อิทธิฤทธิ์ นานมี แฮร์รี่ ฟีเวอร์

ยังคงสำแดงแรงฤทธิ์ไม่แพ้ตอนก่อนๆ “แฮร์รี่ พอตเตอร์ ”ตอน 7 ล่าสุด เจ้าชายเลือดผสม ที่ค่ายนานมี บุ๊คส์ เจ้าของลิขสิทธิ์ฉบับภาษาไทย เตรียมการรับกระแสแต่เนิ่นๆ เปิดให้สาวกพ่อมดน้อยสั่งจองหนังสือล่วงหน้านับเดือน งานนี้แค่ยอดจองก็ทะลุ 3 แสนเล่ม ทุบสถิติปีก่อนแบบใสๆ

เท่านั้นยังไม่พอ บอสใหญ่ สุวดี จงสถิตย์วัฒนา นานมี ยังเร่งสปีดปลุกกระแส 2 ระลอก ประเดิมแรกแถลงข่าวปลายเดือนตุลาคม ตามด้วยระลอก 2 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนเอาจริงเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 2 ธันวาคม ด้วยการจัดบิ๊กอีเวนต์เปิดตัว หวังสร้างปรากฏการณ์ Talk of the Town กว่าครั้งก่อนที่เคยจัดงาน ตั้งแต่วันจัดงานยังยาวต่อเนื่อง 3 วันเต็ม

แถมเติมกิมมิกงาน ด้วยการร่ายมนตร์เสกอุทยานเบญจสิริให้เป็นตรอกไอแอกอน มีร้านรวงต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกมักเกิ้ล ซึ่งเป็นแหล่งรวมพ่อมด แม่มดมาหาซื้อข้าวของก่อนเปิดภาคเรียน โดดเด่นๆ ด้วยร้านอุปกรณ์ ควิชดิช ร้านเสื้อคลุมของมาดามมัลกิ้น ร้านไอศกรีมของฟลอเรียน ร้านสัตว์วิเศษ ร้านโอลลิแวนเดอร์ผู้ประดิษฐ์ไม้กายสิทธิ์ฯลฯ อีกทั้งครั้งแรกที่ได้ว่าจ้างออกาไนเซอร์มืออาชีพค่าย NCC มาเป็นผู้เนรมิตงาน ทำให้บรรยายากาศงานช่วงนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นอายดินแดนแห่งเวทมนตร์

อีเวนต์รอบนี้นานมีควักกระเป๋าจ่ายไปเหนาะๆ 2 ล้านบาท บอสใหญ่ยอมรับว่า เหตุผลที่ต้องทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ มากกว่าทุกครั้งที่เคยจัดมา เพราะอยากเอาใจแฟนพันธุ์แท้แฮร์รี่ที่ช่วยเป็นแรงเชียร์มาตั้งแต่ตอน 1-6 รวมๆ แล้วเกือบ 8 ปี ควบคู่ไปกับการขยายฐานคนอ่านไปยังกลุ่มใหม่ๆ

“โจทย์ใหม่ กลุ่มเป้าหมายใหม่คราวนี้ หากใช้กลยุทธ์พีอาร์แบบจืดเด็กๆ อาจไม่แรงดั่งใจ จึงต้องใช้กุศโลบายจัดประกวดเรียงความกระตุ้นความสนใจให้อยากอ่านหนังสือ ส่วนใครที่ไม่มีงบซื้อมาอ่านเองก็สามารถไปหาอ่านได้ตามห้องสมุดโรงเรียน”

แฮร์รี่ พอตเตอร์

จินตนาการ 2 โลกในใบเดียว

แฟนพันธุ์แท้แฮร์รี่ พอตเตอร์เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมหนังสือกับหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้ง 6 ตอนไม่เคยร่วมมือทำ Co- promotion เหมือนหนังฟอร์มใหญ่ทั่วโลกนิยมทำกัน ทั้งที่กระแส 2 สื่อนี้น่าจะส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ เหตุผล เพราะนักเขียน JK เธอไม่อนุญาตให้ค่ายผู้ผลิตหรือจัดจำหน่ายหนัง กับค่ายผู้ผลิตหนังสือไม่ว่าที่ใดในโลกมาจับมือทำโปรโมชั่นซึ่งกันและกัน เพราะเธอมองว่า จินตนาการโลกของคนอ่านหนังสือกับโลกของคนดูหนังมันคนละอย่างกัน เลยไม่ต้องการเอามาปนกันให้เสียอรรถรสแท้ๆ

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่ไม่ค่อยเห็นสินค้า Consumer Product ประเภทขนม ลูกอม แฮร์รี่ ในเมืองไทย ซึ่งในต่างประเทศมีการคิดค้นออกมาแต่ไม่ได้นำเข้ามาขาย เพราะมันไม่คุ้มต้นทุนลิขสิทธิ์ที่แพงโข ขณะที่ทำโปรโมตต้องใช้งบสูงแต่พันธมิตรร่วมน้อย