ตลาดกล้องมิลเลอร์เลสยังคงเป็นตลาดเนื้อหอมที่หลายแบรนด์ลงมาจับจอง เพราะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เมื่อมาดูภาพรวมตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทย ปี 2558 มีมูลค่า 6,200 ล้านบาท เติบโต 2% ถ้าในแง่ปริมาณจำนวน 310,000 ตัว ลดลง 18% โดยที่กล้อง DSLR มีการลดลงมากที่สุด 30% รองลงมาเป็นคอมแพ็คมีการลดลง 20%
ซึ่งดาวรุ่งยังคงเป็นกล้องมิลเลอร์เลสที่เติบโตทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ 90% ทำให้สัดส่วนของกล้องมิลเลอร์เลสนำขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 57% DSLR 29% และกล้องคอมแพ็ค 13% จากที่เมื่อ 3-4 ปีก่อนสัดส่วนของกล้องมิลเลอร์เลอยู่เพียงแค่ 3-5% เท่านั้น
ถึงแม้ว่า “ฟูจิฟิล์ม” จะเป็นผู้เล่นแบรนด์หลังๆ ที่ลงมาบุกตลาดกล้อง “มิลเลอร์เลส แต่ถ้ามีการทำตลาดที่ถูกจริตกับผู้บริโภค คำว่ามาทีหลังก็ไม่สามารถทำอะไรเช่นกัน ในทางกลับกันยังส่งผลให้ฟูจิฟิล์มขึ้นบัลลังก์แชมป์ในตลาดกล้องมิลลเลอร์เลสอีกด้วย ด้วยส่วนแบ่งตลาด 40%
ฟูจิฟิล์มได้ปั้นกล้องตระกูล X Series ขึ้นมา โดยโฟกัสที่กล้องในตระกูลมิลเลอร์เลส ในปี 2558 ที่ผ่านมาฟูจิฟิล์มได้ประสบความสำเร็จกับกล้องมิลเลอร์เลส 2 รุ่น ได้แก่ X-A2 และ X-T10 โดยเฉพาะรุ่น X-A2 ที่เป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาว์นอย่างมากในโลกออนไลน์ เพราะเป็นกล้องที่ตอบโจทย์สาวๆ ที่ชอบถ่ายเซลฟี่ แต่ให้ภาพที่ดูฟรุ้งฟริ้งแบบฮิปสเตอร์ได้ อีกทั้งยังได้พลังของเน็ตไอดอลมาช่วยดันให้ X-A2 เป็นที่รู้จัก และเป็นที่หมายปองของสาวๆ
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟูจิฟิล์มประสบความสำเร็จนอกจากเรื่องเทคโนโลยีที่มีการผลิตเองแล้ว เรื่องดีไซน์ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยใช้ความ “คลาสสิค” เข้ามามีส่วนร่วม ให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกว่ากล้องถ่ายรูปเป็นเหมือนเครื่องประดับหนึ่งที่สามารถห้อยคอได้อย่างไม่เคอะเขิน
แต่ทั้ง 2 รุ่นที่ได้กล่าวมานั้นเรียกว่าเข้ามาตีตลาดกลุ่มผู้ใช้ระดับเริ่มต้นที่จากเดิมมีการใช้สมาร์ทโฟนถ่ายภาพ แต่ต้องการกล้องอีกตัวเพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งฟูจิก็เริ่มจับทางได้ และมาถูกทาง แต่โจทย์ใหญ่ของฟูจิในปีนี้คือเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 50%
ทำให้ฟูจิต้องเพิ่มไลน์อัพสินค้าที่มีเลเวลสูงขึ้น จึงได้เปิดตัวกล้องมิลเลอร์เลสแฟล็กชิพตัวใหม่ X-Pro2 ที่จะเข้ามาท้าชิงเซ็กเมนต์ DSLR ให้สั่นสะเทือน โดยที่ไม่ได้แตกไลน์สินค้า DSLR โดยตรงแต่อย่างใด แต่ใช้สเป็คกล้องที่เทียบเท่า และใช้จุดเด่นที่ความเป็นกล้องมิลเลอร์เลส พร้อมเปิดตัว “ปั๊บ โปเตโต้” หรือ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์
สิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายของเราในปีนี้ก็คือการรักษาความเป็นผู้นำ และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 50% ทำให้เราต้องขยับไปเล่นตลาดบนมากขึ้นออกสินค้าแบบฟูลเฟรมเพื่อดึงกลุ่มคนที่เล่น DSLR ทำให้ไลน์สินค้าเราก็ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครบ ส่วนกล้องคอมแพ็คที่ตอนนี้เรามี 2 รุ่นในอนาคตปี 2017 อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ เพราะทิศทางไปทางกล้องมิลเลอร์เลสหมด”
สาเหตุที่เลือกใช้ปั๊บเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็เพราะว่าปั๊บเป็นยูสเซอร์ที่ใช้กล้องฟูจิอยู่แล้ว มีแพชชั่นในการถ่ายภาพ และฟูจิต้องการสื่อสารกับกลุ่มผู้ชายรุ่นใหม่ ในขณะที่คู่ขนานไปกับรุ่น X-T10 ที่ใช้แป้งโกะเป็นพรีเซ็นเตอร์เพราะต้องการเจาะกลุ่มสาวๆ
“การแข่งขันในตลาดกล้องยังคงดุเดือดอีกแน่นอน และมิลเลอร์เลสก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด มองว่านิคอน และแคนนอนก็จะลงมาเล่นตลาดมอลเลอร์เลสมากขึ้น เพราะเขาคงไม่ทิ้งบ่อปลาที่มีปลาชุมขนาดนี้หรอก ตลาดนี้ยังมีโอกาสอีกเยอะทั้งเรื่องเทคโนโลยี ดีไซน์ต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วกล้องมิลเลอร์เลสเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพมากกว่า ไม่ได้เปลี่ยนการใช้กล้อง เปลี่ยนจากการมีภาพ เป็นการแชร์ภาพ เป็นการเสริมกันของการใช้มือถือกับกล้อง”
สำหรับการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่นี้ฟูจิได้ใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท โดยที่กว่า 70% ใช้ไปกับการทำกิจกรรมและเวิร์คช้อปต่างๆ เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค และใช้งบออนไลน์ราว 5%