Athenee Residence โปรเจกต์เปิดตัวลูกสาวเสี่ยเจริญ

วันที่ 2 ธันวาคม 2547 บริเวณโรงแรมพลาซ่า แอทธินี คลาคล่ำไปด้วยแขกและสื่อมวลชนร่วมร้อยชีวิต เนื่องจากมีวาระสำคัญของตระกูลดังและบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติจากสิงคโปร์ แถลงข่าวในนาม T.C.C. Captial Land ผุดคอนโดมิเนียมโครงการหรูนาม Athenee Residence บริเวณหลังโรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถ.วิทยุ…เป็นโปรเจกต์แรกของบริษัท และเป็นโปรเจกต์เปิดตัวพร้อมพิสูจน์ฝีมือลูกสาวคนที่สองของเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี…เธอมีชื่อว่า วัลลภา ไตรโสรัส

เจริญและคุณหญิงวรรณา ประกาศยืนยันพร้อมให้ความมั่นใจในโครงการอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของกลุ่มบริษัทว่าเป็นโครงการที่กลุ่ม T.C.C. พร้อมเทกำลังสนับสนุนเต็มที่ และทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยถึงวัลลภา บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจและความห่วงใยได้เป็นอย่างดี

“ลูกวัลลภา หรือลูกเอ๋” วัย 30 ปี ของเจริญและคุณหญิงวรรณา พร้อมด้วย “ลูกโสมพัฒน์” ผู้เป็นเขย ถึงเวลาพิสูจน์ความสามารถระดับมหาบัณฑิตจาก LSE และ Cambridge แล้ววันนี้

Atnitee Residence เสนอความเป็นอยู่ชั้นสูง และระบบรักษาความปลอดภัยแบบ fingerprint scan พร้อมกระจกและผนังหนา 2 ชั้นกันอันตรายจากภายนอกและป้องกันเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง ท่ามกลางพื้นที่ธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 4 ไร่เศษ ประกอบด้วย 219 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 9-40 ล้านบาท ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรระดับอินเตอร์ อันได้แก่ ด้าน Project Architect โดยสถาปนิก 49 (A49) บริษัทรับออกแบบชื่อดังของเมืองไทย และ BBG-BBGM (Brennan Beer Gorman ?– Brennan Beer Gorman Monk) จาก New York ดูแลการออกแบบพื้นที่ด้านหน้าอาคาร และมี Bensley Design Studio รับหน้าที่ดูแลด้าน Landscape และสวนโดย Bensley มีชื่อเสียงในการออกแบบโรงแรมชื่อดังมากมาย อาทิ Bali Hyatt, Anantara Resort และ Regent Chiang Mai (Four Season) เป็นต้น ขณะที่ CB Richard Ellis (Thailand) เป็นเอเย่นต์

ซึ่งการผนึกกำลังรวมกันก่อตั้งบริษัท joint venture ภายใต้นาม T.C.C. Capital Land เมื่อกันยายน 2546 นี้ แบ่งสัดส่วนการลงทุน 60% เป็นของกลุ่ม T.C.C. ของเจริญ สิริวัฒนภักดี และอีก 40% เป็นของ Capital Land โดย Capital Land ที่สิงคโปร์มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 60% หากจะว่าไปแล้วก็เทียบเคียงได้กับ Land & House บ้านเราที่กินส่วนแบ่งกว่า 50% เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย ขณะที่โครงการใหม่ในอนาคตอันใกล้จะเป็นคอนโดมิเนียมแถบอารีย์ บ้านเดี่ยวย่านเกษตรฯ-นวมินทร์

ทั้งนี้สำหรับแนวทางดำเนินธุรกิจจะเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 60% บ้านเดี่ยว 30% และอาคารสำนักงานอีก 10% โดยตั้งเป้าหมายที่จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักพร้อมก้าวเป็น 1 ใน 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และในปีนี้มีแผนลงทุนอย่างน้อย 5 โครงการ

People

วัลลภา ไตรโสรัส หรือก่อนหน้านี้ คือ วัลลภา สิริวัฒนภักดี
เกิดเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2517 วันว่างเธอชอบว่ายน้ำ เล่นเทนนิส ท่องเที่ยว และไดร์ฟกอล์ฟที่สโมสรราชพฤกษ์
Education :
2540-2541 ปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ที่ดิน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
2539-2540 ปริญญาโท เศรษฐศาสตร์การวางผังเมือง มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
2534-2539 ปริญญาตรี สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (เกียรตินิยม)
2528-2534 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน (รางวัลเกียรติยศ) – ก่อนหน้านั้นศึกษาที่อัสสัมชัญศึกษา บางรัก
Career Highlights :
2546-ปัจจุบัน กรรมการบริหาร T.C.C. Capital Land
2545-ปัจจุบัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ T.C.C. Land
2544-2545 กรรมการบริหาร T.C.C. Holding
2542-2543 นักวิเคราะห์การเงิน Merrill Lynch (Asia Pacific) ฮ่องกง

ก่อนวันแถลงข่าว POSITIONING ได้มีโอกาสติดตาม “ผู้จัดการ” นิตยสารรุ่นพี่เพื่อสัมภาษณ์พิเศษ ณ ห้องชุดรัตนโกสินทร์ ชั้น 28 โรงแรมพลาซ่า แอทธินี วัลลภาและโสมพัฒน์ให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง แม้นี่จะเป็นการให้สัมภาษณ์เรื่องราวส่วนตัวเป็นครั้งแรกแต่เธอก็ทำได้ดี

“หลังจบสถาปัตย์ก็คิดอยู่นานว่าจะต่อโทหรือทำงานดี แล้วก็ไปเรียนโทที่เศรษฐศาสตร์จุฬาฯ พักหนึ่ง พอทางลอนดอนตอบรับก็เลยไปเรียนต่อที่นั่นแทน” จะว่าบังเอิญหรือตั้งใจแต่ก็นับว่าเป็นการปูพื้นฐาน ต่อยอดความรู้ด้านบริหารจัดการและอสังหาริมทรัพย์ของเธอที่เป็นระบบทีเดียว เช่นเดียวกับโสมพัฒน์ผู้เป็นสามีที่มาจากครอบครัวข้าราชการระดับสูง เขาจบจากเซนต์คาเบรียลก่อนพบและรู้จักกับวัลลภาที่ศิลปากร หลังจากนั้น profile ด้านการศึกษาและการทำงานก็แทบจะไม่แตกต่างจากวัลลภาเลย

ทั้งสองร่วมกันสร้างครอบครัวของตัวเอง โดยมีลูกชายหญิงเล็กๆ 2 คน ลูกชายคนโต ชื่อ น้องปรัณ แปลว่า เต็มบริบูรณ์ ส่วนลูกสาว ชื่อ น้องชยา แปลว่า สติปัญญาดี ทั้งคู่คือหลานชายหญิงคู่แรกของเจริญและคุณหญิงวรรณา แต่กระนั้นก็ยังอาศัยอยู่ภายในตึกหลังเดียวกันกับพ่อแม่และพี่น้อง “ช่วงนี้อ่านหนังสือเด็กเยอะค่ะ พี่ต่อ (โสมพัฒน์) ช่วยทำ full time ส่วนเอ๋ก็ดูแลลูกๆ เพราะ 3 ขวบแรกเอ๋คิดว่าสำคัญมากๆ อยากให้เวลากับลูกเยอะๆ แต่โชคดีที่ทำงานใกล้บ้าน แค่ถนนกั้น”

ขณะที่ความสัมพันธ์กับครอบครัว “สิริวัฒนภักดี” ก็เป็นไปอย่างอบอุ่น “ทุกวันเสาร์จะมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา คุยกันเรื่องทั่วไปที่ห้องอาหารกลาง แต่เดี๋ยวนี้เริ่มคุยเรื่องงานกันมากขึ้น (หัวเราะ) ”

“คุณพ่อคุณแม่สอนให้ขยัน อดทน ไม่ให้เอาเปรียบคนอื่น ไม่ให้ทำในสิ่งที่ผิด”