ภาพลักษณ์ของเครื่องสำอางระดับพรีเมียม หรือเคาน์เตอร์ แบรนด์ ที่มีมากมายหลายสิบแบรนด์ แต่ละแบรนด์ก็มีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันไป กระนั้นการเล่นในตลาดนี้ดูจะไม่เป็นที่เพียงพอสำหรับ cosmetics brand เหล่านี้เสียแล้ว การเพิ่มความรู้อีกขั้นด้วยการสร้างแบรนด์ระดับ superluxury ราคาตั้งแต่ร่วม 20,000 บาทขึ้นไปจนถึง 100,000 บาท เป็นอีกทางเลือกหนึ่งกับการทำการตลาดที่ลูกค้าจะมีการแบ่งเกรดกันอย่างชัดเจน และเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ทุกแบรนด์ล้วนมีกลุ่มเป้าหมายที่ “วัยมีการแปรผันตรงกับรายได้ที่สูงขึ้น” ทั้งสิ้น
La Mer The Essence
สวยเหยียบแสน!!!
ชื่อเสียงความหรูและแพงของ La Mer จัดว่าไม่แพ้ใคร แต่เพื่อความเป็นหนึ่งจึงสร้างปรากฏการณ์เด่นเดี่ยวอีกครั้งด้วยการเปิดตัว The Essence และเพื่อให้เข้ากับกระแสความฮอตของเรียลลิตี้โชว์ จึงขอเอี่ยวด้วยคนด้วยการเชื้อเชิญ 3 สาว Brand Ambassador อันประกอบด้วย ยุพาภักตร์ วัชราภัย พอฤทัย ณรงค์เดช และ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี มาตะลุยทำกิจกรรมโปรด 21 วัน เพื่อถ่ายทำวีทีอาร์ประกอบงานเปิดตัวแบบ Exclusive Party ที่แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
ทั้งนี้ La Mer “The Essence” จัดเป็น 1st class cosmetic ที่ประกาศว่าสามารถเนรมิตให้ผิวหน้าสวยเลอเลิศได้ภายใน 3 อาทิตย์!! แต่ต้องจ่ายเงินร่วม 93,000 บาทเพื่อครอบครองและประหนึ่งเป็นเครื่องโชว์ล้ำค่าบนโต๊ะเครื่องแป้งเลยทีเดียว เป็นการวัดใจไฮโซว่าจะยอมจ่ายเงินร่วมแสนเพื่อความตึงเนียนของใบหน้าหรือว่าหอบเงินจำนวนนี้ไปหาศัลยแพทย์ที่โรงพยาบาลกันแน่
ญี่ปุ่นก็หรูได้…Cosme Decorte …อีกระดับของ KOSE
KOSE เครื่องสำอางจากญี่ปุ่นอดรนทนไม่ไหวเปิดตลาด superluxury cosmetics ในไทยด้วยแบรนด์ Cosme Decorte รุ่น AQ Creame Meliority ด้วยราคาจำหน่าย 30,000 บาท ซึ่งกว่าจะออกมาอวดโฉมตามเคาน์เตอร์ห้างหรูในญี่ปุ่นได้ต้องใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นานถึง 30 ปี และใช้เทคโนโลยีการผลิตในการปลูกถ่าย ดีเอ็นเอ เป็นรายแรก โดยปัจจุบันมีช่องทางการจัดจำหน่ายเพียงแห่งเดียวที่เซ็นทรัล ชิดลม และมีแผนเปิดไม่เกิน 3 สาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ Cosme Decorte เน้นโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบ co-marketing ผ่านฐานสมาชิก Central Platinum Card กว่า 30,000 ราย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับ Jim Thompson ในการผลิตสินค้าคอลเลกชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้า 50 รายแรกที่ซื้อครีมรุ่น AQ อีกด้วย
Cle de Peau Beaute…จาก SHISEIDO ขอแข่งหรูด้วยคน
ด้วยขนาดเพียง 50 ml แต่ราคาสูงถึง 31,000 บาท โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสรรหาวัตถุดิบมาสกัดอย่างพิถีพิถัน เช่นสารจากหน่อใบอ่อนที่แห้งตัวของไม้ผลัดใบขนาดเล็กชนิดหนึ่งซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของจีนที่หายาก ทำให้ Cle de Peau Beaute ครีมบำรุงเพื่อฟื้นฟูพลังงานให้แก่เซลล์ผิว ขึ้นทำเนียบเครื่องสำอางหรูยิ่งกว่าหรูได้ไม่ยาก เป็นอีกชิ้นงาน superluxury หนึ่งของบริษัท ชิเซโด้ ซึ่งเป็นบริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก เพราะเพียงแค่ SHISEIDO ที่มีจะเป็นที่ 1 ในเคาน์เตอร์แบรนด์เมืองไทยอยู่แล้วก็ตาม มิอาจเพียงพอต่อความต้องการหรูที่เพิ่มมากขึ้นของสาวไทย จึงนำเข้า Cle de Peau Beaute มารองรับตลาดที่เป็นช่องว่างและมีผู้เล่นน้อยราย