ปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล new wave

รุ่นที่ 3 ของ ”วังทองกรุ๊ป” เพิ่งเริ่มต้นเมื่อต้นปี 2547 ที่ผ่านมา ปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล น้องชายแท้ๆ ของ โกศล เจษฎาวรางกูล ผู้บุกเบิกวังทองกรุ๊ปเมื่อ 20 ปีก่อน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว กำลังเป็นดาวดวงใหม่ของวงการพัฒนาที่ดิน

ปราโมทย์เพิ่งรับไม้ต่อมาจาก “เสี่ยตง” โกมล เจษฎาวรางกูล พี่ชายคนรองที่ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการบริหาร หลังจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างครั้งใหญ่ในบริษัท เพื่อรองรับการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

วันนี้ “วังทองกรุ๊ป” กำลังวาง positioning ตัวเองใหม่ ให้เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ โดดเด่นเรื่องความทันสมัย มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทั้งออกแบบบ้านและฟังก์ชันภายในที่เป็นแบบเฉพาะตัว ชนิดที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่า นี่คือบ้านของวังทอง

“ถ้าจะเติบโตต่อไป ต้องวางตำแหน่งชัดเจนในใจคนซื้อ เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็นของเรา เปรียบแล้วเหมือนกับรถยนต์ต้นแบบ ที่ออกแบบปีละครั้ง แต่แบบนั้นๆ ต้องเด่นและโดนใจจริงๆ”

แนวคิดแบบนี้ปราโมทย์บอกว่า ได้มาจากการสัมผัสกับลูกค้าโดยตรง ถึงรู้ว่า ลูกค้าชอบและไม่ชอบอะไร ซึ่งเป็นที่มาของนโยบายบริษัทที่ให้น้ำหนักกับงานวิจัยตลาด ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าที่คิดจะซื้อบ้าน พร้อมกับให้ความสำคัญกับเรื่อง design

ปัจจุบันงานวิจัยกับงานออกแบบกลายเป็นจุดแข็งของค่ายนี้ไปแล้ว

ความสดใสของเลือดใหม่ เขาพยายามเพิ่มวิธีคิดให้ต่างมากขึ้น ไม่จำกัดตัวเองกับจุดแข็งเดิมๆ โดยนำเครื่องมือการตลาดสมัยใหม่เข้ามาเชื่อมโยงกับธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะการซื้อใจลูกค้าเก่า ด้วยกิจกรรมดูหนัง อบรมทำกับข้าว อันเป็นที่มาของกลยุทธ์ปากต่อปาก เช่นเดียวการขายมือถือที่เน้นการนำกลยุทธด้าน CRM (consumer relation management) มาใช้เพื่อมัดใจลูกค้าเก่า

“ถ้าไปแถมของ ก็เป็นความรู้สึกทางด้านวัตถุอย่างเดียว แต่สิ่งที่เราอยากเห็น คือ ทำให้คนอยู่อาศัยรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น เรื่องนี้คิดไว้นานแล้ว แต่มาเห็นชัดเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา” ปราโมทย์บอก

ความเป็นรุ่นที่ 3 ของปราโมทย์ เป็นบททดสอบที่ท้าทาย เพราะเขาต้องปรับจูนคนในองค์กร และครอบครัวให้มองเห็นและเดินไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเขายอมรับว่าต้องใช้เวลา

“ต้องยอมรับว่าการจะเปลี่ยนแปลงอะไรมากๆ ทำได้ยาก โชคดีว่าผมเป็นน้องชายคนเล็ก และก่อนจะมาเป็นกรรมการผู้จัดการ ผมค่อยๆ ถ่ายทอดไอเดียเหล่านี้ให้พี่ๆ น้องๆ ฟัง เมื่อได้กินข้าวพร้อมหน้า เป็นการซึมซับอีกทางหนึ่ง ”

ผลงานที่สร้างการยอมรับในตัวปราโมทย์ คือ การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ลดขนาดโครงการ เพื่อปิดการขายให้เร็วขึ้น

จากเดิมโครงการของวังทองเคยพัฒนาในพื้นที่ขนาด 100 ไร่ สมัยพี่ชาย ถูกย่อส่วนเหลือแค่ 30-40 ไร่ ปรากฏว่า ความคิดของปราโมทย์มาถูกทาง เพราะโครงการวรารักษ์ คลอง 3 และบ้านวรางกูล ขายหมดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้วังทองกรุ๊ปมีสภาพคล่องสูง

สิ่งหนึ่งที่ปราโมทย์ทำมาตลอด คือ การเรียนรู้จากการพบปะผู้คน เพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน โดยเฉพาะในแวดวงไฟแนนซ์ ธนาคาร และหลักทรัพย์ ทำให้เขาสามารถต่อภาพจากฐานธุรกิจอสังหาฯ สู่เศรษฐกิจมหภาคได้เร็วขึ้น

แต่ละวัน ชีวิตของปราโมทย์จะเริ่มต้นที่ออฟฟิศ บ่ายออกตระเวนดูโครงการ จนถึงเย็น เป็นช่วงพบปะนักธุรกิจด้านการเงิน ปราโมทย์เรียกว่า เป็นช่วงการหา “ข้อมูล”

ปราโมทย์ ในวัย 34 ปี ที่ดูนอบน้อม เป็นน้องชายคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 11 คนของตระกูล “เจษฎาวรางกูล ” ที่ก่อร่างสร้างตัวจากธุรกิจค้าไม้ และค้าวัสดุก่อสร้าง ในจังหวัดปทุมธานี และขยายเข้าสู่ธุรกิจพัฒนาที่ดิน จนได้ฉายาว่า “เจ้าพ่อตลาดบ้านโซนเหนือ”

วัยเด็กเริ่มเรียนหนังสือ โรงเรียนธัญญบุรี ชานเมืองปทุมธานี จากนั้นเข้าเรียนระดับปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เรียนจบ เริ่มมาฝึกงานในวังทองกรุ๊ปช่วงสั้นๆ จากนั้นก็บินไปเรียนต่อด้านการตลาดที่ National University ซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา

ทันทีที่เรียนจบ ปราโมทย์ กลับมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งเวลานั้นเป็นช่วงต่อของรุ่นที่ 2 วังทองกรุ๊ป มีพี่ชายคนรอง “โกมล เจษฎาวรางกูล”ดูแลกิจการ เขาเริ่มฝึกงานในฝ่ายต่างๆ ทั้ง การเงิน การตลาด และการก่อสร้างตลอด 1 ปีเต็ม

หลังจากนั้นปราโมทย์ต้องไปปักหลักอยู่ที่ไซต์โครงการเพื่อเรียนรู้กระบวนการและขั้นตอนการก่อสร้าง และงานขายอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเวลานั้นมีอยู่ 8-10 โครงการ ทำจนครบ 1 ปี ก็ย้ายกลับออฟฟิศใหญ่ ดูแลฝ่ายการตลาด และพัฒนาธุรกิจ เป็นช่วงเดียวกับที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจพอดี

“แต่วิกฤตกลับสร้างโอกาสให้เรา เพราะตอนนั้นในตลาดไม่มีของขาย แต่ยังมีลูกค้าอยู่กลุ่มหนึ่งที่ต้องการซื้อบ้าน วังทองจึงใช้จังหวะนั้นเปิดโครงการใหม่ ซึ่งเป็นโครงการแรกๆ ที่กล้าลงทุน”

ที่น่าดีใจ ปราโมทย์บอกว่า ยอดขายที่ได้มามากกว่าช่วงเศรษฐกิจบูมด้วยซ้ำ

จากจุดนั้นเอง วังทองกรุ๊ปเติบโตแบบก้าวกระโดด และเป็นจุดเริ่มต้นที่บริษัทเล็กๆ แห่งนี้ กล้าทำสิ่งใหม่ๆ ในเรื่องแบบและดีไซน์ เทียบชั้นบริษัทจัดสรรขนาดใหญ่

พัฒนามาถึงขั้นเดินเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นอีกก้าวของความท้าทายใหม่ ของรุ่นที่ 3 วังทองกรุ๊ป

Profile

Name : ปราโมทย์ เจษฎาวรางกูล
Born : 18 กุมภาพันธ์ 2513
Education :
ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ปริญญาโท บริหารธุรกิจ การตลาด National University USA
ปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ( MBA )
Career Highlights:
ตำแหน่งปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการ
ปี 2538 ผู้จัดการโครงการ บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด
ปี 2539 ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
ปี 2540-2546 ผู้อำนวยการสำนักกรรมการ,กรรมการบริหาร
Family :
แต่งงานแล้ว ภรรยาชื่อ นางสาวสุดารัตน์ เจษฎาวรางกูล มีลูกสาว 1 คน ด.ญ.พิมพ์ชนก เจษฎาวรางกูล