ไฮโซบ้านนอก “ยิ่งวีนก็ยิ่งดัง”

แม้เริ่มออกอากาศในระยะเวลาใกล้เคียงกัน แต่ “ไฮโซบ้านนอก” ของผู้จัดหน้าเก่าแต่มือใหม่อย่าง วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ในฐานะประธานบริษัท ดับเบิ้ลยู เน็ตเวิร์ค เจ้าของรายการ ก็เรียกว่าได้รับความสนใจล้นหลามจากผู้ชมทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ ด้วยความบันเทิงของเนื้อหาบวกกับความกังขาเรื่องรูปแบบรายการ ยิ่งส่งผลให้ “เรตติ้ง” พุ่งกระฉูด ไม่แพ้รายการระดับ Big production อย่าง “Big Brother” ของค่ายกันตนา

“วู้ดดี้”ให้คำนิยามถึงรูปแบบรายการของตัวเองว่า “สถานการณ์บันเทิงรูปแบบใหม่” ซึ่งจัดสถานการณ์ให้ไฮโซ 3 บุคลิกมาใช้ชีวิตอยู่กับชาวบ้าน ณ จังหวัดสุรินทร์ โดยกติกาการแข่งขันคือ ทั้ง 3 คน ต้องอยู่ให้ครบ 30 วัน โดยจะต้องทำภารกิจแต่ละวันให้สำเร็จเพื่อแลกเป็นเงินรางวัลไปทำบุญ ซึ่ง 3 ไฮโซชื่อดังที่วู้ดดี้ติดต่อมาร่วมรายการคือ ดารุณี กฤตบุญญาลัย สมศักดิ์ ชลาชล และสุศิษฎา ตันเจริญ หรือมดดำ

“เนื่องจากเราทั้ง 3 คน เป็นที่รู้จัก บุคลิกของเรา สังคมก็ได้รับรู้ค่อนข้างชัดเจนกว่าไฮโซคนอื่น และที่สำคัญเรา 3 คนกล้าบ้าบิ่นหมดเลย ทั้งผู้ผลิตและช่องเองก็ลงตัวกับทั้ง 3 คนนี้ ถ้าจะเปลี่ยนคนใดคนหนึ่ง ช่องก็จะไม่รับทั้งรายการ” ดารุณีเล่าย้อนถึงวันแรกที่ได้รับการติดต่อจากวู้ดดี้ และเธอกลับปฏิเสธเพราะกลัว “ความแรง” ของมดดำ แต่สุดท้ายก็รับคำ เพราะอยากสนับสนุนไอเดียของคนรุ่นใหม่และเชื่อมั่นในความสามารถของวู้ดดี้

ขณะที่ “มดดำ” ก็รู้ตัวดีว่า เพราะความแรงของบุคลิก และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ทำให้ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสามไฮโซบ้านนอก

“มดดำเป็นคนไม่เก็บอะไร อาจจะดูแรง แต่ไม่ใช่เพราะก้าวร้าว เพราะถ้าเก็บแล้วมีความทุกข์หรือมีคำถาม เราก็จะนอนไม่หลับ” นี่จึงเป็นที่มาของอาการ “วีนแตก” บ่อยครั้งในรายการ จนกลายเป็นความขำฮา หรือน่ารำคาญสำหรับบางคน ในบางสถานการณ์ แต่ก็เป็นสีสันที่วู้ดดี้จงใจให้มี

“วู้ดดี้ไม่ได้สร้างคาแร็กเตอร์ให้เรา แต่เขาเลือกคาแร็กเตอร์อย่างเรามา แล้วสร้างสถานการณ์ขึ้นมากดดันเราตลอดรายการ เพื่อให้เราแสดงตัวตนที่เป็นเราออกมา” มดดำอธิบายในแนวทางเดียวกับสิ่งที่ดารุณีย้ำ “สิ่งที่เราทั้ง 3 คนทำไม่มีสคริปต์ เป็นความรู้สึกและปฏิกิริยาจากตัวเราจริงๆ ในโจทย์แต่ละข้อ ซึ่งบางทีก็ไม่ตรงกับที่ทีมงานคิดว่าพวกพี่จะทำ ก็ต้องกลับไปประชุม ไปคิด ไปปรับกันทุกคืน ว่าพรุ่งนี้จะเอายังไง”

สำหรับดารุณี ด้วยบุคลิกที่ค่อนข้างใจดี ไม่ขัดคอขัดใจและไม่ต่อว่าใคร และมักจะโดนสถานการณ์กดดันแรงๆ ถึงกับต้องเสียน้ำตาบ่อยครั้ง เธอจึงแอบรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกบังคับให้เล่นบทนางเอกเรื่องดาวพระศุกร์ “วันก่อน มีเด็กขายของในห้างวิ่งมาหาพี่บอกว่า เห็นพี่ร้องไห้ในรายการ เขาก็ร้องไห้ตาม และบอกว่า อย่าให้ชาวบ้านสองคนนั้นมาเหยียบกรุงเทพฯ นะจะตบให้” ดารุณีแอบยิ้มกับการตอบรับที่ได้

เมื่อเกลี้ยกล่อมให้ไฮโซทั้ง 3 คน ยอมรับเล่นได้แล้ว สิ่งต่อไปที่วู้ดดี้ต้องทำก็คือการเอาเทปตัวอย่างไปขออนุมัติกับทางช่อง 3 ซึ่งดารุณี ย้อน“ตอนนั้นพวกเรา 3 คน แต่งตัวเหมือนชาวบ้าน แล้วก็ไปทำกิจกรรมโหดๆ ซึ่งช่องอนุมัติให้ทำแต่บอกว่า ถ้าเราแต่งตัวเหมือนชาวบ้าน คนดูก็ไม่รู้สึกว่าเราเป็นชาวบ้านอยู่ดี มันจะดูเป็นละครเกินไป สู้เราแต่งตัวเป็นเราแล้วไปทำกิจกรรมอาจจะดีกว่า”

ครั้งแรก ดารุณีตีโจทย์ “ไฮโซบ้านนอก” ออกมาเป็นเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์ ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะพอไปกับชาวบ้านได้ แต่กลับถูกขอร้อง “พี่ดา แต่งตัวสวยๆ หนูชอบ หนูชอบดูคนกรุงเทพฯ แต่งตัวสวยๆ” ซึ่งเป็นที่มาที่เธอยังดูดีแม้จะอยู่กับควายและทุ่งนา ขณะที่มดดำตีโจทย์ออกมาเป็นสไตล์เรียบง่ายสบายๆ เพราะเชื่อว่า “คนดูคงอยากเห็นมดดำใส่เสื้อกล้าม อยากดูหุ่นว่าจะน่าเกลียดแค่ไหน” โดยทั้งคู่ยืนยันว่าเตรียมเสื้อผ้ากันมาเอง

ถึงแม้ไฮโซทั้ง 3 คน จะได้รับข้อมูลจากทีมงานเกี่ยวกับรายละเอียดของรายการน้อยมาก “รู้แค่ว่ารายการนี้ไม่ใช่ละคร และไม่ใช่เรียลลิตี้ แต่เรียกอะไรมดดำก็ไม่รู้” แต่ถึงกระนั้น ทั้ง 3 คนก็ยังตกปากรับคำ ตบเท้าเข้าสู่ชะตากรรมเดียวกัน แต่ทว่า ต่างคนต่างเป้าหมาย…

มดดำบอกอย่างชัดเจนถึงจุดยืนในการร่วมรายการครั้งนี้ “คนอื่นอาจบอกว่าทำบุญ แต่มดดำไม่ใช่ มดดำรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสดีที่วู้ดดี้กำลังจะมอบให้มดดำ”

โอกาสที่ว่าก็คือ ความโด่งดังซึ่งมดดำอธิบายต่อไปว่า นั่นคือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเขาเอง เพราะการเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของผู้คน จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตการทำงานในบริษัท event organizer ของเขามากขึ้น
“ตอนนี้ก็คือมี event เข้ามามากขึ้น และก็เริ่มมีคนติดต่อให้เล่นละครทางช่อง 3 แล้ว และเร็วๆ นี้ก็อาจจะได้มีรายการใหม่ แทนรายการที่เคยยุบไป” นี่คือผลพลอยได้จากความดังที่มดดำกำลังต่อยอดให้ตัวเอง

“อย่ามาปฏิเสธว่าคุณเองไม่อยากดัง ไม่มีหรอกกกกก (ลากเสียงยาว) แต่มดดำกำลังจะบอกว่า โอกาสดีๆ ที่ผ่านเข้ามาใช่ว่าจะผ่านเข้ามาบ่อย มดดำเคยทิ้งโอกาสดีๆ มาเยอะมาก วันนี้มดดำเลยคิดว่าจะไม่ทิ้งเลยสักโอกาสนึง”

ตรงข้ามกับดารุณี ซึ่งให้เหตุผลของการเข้าร่วมรายการว่า ไม่ได้มาจากความอยากดัง แต่เป็นเพราะความท้าทายในการอดทนทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้เงินไปทำบุญ ซึ่งมันส์กว่าการได้อะไรมาง่ายๆ

“มาถึงวันนี้ พี่ก็เป็นที่รู้จักของคนมากมายจากการแสดงและงานการกุศลมากว่า 10 ปี พี่ก็ไม่คิดว่าตรงนี้จะมาสร้างเสริมความดังให้พี่ได้กี่มากน้อย ฉะนั้น คำว่าอยากดังสำหรับพี่…ไม่ใช่! เพราะวันนี้พี่ไม่ต้องตะเกียกตะกายตรงนั้นแล้ว เราถึงวัยรีไทร์แล้ว”

สรุปได้ว่า ปัจจัยความสำเร็จของรายการนี้ นอกจากจะเป็นเพราะบุคลิกที่โดดเด่นและแตกต่างของผู้ร่วมรายการ และเนื้อหาที่ผ่านการสร้างสรรค์โครงเรื่องมาอย่างดีจากทีมผู้ผลิต รูปแบบรายการที่เป็น Reality Show ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าจัดฉากหรือเปล่า มีสคริปต์หรือไม่ ฯลฯ เหล่านี้อาจเป็นอีกเทคนิคที่ช่วยแปรกระแสความสงสัยของผู้ชมให้กลายเป็น “เรตติ้ง” ที่มูลค่าให้แก่รายการได้

คำตอบของคำถามต่างๆ เกี่ยวกับรูปแบบรายการ รวมถึงบทสรุปทั้งหมด เงินรางวัลที่ได้รับ จะเป็นอย่างไร ทั้งดารุณี สมศักดิ์ และมดดำเอง ก็ต้องรอคำตอบในตอนจบ ซึ่งยังไม่มีการถ่ายทำตอนจบ งานนี้ก็คงต้องเก็บความสงสัยกันไปเรื่อยๆ ทั้งผู้ร่วมรายการและผู้ชม จนถึงวันสุดท้ายของรายการจึงจะได้รู้คำตอบพร้อมกัน…

รายการไฮโซบ้านนอก ออกอากาศทางช่อง 3 ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 21.50 น. เริ่มเมื่อ 1 เม.ย. (ก่อนหน้า Big Brother 1 คืน) มีทั้งสิ้นเพียง 30 ตอน (หากจะไม่มีการยืดเหมือนวิสัยละคร)

Did You Know?

รายการไฮโซบ้านนอก มีต้นแบบที่คล้ายกับรายการ Simple Life ของ Fox ในอเมริกา ออกอากาศครั้งแรกเมื่อปลายปี 2003 ซึ่งเป็นการนำนักแสดงสาวสุดเปรี้ยวของฮอลลีวู้ด 2 คน คือ Paris Hilton และ Nicole Richie ออกจากชีวิตแสนหรูในย่าน Beverly Hills เพื่อไปใช้ชีวิตแบบชาวไร่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง ในเมืองเล็กๆ ของรัฐ Arkansas เป็นเวลาหนึ่งเดือน ปัจจุบัน ที่อเมริกากำลังออกอากาศภาคที่ 3 (The Simple Life 3 : Interns) และกำลังถ่ายทำภาคที่ 4

Website

www.fox.com/simplelife/