‘อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ’ เปิดแผนรุกตลาด ‘ไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนส์’ (Lifestyle Experience) บุกงานพิพิธภัณฑ์ และงานนิทรรศการ (Museum and Exhibition) เจาะกลุ่มจากธุรกิจไปยังลูกค้าทั่วไป หรือบีทูซี (Business-to-Consumer) ด้วยวิธีการทำแบรนดิ้งยุคใหม่ ชี้ตลาดเมืองไทยเข้าสู่ยุค‘ดิจิ-ไลฟ์-เอ็กซ์พีเรียนส์’ (Digi-Live Experience) การผนวกสื่อดิจิตอลออนไลน์ ผู้บริโภคเสพความสดและเชื่อในประสบการณ์จริงงานต้องตอบโจทย์ชีวิตคนในยุคปัจจุบันที่กระจายตัวครอบคลุมทุกพื้นที่
เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บอกถึงแนวโน้มของธุรกิจอีเวนต์ในปี 2559 เป็นยุคที่เข้าสู่เรื่องของงานด้านดิจิตอลออนไลน์อย่างแท้จริง ชี้ปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน ( Infrastructure) ที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
1. เรื่องการคมนาคม ภาครัฐขยายเส้นทางรถไฟฟ้าออกไปสู่เขตปริมณฑลมากขึ้น และจะทยอยเสร็จในปีนี้ ทำให้ประชาชนมีความสะดวกต่อการเดินทางไปยังที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้น ประหยัดทั้งเวลาในการเดินทาง
2. การมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นตามชานเมือง ตอบรับในเรื่องของการเดินทาง และเรื่องของที่อยู่อาศัยโดยรอบกรุงเทพฯ ทำให้งานใหญ่ๆ หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในเมืองอย่างเดียว
3.ปัจจัยด้านการสื่อสาร หลังจากที่มีการประมูลสัญญาน 4G เสร็จสิ้นไป ส่งผลให้การพัฒนาในเรื่องของเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต ขยายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ ตามต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น มีการออกโปรโมชั่น
4. การแข่งขันกันของค่ายโทรศัพท์มือถือ มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา การปรับเปลี่ยนพื้นฐานโทรศัพท์จาก 2G ให้ก้าวเข้าสู่ระบบ 3G และ 4G ซึ่งจะทำให้เข้าถึงคนในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งทำให้สามารถรองรับกิจกรรมทางการตลาดได้ดียิ่งขึ้น
งานอีเวนต์ขยายสู่ต่างจังหวัด
เน้นสเกลใหญ่-เล็ก งานระดับกลางจะหายไป
จากปัจจัยดังกล่าว จะส่งผลต่อธุรกิจอีเวนต์ โดนงานต่างๆ จะไม่ได้กระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองอีกต่อไป แต่จะขยายสู่ชานเมือง และต่างจังหวัดมากขึ้นเรื่อยๆ และจะส่งผลให้สเกลของงานอีเวนต์เปลี่ยนไป โดยงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับ
1.งานที่มีสเกลระดับใหญ่ โดยงานที่มีสเกลระดับใหญ่ เพื่อตอบโจทย์ในการสร้างอิมแพคให้กับแบรนด์หรือสินค้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายวงกว้างหรือ Mass
2.งานในระดับเล็ก จะมีการอาศัยสื่อดิจิตอล งานด้านออนไลน์ เป็นตัวช่วยขยายการรับรู้ ในขณะที่งานในระดับกลางจะถูกลดลงจำนวนลงเรื่อยๆ
งานมุ่งลูกค้าเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้จากปกติงานด้านอีเวนต์ ที่มีความเฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย (Niche) ก็จะมีการแบ่งแยกย่อยลงไปอีก คือ ‘Niche’ มากยิ่งขึ้น เพราะจะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ตามความสนใจของผู้บริโภคได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
จะเห็นได้จากมีการแบ่งกลุ่มในสังคม หรือมี ‘Community’ ที่เกิดขึ้นใหม่แบบลงรายละเอียดมากยิ่งขึ้นเช่นการฟังเพลง คอนเสิร์ต ที่มีในรูปแบบความชอบที่แตกต่างกัน ความสนใจในแนวเพลงที่เฉพาะเจาะจง แตกต่างกันมากยิ่งขึ้น
เข้าสู่ยุค ดิจิ-ไลฟ์-เอ็กซ์พีเรียนส์
ต้องสด-เร็ว-จริง-เชื่อมโลกออนไลน์
การตลาดในปี 2559 จะเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า‘ดิจิ-ไลฟ์-เอ็กซ์พีเรียนส์ (Digi-Live Experience) โดยรูปแบบ งานจะต้องมีส่วนเกี่ยวโยง มีความเข้าใจในเรื่องของดิจิตอล (Digital) มีความสดใหม่แบบทันท่วงที (Live) และสร้างประสบการณ์ร่วมระหว่างกลุ่มเป้าหมาย และแบรนด์หรือสินค้านั้นๆ ได้ ด้วยปัจจัยที่ชีวิตคนเราเร็วขึ้น ง่ายขึ้น
ฉะนั้นเนื้องานที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องเป็นงานที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น และสื่อสารออกไปได้อย่างทันที ในช่วงเวลานั้นๆ เช่นเดียวกัน ต้องเกิดการรับรู้ในโลกออนไลน์ ที่สำคัญต้อง ‘เป็นเรื่องจริง’ (Real) สามารถสัมผัสผ่านการรับรู้ได้ถึงประสบการณ์ร่วมระหว่างบุคคลที่เข้าร่วมงานอีเวนต์นั้นจริงๆ กับสิ่งที่ผู้จัดงานต้องการที่จะสื่อสารด้วย
ในมุมของนักการตลาดต้องปรับแผนการสื่อสารการตลาดในด้านของงานแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ให้สอดคล้องกับไลฟสไตล์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความนิยมเดินทางท่องเที่ยวไปไหนมาไหนที่อิสระ นิยมการแชร์ และแบ่งปันประสบการณ์ร่วมในโลกของสังคมออนไลน์ เกิดเป็นชุมชนที่เป็นการรวมตัวของคนที่มีความสนใจร่วมกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
รวมถึงปรับกลยุทธ์ทางการตลาดต่างๆ เข้าสู่โลกของ ‘ดิจิตอล’ ที่มีบทบาทและอิทธิพล ตั้งแต่ตื่นนอน ออกไปทำงาน อยู่นอกบ้าน จนกระทั่งกลับมาบ้าน ที่ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันต้องการความสด เร็ว และจริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
อินเด็กซ์ มุ่งไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนส์
ในปีนี้ อินเด็กซ์ฯ ยังเดินหน้ารุกตลาดงานที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการสร้างแบรนด์ในรูปแบบใหม่ ผ่านประสบการณ์ของผู้บริโภค ทั้งงานด้าน ‘ไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรียนส์’ (Lifestyle Experience) ซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมี บริษัทในเครือที่ดูแลในเรื่องของงานด้านออนไลน์ กลยุทธ์ในการทำออนไลน์ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น แฮปปิโอ้ รวมถึงมีหน่วยงานวางแผนกลยุทธ์ในด้านการสื่อสาร ซึ่งก็ได้มีการวางแผนการทำงานด้วยกันเชื่อมโยงธุรกิจ (Synergy) เพื่อพัฒนางานในรูปแบบใหม่ๆ เชื่อมโยงการสื่อสาร งานด้านอีเวนต์ และออนไลน์ให้ผนวกเป็นเรื่องเดียวกัน
รวมถึงงานพิพิธภัณฑ์ และงานนิทรรศการ (Museum and Exhibition) ที่ทำมาต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้จะได้เห็นงานในรูปแบบใหม่ๆ ด้านพิพิธภัณฑ์ ในโปรเจคใหญ่ๆ ไม่ต่ำกว่า 3 งาน
ปี 59 ตั้งเป้ารายได้ 1.75 พันล้านบาท
ปีที่แล้วอินเด็กซ์ฯ ได้มีการขยายธุรกิจออกสู่ภูมิภาคอาเซียน ประกอบกับได้มีการจัดทัพปรับแผนกลยุทธ์เมื่อกลางปี 2558 ที่ผ่านมา และรีเฟรช (Refresh) องค์กร โดยปรับโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มหลัก โดยในปีนี้ 2559 ตั้งเป้าจะมีรายได้กว่า1.75 พันล้านบาทเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 7%
แบ่งเป็นรายได้ในแต่ละกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.ครีเอทีฟ โซลูชั่น (Creative Solutions) คิดเป็น 56.3% 2. มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (Marketing Services) คิดเป็น 32.3% 3.ธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Wings) คิดเป็น 5.2% และ 4.ไลฟ์สไตล์ เอ็กซ์พีเรี่ยน (Lifestyle Experience) คิดเป็น 6.2%