาศเปิดตัวบริษัทใหม่อย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อย โดยเป็นการร่วมมือกันของ G และ H เช่นเดิม นั่นคือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และหับ โห้หิ้น บางกอก ใช้ชื่อใหม่ว่า GDH 559 (จีดีเอช ห้าห้าเก้า) ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นก็คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 51% บริษัท หับ โห้หิ้น บางกอก จำกัด 15% และกลุ่มผู้บริหาร คนทำงาน ผู้กำกับ และนักแสดงอีก 34%
GDH 559 ย่อมาจาก คำว่า Gross Domestic Happiness หมายถึง หน่วยที่จะวัดความสุขใจของผู้ชม และคนทำงาน ส่วนตัวเลข 559 หมายถึง ตัวเลขที่ดี ฤกษ์ดีของบริษัทที่จะเปิดในวันที่ 5 มกราคม 2559 และยังพ้องกับจำนวนผู้ถือหุ้น 59 คน
ทิศทางของGDH 559ในอนาคตไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก ยังคงผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการ โดยที่ยังคงไว้ซึ่งลายเซ็นของภาพยนตร์แบบฉบับของตัวเอง ในปีหน้ามีแผนที่จะออกภาพยนตร์ 2 เรื่องเพื่อประเดิมกับค่ายใหม่ ของ 2 ผู้กำกับ “โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล” ผู้กำกับพี่มากพระโขนง ภาพยนตร์สไตล์โรแมนติก ดราม่า นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และมิว นิษฐา จิระยั่งยืน ส่วนเรื่องที่ 2เป็นผลงานของโอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ สไตล์โรแมนติก ทิลเลอร์ มีการใช้งบลงทุนเรื่องละ 25 ล้านบาท
รวมไปถึงซีรี่ส์อีก 4 เรื่อง ไดอารี่ตุ๊ดซี่,แก๊สโซฮัก..รักเต็มถัง (โปรเจ็คต์กับ LINE TV),I see you พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง และมาลี2ทั้ง 3 เรื่องทำการฉายทางช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ใช้งบลงทุนเฉลี่ย 20-25 ล้านบาท/เรื่อง
จินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด กล่าวว่า “จริงๆ เป็นการจากกันด้วยดีของทุกๆ ฝ่าย เรามองว่าถ้าไปทะเลาะกันตอนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มันจะเรื่องใหญ่ พอเข้าตลาดเราก็ต้องไปเรียนรู้อีกเยอะทั้งในการรักษามูลค่า แต่ก็เป็นความโชคดีของเราที่คอนเทนต์ทุกอย่างสามารถจบลงภายในปีนี้ ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ คอนเสิร์ต ต่อไปเราก็ต้องลุยทำคอเทนต์เหมือนเดิม ตั้งใจเป็นคอนเทนต์ โพรไวเดอร์ที่ดีที่สุด”
ส่วนเรื่องของชื่อบริษัทที่มีความคล้ายคลึงกับชื่อเดิม จนดูเหมือนว่าตั้งใจให้คล้ายเดิมเพราะความข็งแกร่งของแบรนด์ GTH ที่ทำมาก่อนนั้น จินาได้อธิบายสั้นๆ ว่า “ตอนนี้ก็เหลือแค่ G กับ H ยังไงมันก็ต้องทำชื่อออกมาให้มีสองตัวนี้อยู่อยู่ดี”
สำหรับบริษัทในเครือของหับ โห้หิ้น บางกอกยังอยู่ครบทั้งนาดาว บางกอก, จอกว้าง ฟิล์ม, กู้ดธิงแฮพเพ่น และภาพดีทวีสุข และยังไม่มีแผนที่จะเปิดช่องเป็นของตัวเอง เพราะมองว่าเป็นคนทำคอนเทนต์ ไม่ใช่คนทำสื่อ
ส่วนในปีต่อๆ ไปอาจจะมีการเพิ่มจำนวนภาพยนตร์ในแต่ละปีมากขึ้น ในปี 2560 และ 2561 อาจจะมีภาพยนตร์ปีละ 3-4 เรื่อง
10 เรื่องน่ารู้ของ GDH 559
1. GDH 559 ย่อมาจาก Gross Domestic Happiness หรือหน่วยวัดความสุขของผู้ชม และคนทำงาน ส่วนตัวเลข 559 คือ ฤกษ์ดีในการเปิดบริษัทในวันที่ 5 มกราคม 2559 และมีหุ้นส่วน 59 คน
2. มีส่วนส่วนการถือหุ้นคือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 51% บริษัท หับ โห้ หิ้น บางกอก จำกัด 15% และกลุ่มผู้บริหาร คนทำงาน ผู้กำกับ นักแสดงอีก 34%
3. ทุนจดทะเบียนบริษัท 150 ล้านบาท คำนวนจากเงินลงทุนที่จะใช้ในปีหน้า ซึ่งจากเดิมที่เป็น GTH มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท
4. มีนักแสดง 2 คนที่เป็นผู้ถือหุ้นด้วย คือ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ และเต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
5. ในปี 2559 มีการลงทุนภาพยนตร์ 2 เรื่องโดยผู้กำกับโต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล และ โอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ด้วยงบลงทุนเรื่องละ 25 ล้านบาท
6. มีซีรี่ส์ 4 เรื่องที่จะฉายทางช่อง GMM 25 ได้แก่ ไดอารี่ตุ๊ดซี่, I see you พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง, มาลี2 และแก๊สโซฮัก..รักเต็มถัง เป็นโปรเจ็ตต์กับทาง LINE TV ใช้งบลงทุนเรื่องละ 20-25 ล้านบาท
7. ไม่มีแผนที่ชะเปิดช่องทีวีเป็นของตนเอง เพราะเน้นทำคอนเทนต์มากกว่า ไม่เน้นทำสื่อ
8. ในอนาคตอาจจะเปิดช้อปขายของที่ระลึกอีกครั้ง หลังจากปิด GTH Store ไป แต่ต้องรอให้มีคอนเทนต์ก่อน แล้วคอยทำของที่ระลึก โดยขายช่องทางออนไลน์ก่อน
9. ในปี 2560 และ 2561 อาจจะเพิ่มจำนวนภาพยนตร์ในแต่ละปีมากขึ้นเป็นปีละ 3-4 เรื่อง
10. ปัจจุบันมีผู้กำกับในสังกัดทั้งหมด 13 – 14 คน และมีพนักงานรวมทั้งหมด 170 คน (รวมบริษัทในเครือ)