ถือว่าเป็นดีลใหญ่อีกดีลหนึ่งแห่งวงการเพย์เมนต์บ้านเรา ในการร่วมทุนกันของ Rabbit บัตรชำระเงินแบบออฟไลน์ ที่คุ้นเคยจากการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กับ LINE Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ผ่านมือถือจากแชตแอพพลิเคชั่นไลน์ มีสัดส่วนในการลงทุน 50:50 ซึ่ง Rabbit ภายใต้ชื่อบริษัท BSS Holdings Co.,Ltd. จะทำการเพิ่มทุนให้กับ LINE Biz Plus Limited หรือ LINE Pay เป็นจำนวน 50% พร้อมทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “Rabbit LINE Pay”
ความสำคัญของดีลนี้ก็คือเป็นการรวมแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบออฟไลน์ และออนไลน์ไว้ด้วยกัน เพื่อสร้าง Cashless Society ภายใต้ฐานลูกค้าของบัตรแรบบิทมากกว่า 5 ล้านใบ และมีจุดรับบัตรแรบบิทกว่า 4,000 จุด จากพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ส่วนไลน์เพย์แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 แต่ด้วยการที่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมกับไลน์ ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น ปัจจุบันมียอดผู้ลงทะเบียนใช้งาน 1.5 ล้านคน และจำนวนร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศเกินกว่า 250 ร้านค้า
ก่อนหน้านี้แรบบิทได้เคยร่วมมือกับธนาคารบนโลกออฟไลน์มาแล้วอย่างอิออน และธนาคารกรุงเทพ และได้พัฒนาซิมเพื่อใช้ร่วมกับ M Pay ของทางเอไอเอส แรบบิทเองก็ต้องการรุกตลาดเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ และขยายฐานลูกค้าสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น การจับมือกับไลน์เพย์ในครั้งนี้ทำให้แรบบิทได้ใช้ฐานผู้ใช้ของไลน์ที่มี 33 ล้านคนไปโดยปริยาย เป็นทั้งคนเมือง และคนต่างจังหวัด และแรบบิทเองก็ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ไม่ใช่แค่บัตรรถไฟฟ้าบีทีเอสอีกต่อไป แต่เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์
ในขณะที่ทางไลน์เองก็ต้องการขยับจากโลกออนไลน์มาสู่ออฟไลน์มากขึ้น เพื่อเป็นการใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากกว่าเดิม ไลน์เชื่อว่าไลน์เพย์จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำพาให้ไลน์เป็นมากกว่าแชตแอพพลิเคชั่น แต่เป็น Life Platform ที่ครอบคลุมการทำงานทั้งออนไลน์ และออฟฟไลน์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของไลน์ในตอนนี้เลยก็ว่าได้
มร. เนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ แรบบิท กล่าวว่า การตกลงร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้แรบบิทได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้ LINE จำนวน 33 ล้านคน และยังสามารถขยายตลาดไปยังต่างจังหวัด ผู้ใช้บริการ Rabbit LINE Pay จะได้รับความสะดวกสบายจากระบบชำระเงินผ่านร้านค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ในครั้งนี้ ทั้ง LINE Pay และ Rabbit จะทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของการแชร์ อัพเดตช่องทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ แนะนำพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมร่วมกัน ถือเป็นโอกาสที่ LINE Pay จะได้ขยายช่องทางการเติมเงิน การชำระเงินให้มากขึ้นด้วยการสนับสนุนจาก Rabbit ในขณะที่ Rabbit ก็จะสามารถเพิ่มช่องทางนการเข้าถึงผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลักผ่านแพลตฟอร์ม LINE Pay”
Rabbit LINE Pay มีแผนจะประกาศบริการแรกกับร้านค้าหลักในฐานะบริการตัวอย่างก่อนภายในไตรมาสที่ 3 และจะเปิดให้บริการเต็มตัวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ อาจจะเป็นในรูปแบบของการพัมนา QR Code ที่พ่วงบัตรแรบบิทไปกับไลน์เพย์ ทำให้ในอนาคตสามารถใช้แค่สมาร์ทโฟนในการซื้อสินค้า หรือบางคนจะบัตรแรบบิทต่อก็ได้
กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงก็คือคนที่ยังใช้เงินสดอยู่ เพราะในประเทศไทยคนใช้เงินสดยังมีสัดส่วน 85% และคนใช้บัตรเครดิต 15% เป็นเป้าหมายสำคัญในการสร้าง Cashless Society