เพิ่งได้จังหวะเปิดงานแถลงผลงานสำหรับปีที่ผ่านมาของ “Nokia” ตั้งแต่ปีใหม่ตามปฏิทินจนล่วงมาถึงปีใหม่ (ตรุษ)จีน งานเลี้ยงจึงออกไปในสไตล์ตี๋ๆ หมวยๆ เป็นกิมมิกเก๋ๆ ของงาน แน่นอนว่าก่อนเริ่มงานจึงมีการยืนไว้อาลัยให้กับ “คุณกชกร สถาปิตานนท์” อดีตผู้จัดการฝ่ายการตลาดของโนเกีย (ประเทศไทย) ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ เนื่องจากเธอเป็นแม่งานใหญ่คนหนึ่งของการจัดงานช่วงปีที่ผ่านมา
เมื่อรวมทั้งปี ธุรกิจ “มือถือ” ของโนเกีย มียอดขายรวม 925,350 ล้านบาท (18,507 ล้านยูโร) คิดเป็น 207.7 ล้านเครื่อง ในขณะที่ธุรกิจโซลูชั่นสำหรับองค์กรเป็นอีกหนึ่งที่น่าจับตามอง เพราะมียอดขายรวม 41,500 ล้านบาท (830 ล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 57% ***อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร คิดที่ประมาณ 50 บาท***
โนเกียมีส่วนแบ่งในตลาดทั่วโลก 32% ในปีนี้ โดยเป็นยอดที่นำโด่งจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกประมาณ 1,700 ล้านราย มร. จอร์มา โอลลิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโนเกีย คาดการณ์ว่าการแข่งขันในตลาดอุปกรณ์สื่อสารไร้สายจะยังคงเข้มข้นต่อไป แม้ว่าการเติบโตจะช้าขึ้นอีกเล็กน้อย
ในขณะที่ มร.บ็อบ แมคดูกอล กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด โนเกีย (ประเทศไทย) มองว่าการรุกตลาดมือถือในปีนี้ยังคงเน้นแฟชั่น และมัลติมีเดีย โดยเฉพาะมือถือที่มีโซลูชั่นครบวงจรแบบ Enterprise Solution ต่อเนื่องมาจากการขยายตัวและแข่งขันของผู้ให้บริการเครือข่าย ทำให้เกิดบริการต่างๆ จำนวนมากที่ซับซ้อนขึ้นโดยเฉพาะความต้องการ Smart Phone แทนที่ Pocket PC มากขึ้น จึงได้มี Trial Program สำหรับช็อปที่จะเปิดขึ้นในทั่วโลก โดยมีที่ไทย ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ในเอเชีย นอกจากนั้นการเกิดขึ้นของ Multi-sim (เบอร์เดียวหลายเครื่อง) ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้มือถือตามไลฟ์สไตล์แต่ละช่วงชีวิตได้เหมาะขึ้น เช่น ไปปาร์ตี้ หรือทำงาน โดยที่ผู้ใช้ราว 50% เป็นกลุ่มที่เลือกมือถือใหม่จากเดิมที่มีอยู่แล้ว (replacement market) และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“We try to understand the end-customer not to lead.” มร.บ็อบ กล่าว
Totally Fashion – แบรนด์โนเกียสร้างกิจกรรมการตลาดผ่านงานแฟชั่นอย่าง Bangkok ELLE fashion week เป็นที่เปิดมือถือตัวใหม่ในหลายปี หรือการสนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ งานต่อเนื่องจากการเปิดตัวมือถือรุ่น 72 เมื่อปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่โรงหนัง House กับเทศกาลภาพยนตร์ปี 20 ภายในงานที่จัดขึ้นที่เซ็นทรัลชิดลม ใช้การเดินแฟชั่น การสอนแต่งหน้า เนื่องจากโทรศัพท์มือถือแนวแฟชั่นเติบโตอย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะเป็นการสะท้อนรสนิยมการใช้ชีวิตที่สัมพันธ์กับสไตล์ที่แตกต่าง โดยแฟชั่นตัวขับเคลื่อนสำคัญ จากการที่โนเกียออกมือถือแฟชั่นอยู่เรื่อยๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในด้านนี้
นอกจากนี้การจับมือกับแบรนด์ดังหลายแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้โนเกีย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโปรโมชั่นกับร้านแนวไลฟ์สไตล์ทันสมัย เช่น ร้านต่างๆ ใน H1, ร้านเกรย์ฮาวด์, เครื่องสำอาง Bobby Brown, โรงหนัง House
“โนเกียให้ความสำคัญแก่แฟชั่นเป็นอย่างมาก แต่เราพยายามที่จะเป็น Fashion Leader ด้วยกัน มากกว่าที่จะให้แบรนด์หนึ่งสร้างแบรนด์ให้กับอีกแบรนด์” มร.บ็อบ กล่าว
Website
