ได้เวลาของพีซีบันเทิง

ล่าสุด 2 บริษัทคอมพิวเตอร์รายใหญ่ “เอเซอร์” และ “เอสวีโอเอ” ลุกขึ้นประกาศจุดยืน ส่ง “พีซี เอนเตอร์เทนเมนต์” ชิมลางตลาดไตรมาส 3 เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างความบันเทิงภายในบ้านมากขึ้น

เริ่มจากพีซีสัญชาติไทย “เอสวีโอเอ” เลือกบ้านใร่ กาแฟ สาขาเอกมัย จัดงานเปิดตัวชุด Just ONE อุปกรณ์ไฮเทคที่รวมฟังก์ชันไอทีและเอวีในเครื่องเดียว พร้อมวางโพสิชั่นตลาดระดับพรีเมียม เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้ากระเป๋าหนัก ด้วยบรรยากาศสบายๆ เพื่อสื่อให้เห็นถึงความเป็นไลฟ์สไตล์อย่างเต็มที่

“วีระ อิงค์ธเนศ” ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางจัดจำหน่าย บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) บอกว่า บริษัทจะเน้นทำตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยอาศัยความได้เปรียบของช่องทางจัดจำหน่ายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร อาทิ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และสำนักงาน หรือผู้ใช้ทั่วไปในระดับไฮเอนด์ เพื่อปั้มยอดขายสิ้นปีนี้ไม่เกิน 100 เครื่อง จากสินค้าราคาเริ่มต้นกว่า 1 แสนบาท

ขณะที่แบรนด์ไต้หวัน “เอเซอร์” เลือกสำนักงานย่านอโศก แถลงข่าวเปิดตัวคอมพิวเตอร์ Aspire E500 ใหม่ ด้วยคอมเซ็ปต์ “พีซี เอนเตอร์เทนเมนต์” ในบ่ายวันเดียวกัน พีซีสัญชาติไต้หวัน มุ่งโฟกัสตลาดระดับกลางถึงล่าง เพื่อขยายฐานไปสู่ระดับแมสเป็นหลัก หลังจากเคยทดลองตลาดรุ่น Aspire RC900 ระดับกลางถึงบนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

“ธีระชัย ชูบรรเจิด” ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์พีซี บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ ให้เหตุผลว่า เอเซอร์เลือกทำตลาดในระดับพื้นฐาน และราคาไม่สูงนัก ด้วยการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง ตั้งเป้ายอดขายเฉลี่ยเดือนละ 1,500 เครื่อง ก่อนจะขยายตลาดไปสู่ระดับพรีเมียมมากขึ้น

นับว่าเป็นกลยุทธ์ตลาดเซ็กเมนต์ที่ต่างกันชัดเจนของ 2 ค่าย พีซีอินเตอร์แบรนด์อย่าง “เอเซอร์” และโลคอลแบรนด์รายใหญ่อย่าง “เอสวีโอเอ” แต่คล้ายกันที่คอนเซ็ปต์สินค้า “พีซี เอนเตอร์เทนเมนต์”

แบรนด์
– เอเซอร์
ผลิตภัณฑ์ ***
– Aspire E500
ราคา (บาท)
– 19,900-39,900
กลุ่มเป้าหมาย
– ผู้ใช้ทั่วไประดับกลางถึงล่าง

แบรนด์
– เอสวีโอเอ
ผลิตภัณฑ์ ***
– Just One
ราคา (บาท)
– 1.59 และ 2.25 แสน
กลุ่มเป้าหมาย
– ลูกค้าองค์กร และผู้ใช้ทั่วไประดับบน
หมายเหตุ***ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ในคอลัมน์ New Product

ที่มา: POSITIONING รวบรวม

Top 5 คอมพิวเตอร์ไตรมาส 2 ปี 2548

เอชพี 14%
เอเซอร์ 12%
เอสวีโอเอ 8%
เดลล์ 7%
เอเทค 7%
อื่นๆ 52%

***หลังจากไอบีเอ็มขายกิจการให้เลโนโว ส่งให้แบรนด์เลโนโวเพิ่มแชร์เป็น 6% ในปัจจุบัน
ที่มา : IDC (International Data Corporation)