แปลกไม่พอ…ต้องขายได้

เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ริบลี่ส์ (Ripley’s) ทุ่มทุนร่วม 100 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ พร้อมปรับปรุงเครื่องเล่นที่มีอยู่ เพื่อให้สมกับชื่อ “Ripley’s World of Entertainment” และรักษาจุดยืนความเป็นผู้นำเครื่องเล่นในร่มที่ดีที่สุดในประเทศไทย รวมถึงการเป็นแหล่งสันทนาการสำหรับทั้งครอบครัวและผู้ที่ชอบความแปลกใหม่

Ripley’s Infinity Maze หรือมหัศจรรย์เขาวงกต เป็นเครื่องเล่นใหม่ใช้ทุนสร้าง 30 ล้านบาท โดยนำคอนเซ็ปต์ “เขาวงกต” ของเมืองนอกมาออกแบบใหม่โดยดีไซเนอร์ต่างชาติ แต่ผลิตในเมืองไทย ซึ่งใช้เทคนิคแสง สี เสียง และเอฟเฟกต์กระจก ทำให้เกิดภาพสะท้อนที่แตกต่างใน 16 ห้อง ที่นี่จึงกลายเป็นเขาวงกตล่าสุดที่ดีที่สุดใน 5 แห่งรอบโลก และทำให้วันนี้ริบลี่ส์พัทยาเป็นสาขาแรกและสาขาเดียวในริบลี่ส์ 30 สาขาทั่วโลก ที่มีเขาวงกต

นอกจากนี้ เงินอีก 50 ล้านบาทถูกใช้ในการปรับโฉมโกดังผีสิง (Ripley’s Haunted Adventure) โดยนำเข้ามาจากริบลี่ส์ที่อเมริกา ตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งเป็นปีที่กระแสหนังผีมาแรง เงินที่เหลือถูกใช้ในการปรับปรุงรูปโฉมด้านหน้า

การลงทุนเครื่องเล่นครั้งนี้ สมพร นาคซื่อตรง ผู้บริหาร ริบลี่ส์ ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะตัวพิพิธภัณฑ์มีอายุถึง 10 ปีแล้ว จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าจะนำมาโปรโมต จึงต้องลงทุนทางด้านเครื่องเล่นเพื่อใช้เป็นสื่อการตลาดให้กับริบลี่ส์ทั้งศูนย์ “ณ วันนี้ เราใช้ความสนุกตื่นเต้นเร้าใจ เพื่อดึงให้เข้ามาทดลองเล่นก่อน”

ความสำคัญของงาน ยังนัยในการก้าวสู่สเต็ปที่ 2ของริบลี่ส์ ทางด้านความพร้อมในการตลาดและประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย “อดีตเราทำการตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อสร้าง brand awareness ด้วยการทำกิจกรรมทำลายสถิติโลก หรือการรับรองของแปลก แต่วันนี้เรามองขึ้นอีกระดับคือ ทำการตลาดที่จะนำยอดขายกลับมา” ซึ่งสมพรคาดว่า นักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้น 40% สำหรับหน้าร้อนนี้ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนปิดเทอม

…สุดท้าย ริบลี่ส์ยังเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญของภาพใหญ่ ในฐานะหัวหอกแห่งความบันเทิงของ ศูนย์การค้า รอยัล การ์เด้น พลาซ่า ที่มีจุดยืนเป็นศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในภาคตะวันออก

Profile

Ripley’s Believe It or Not เปิดตัวครั้งแรกที่อเมริกา และเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่พัทยาเมื่อปี 2538 ถือเป็นสาขาที่ 22 ของโลก นอกจากพิพิธภัณฑ์รวบรวมของแปลก ภายในยังมีเครื่องเล่นหลากหลาย เช่น เขาวงกต โกดังผี โรงหนัง 4 มิติ เป็นต้น

ริบลี่ส์ อยู่ภายใต้บริษัท Royal Garden Entertainment เป็นบริษัทลูกในเครือของ Royal Garden Resort ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมในเครือซึ่งมีถึงกว่า 2 พันห้อง ได้แก่ โรงแรม Marriott Resort and Spa โรงแรมอนันตรา โรงแรม Four Seasons Resort โรงแรม JW Marriott Phuket Resort and Spa นอกจากนี้ยังมีเรือสำราญมโนราห์ แบรนด์สปา Mandara ศูนย์การค้า Royal Garden Plaza และ Ripley’s รวมถึง Ripley’s ที่ฮ่องกง และ Harbour View Hotel ที่เวียดนาม

บริษัท Royal Garden Resort ก่อตั้งเมื่อปี 2519 โดยวิลเลี่ยม อี. ไฮเนคกี้ ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Minor ในประเทศไทย

1. จำนวนนักท่องเที่ยว

– ปี 2547 7 แสนคน
– ปี 2548 (ตั้งเป้า) 1.3 ล้านคน

2. สัดส่วนนักท่องเที่ยว

– คนไทย 50%
– คนต่างชาติ 50%