สมพร นาคซื่อตรง คนขายประสบการณ์

พูดถึงหน้าร้อน หลายคนคงนึกถึงพัทยา เพราะนอกจากจะได้นอนอาบแดด หรือเล่นน้ำทะเล พัทยายังมีกิจกรรม อีกมากมายให้ได้ทำดับร้อน และอีกสิ่งที่ขึ้นชื่อของพัทยาก็คือ พิพิธภัณฑ์ Ripley’s Believe It or Not! โดยเฉพาะหน้าร้อนนี้ ริบลี่ส์ นำ Infinity Maze หรือ “เขาวงกต” เครื่องเล่นใหม่มาให้บริการ เพื่อเตรียมรองรับกับยอดนักท่องเที่ยวที่พุ่งสูงขึ้นทุกปีในเดือนเมษายน

ถ้าไปแวะที่ริบลี่ส์ แล้วเห็นชายหนุ่มวัยกลางคน แต่งตัวสุภาพ ท่าทางเรียบร้อย สุขุม เดินไปมารอบริบลี่ส์ เขาคนนั้นคือ สมพร นาคซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไปบริษัท รอยัล การ์เด้นท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของริบลี่ส์ ผู้อยู่เบื้องหลังการปรับปรุงริบลี่ส์มาตลอดระยะเวลาร่วม 5 ปี ทั้งที่ครั้งแรกเขาเคยถามตัวเองว่า “ที่นี่เล็กจัง เราจะมาทำอะไรที่นี่”

กว่าจะมาถึงจุดนี้เส้นทางชีวิตการทำงานของสมพร เริ่มจากเป็นกุ๊กที่อายุน้อยที่สุดในโรงแรมรีเจ้นท์กรุงเทพฯ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโฟร์ซีซั่น) และคิดจะเอาดีด้านนี้ แต่เพียงสามปีครึ่งสัญชาตญาณนักบริหารก็ทำให้เปลี่ยนความคิด เขาสมัครเรียนด้านบริหารพร้อมกับทำงานส่วนต้อนรับที่โอเรียนเต็ล ซึ่งเปิดโลกทัศน์ด้านบริการให้เขานำมาใช้จนทุกวันนี้

หลังเรียนจบ สมพร ทำงานในเครือไมเนอร์ “บุคลิกเราน่าจะเหมาะกับที่นี่ คือต้องเร็ว ต้องโหด และวัดกันที่ผลงาน” แต่เพราะต้องเรียนรู้ธุรกิจของไมเนอร์ เขาต้องเริ่มงานผู้จัดการร้าน Sizzler ทั้งที่สมัครเป็นผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรม “บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่สนใจ เพราะคิดว่า Sizzler เล็กมาก แต่ที่ตัดสินใจทำก็เพราะวันสัมภาษณ์เขากางแผนให้ดูว่าเราจะได้เรียนรู้อะไรบ้างจากที่นี่”

ทำงานอยู่ที่ Sizzler จนเป็นผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมอยู่นาน สมพรลาออกไปทำร้านอาหารของตัวเอง แต่แล้วก็นึกได้ว่า เป้าหมายชีวิตของเขาคืออะไร “ผมไม่ได้มองว่าธุรกิจส่วนตัวคือสุดท้ายของชีวิต เรามีเป้าหมายคือประธานหรือรองประธานบริษัทที่เป็นอินเตอร์ ให้เขาจ้างเราเพราะเชื่อมั่นฝีมือเรา” เป็นเวลาเดียวกับที่เขาได้รับการติดต่อให้ไปทำที่ริบลี่ส์ในตำแหน่ง Operation Manager

สมพรรับงานที่ริบลี่ส์เพราะหวังกลับไปทำที่ไมเนอร์ ฟู้ดกรุ๊ป แต่เมื่อครบ 2 ปียังไม่ได้โอนเขาจึงลาออกก่อน GM ริบลี่ส์ 1 วัน จนกระทั่ง มร.ไฮเนคกี้ — ก็เรียกเขาไปคุย “ผมถามเขาว่า คุณเชื่อเหรอว่าผมจะทำงานที่นี่ได้ เขาตอบใช่ผมก็เลยทำ” จนวันนี้เขาก็ยังไม่ทำให้ไฮเนคกี้ผิดหวังที่ตอบเช่นนั้น และยังได้รับรางวัล The Appreciation Award 2004 ของเครือไมเนอร์

ด้วยความตั้งใจจริงและความพยายามทำให้ความรู้สึกไม่มั่นใจกลายเป็นความสนุกท้าทาย ไลฟ์สไตล์การทำงานของสมพรเริ่มต้นจากการเช็กอีเมลคุยกับเจ้านาย ติดต่อลูกค้า และอัพเดตเรื่องราวหรือนวัตกรรมเครื่องเล่นใหม่ๆ จากเพื่อนที่เป็นผู้จัดการของริบลี่ส์ 30 สาขาทั่วโลก ก่อนเปิดให้บริการเขาจะตรวจความเรียบร้อยและกระตุ้นนักแสดง (เป็นสรรพนามที่สมพรใช้เรียกพนักงานโกดังผี) ช่วงบ่ายก็เข้าประชุมฝ่ายประชาสัมพันธ์และฝ่ายขายเพื่อวางแผนการตลาดและแผนการขาย ซึ่งหน้าร้อนอย่างนี้ต้องวางแผนแรงเป็นพิเศษ

“หน้าร้อนเป็นช่วงที่ยอดขายดีที่สุดเพราะเป็นช่วงปิดเทอม เราก็ยิ่งต้องทำแคมเปญเยอะ สิ่งที่เราทำก็คือ direct mail ไปตามโรงเรียนซึ่งเราเน้นโรงเรียนอินเตอร์ เพราะจะมีกำลังจ่ายมาก เรายังร่วมกับบริษัทในเครือฟู้ดกรุ๊ปทำแคมเปญแจกบัตรฟรี ลดราคา ซื้อ 1 แถม 1 เพื่อเขาจะดึงคนอื่นมาด้วยเพราะเครื่องเล่นเราไม่มีใครเข้าคนเดียว และเราทำคีย์การ์ดให้โรงแรมในเครือเพื่อโปรโมตด้วย”

สมพรยังมีหน้าที่ต้องคิดโปรเจกต์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อลูกค้าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา “เรายอมรับว่าสินค้าของเรา เป้าหมายคือขายครั้งเดียว” นี่ก็คือเหตุผลที่เขาต้องเดินทางไปสำรวจและนำเครื่องเล่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพให้ริบลี่ส์ดูใหม่อยู่เสมอ

ในการคิดโปรเจกต์ใหม่ นอกจากจะต้องวิจัย แนวโน้มความชอบของคนไทย สมพรยังต้องเดินทางไปดูแนวโน้มและสำรวจตลาดเครื่องเล่นจากต่างประเทศ ไปทดลองเล่นในสวนสนุกเกือบทั่วอเมริกาเพื่อหาว่าอะไรที่น่าจะนำมาใช้ได้ที่ริบลี่ส์ โดยต้องไม่ผิดคอนเซ็ปต์ “เครื่องเล่นในร่มที่เข้าชมได้ทีละหลายคน และเป็นหนึ่งเดียวในเมืองไทย” และสิ่งที่สำคัญคือ ทุกโปรเจกต์ต้องเป็นไปได้ด้านการตลาด และตอบสนองด้านรายได้ของบริษัท

อย่าง Infinity Maze สมพรเริ่มจากปิ๊งไอเดียเขาวงกตรูปแบบป่าจากสวนสนุกที่ฮ่องกง จากนั้นก็ตระเวนไปดูอีก 3 แห่งทั่วโลก เมื่อรู้สึกว่าลงทุนน้อยจึงหาข้อมูลยืนยัน จนพบบทสัมภาษณ์ว่าเครื่องเล่นนี้เป็นธุรกิจที่ทำเงินและลงทุนไม่มาก จึงเสนอ มร.ไฮเนคกี้ ด้วยการตัดกระจกมาเรียง “นายจะให้ประเมินเอง ทุกครั้งนายจะบอกให้คุณตัดสินใจจะแพ้หรือชนะ พอถึงวันเปิดนายก็มาบอกเลยว่า you win”

การปรับปรุงริบลี่ส์ครั้งล่าสุดนี้เป็นผลจากการวางแผนมากว่า 2 ปี โดยสมพรใช้ช่วงวิกฤตท่องเที่ยวของเมืองไทยในการก่อสร้างโกดังผีและเขาวงกต พร้อมกับปรับปรุงทั้งหมดเพื่อรองรับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย และการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 100% ในช่วงที่เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ นั่นเป็นบทพิสูจน์การทำงานของสมพรอีกครั้ง

“สิ่งสำคัญคือต้องคิดอยู่เสมอว่าเราขายประสบการณ์และความสนุก ดังนั้นเราต้องรับฟังทุกอย่างเพราะเสียงสะท้อนจากลูกค้าถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด” นี่คือหัวใจงานบริการที่สมพรพร่ำสอนเพื่อนร่วมงาน

Profile

Name :สมพร นาคซื่อตรง
Born : 25 มิ.ย. 2513
Education :
ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Career Highlight
-Best Manager of 1996 จากบริษัท Sizzler Thai
-The Appreciation Award 2004 จากเครือไมเนอร์