ปรากฏการณ์คลื่นวิทยุในปี 2549 เปลี่ยนโฉมอีกครั้ง ด้วยการเพิ่มขึ้นของสถานีข่าว ที่นับเป็นการมาอย่างถูกที่ ถูกเวลาอย่างยิ่ง ท่ามกลางความต้องการของผู้ฟัง และเทคโนโลยีในเวลานี้ กลุ่มผู้ฟังวิทยุมีโอกาสมากขึ้นในการรับฟัง เพราะไม่ว่าอยู่ที่ใดก็สามารถฟังได้ หากต้องการ ด้วยอุปกรณ์ทันสมัยจากพัฒนาการของเทคโนโลยี โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือที่มีคุณสมบัติฟังวิทยุได้ หรือแม้แต่ MP3 ที่ระบาดไปทั่ว
ไม่เพียงอุปกรณ์ที่ตอบสนองเท่านั้น แต่ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เจ้าของเครื่องเหล่านั้นหันมากดหาคลื่นข่าวฟัง คือเหตุการณ์ของบ้านเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในเวลานี้ ที่ไม่มีใครรู้ว่าการเมืองที่ต้องเล่นเกมกันตลอดเวลา จะทำให้ ”ทักษิณ……ออกไป” เป็นจริงหรือไม่ หรือออกแล้วมีโอกาสกลับมาใหม่หรือไม่ กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนต่ออย่างไร ภาวะเศรษฐกิจที่ขึ้นๆ ลงๆ ด้วยตัวเลขใหม่ที่ต้องลุ้นแต่ละเดือน อย่างการส่งออก แต่ละไตรมาส อย่างจีดีพี และแต่ละวันอย่างดัชนีหุ้น หรือแม้แต่ข่าวสังคมทั้งเรื่องของปัญหาสังคม เรื่องของดารา นักร้อง เตียงหัก เตียงร้าว ก็มีให้ติดตามกันตลอดเวลา
ผู้ที่โดดเข้ามาทำสถานีข่าววิทยุในเวลานี้ จึงว่าถูกจังหวะอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสถานีน้องใหม่ อย่างน้อย 2 สถานี จาก 2 ค่าย
“นาทีทอง” คลื่นข่าว
“สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย” ในฐานะซีอีโอ ของบริษัททราฟฟิกคอร์เนอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารคลื่น wisdom radio แห่ง 105 ระบุว่า ”เมื่อใดที่ภาวะเศรษฐกิจ การเมืองไม่นิ่ง คลื่นข่าวก็เป็นที่นิยมมากขึ้น”
ดังนั้น คลื่น 105 ที่กลุ่มทราฟฟิคคอร์เนอร์เคยปั้นให้เป็นคลื่นเพลงร่วมกับเวอร์จิ้นฮิตซ์ จึงปรับโฉมให้เป็นคลื่นข่าว สาระ และกีฬา โดยแบ่งเวลากับค่ายสยามกีฬาอย่างลงตัว
สำหรับอนาคตของคลื่นเพลงนั้น “สุรพงษ์” บอกว่า คลื่นเพลงวันนี้ทำลำบาก แต่ละค่ายเหมือนกันหมด เปิดเพลงต่อเนื่องเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าย Cool Fm.,Virgin และ Green Wave เปิดต่อเนื่อง 15-20 เพลง เหมือนกันทุกคลื่น ซึ่งเป็นการทำลายอุตสาหกรรมคลื่นวิทยุ เพราะรายได้จากธุรกิจคลื่นวิทยุทั้งหมดมาจากโฆษณา หรืออย่างน้อยก็ 95% มาจากโฆษณา การเปิดเพลงรวดติดต่อกันเท่ากับว่า 1 ชั่วโมงมีเบรกโฆษณาเบรกเดียวโฆษณารวด 10 นาที ถึงเวลานั้น คนฟังก็เปลี่ยนคลื่นแล้ว รายได้ก็ต้องตกอย่างแน่นอน กลายเป็นว่าแย่งกันเจ๊งมากกว่า
ส่วนการทำคลื่นข่าวนั้นก็มีการแข่งขันสูง หากไม่พูดถึงเรื่องการถูกแทรกแซงแล้ว ในทาง Marketing แล้ว คลื่นข่าวเองจะครึ่งๆ กลางๆ ไม่ได้ ไม่ซ้ายก็ต้องขวา ไม่อย่างนั้นไม่มีคนฟัง และคลื่นข่าวยังมีโอกาสในการหารายได้โฆษณามากกว่า โดยเฉพาะจากหน่วยราชการที่มีการใช้งบโฆษณา ประชาสัมพันธ์องค์กรมากขึ้น ซึ่งก็ต้องเทมาที่คลื่นข่าว สาระ จะไปให้คลื่นเพลงก็ไม่ได้ เพราะไม่เข้า Concept
Open radio “ไม่ขอรวยแต่อยู่รอด”
ทางด้านคลื่นเอฟเอ็ม 94.0 ที่ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้ถือหุ้นใหญ่ค่ายแกรมมี่ ได้สิทธิมาบริหาร และสร้างเป็นคลื่นข่าว ในนาม Open Radio พร้อมสโลแกนสุดสวยว่า “Open Radio Open Mind เปิดโลก เปิดใจ เปิดความเป็นจริง” นั้น ”พิรุณ ฉัตรวนิชกุล” ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยไทม์ เที่ยงธรรม จำกัด และหัวหน้าสถานี บอกว่า สถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้อยู่ในจังหวะตามวงจร อย่างเมื่อปี 2539-2540 ก็มีการเรียกร้องเรื่องการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานีข่าวก็คึกคัก อย่างในเวลานี้ ก็มีการเรียกร้องเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นกัน ต่อไปก็จะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. มีการเลือกตั้ง ส.ว.
ในฐานะเป็นน้องใหม่ของคลื่นข่าว “พิรุณ” บอกว่า กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อหวังดึงผู้ฟังมาเป็นแฟน Open Radio คือ 1. เรื่องเนื้อหาข่าวจะไม่ให้น้อยหน้าใคร ด้วยความรวดเร็วในการรายงาน เน้นข่าวการเมือง ข่าวที่เกิดขึ้นอย่างรีบด่วน รายงานตลอด 24 ชั่วโมง มีนักข่าวตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ช่วงดึกแล้วหายไป รายงานเสียงจากเหตุการณ์ชัดเจน สัมภาษณ์สด อย่างเช่น ม็อบสนธิ ก็ปล่อยเสียงสนธิออกอากาศให้ตั้งแต่ต้น
2. รักษาไว้ในการยึดการทำข่าวเป็นวิชาชีพ ไม่ได้คิดว่าสถานีเป็นฝ่ายไหน จะเน้นรายงานทั้ง 2 ด้าน เช่นมีโฆษกรัฐบาลให้สัมภาษณ์ ก็ให้ฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์ด้วยพร้อมกัน แต่บางทีก็ไม่ได้ เพราะแหล่งข่าวไม่พร้อม
สิ่งที่เป็นแรงกดดัน และท้าทายของ Open Radio นั้น “พิรุณ” ยอมรับว่าภาพของไพบูลย์ คือความสนิทสนมกับรัฐบาล จึงทำให้ผู้ฟังอาจตั้งคำถามว่าสถานีนี้จะเป็นกลางหรือไม่ จะเชียร์แต่รัฐบาลหรือไม่
“เราต้องพิสูจน์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป”
อย่างไรก็ตาม”พิรุณ” บอกด้วยว่า ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นบรรณาธิการ เจ้าของหนังสือพิมพ์ หัวหน้าข่าวจำนวนไม่น้อยที่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนักการเมือง เพราะการเมืองเรามีแค่นี้ อย่างเรียนโรงเรียนเดียวกัน จึงหลีกเลี่ยงกันไม่พ้น แต่ทั้งหมดคือต้องพิสูจน์กันด้วยผลงาน ยืนหยัดด้วยความเป็นธรรม
สำหรับผลทางธุรกิจนั้น “พิรุณ” ยืนยันว่าไม่ได้หวังผลกำไร ขอเพียงอยู่รอด ไม่ได้หวังรวย ไม่ได้หวังกำไร แต่หวังให้วงการวิทยุกระฉับกระเฉงไปด้วยกัน ถ้าอยากรวยก็คงไปทำอาชีพอื่น
สูตรสำเร็จ เนชั่นเรดิโอ
ขณะที่พี่ใหญ่ของวงการคลื่นข่าววิทยุ เครือเนชั่น “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” กรรมการอำนวยการบริษัทเนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทเนชั่นเรดิโอ เน็ทเวอร์ค จำกัด บอกว่า เป็นสิ่งที่ดีที่มีคลื่นข่าวเพิ่มขึ้น แต่คลื่นใดจะประสบความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคนที่เคยทำคลื่นวิทยุบันเทิงจะข้ามฝั่งมาทำคลื่นข่าวบ้างก็ไม่รังเกียจ เพราะผู้บริโภคเป็นผู้เลือกเอง
“ยินดีมากที่บนหน้าปัดวิทยุมีคลื่นข่าวมากขึ้น ก็เป็นประโยชน์กับสังคม แต่ขอให้สถานีข่าวที่เกิดขึ้นมีความน่าเชื่อถือ”
ความน่าเชื่อถือนี้ “อดิศักดิ์”บอกว่า กลุ่มเนชั่นสามารถบอกได้อย่างเต็มปากว่าเนชั่นเป็นกลุ่มสื่อมวลชนที่ทำข่าวอย่างเดียวเป็นหลัก มีจุดยืนชัดเจน ทำมา 10 ปี ไม่ใช่วันสองวัน สถานีข่าวไม่มีทางลัด ไม่เหมือนสถานีคลื่นเพลง
สำหรับเนชั่นเองแล้ว “อดิศักดิ์” ค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากคลื่นใหม่มาแย่งผู้ฟัง เพราะเนชั่นเรดิโอมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง รักษามาตรฐานตลอดเวลา ไม่เคยทำให้ผู้ฟังสงสัยในเรื่องความน่าเชื่อถือ
นอกเหนือจากนี้ยังมีพัฒนารูปแบบการนำเสนอ อย่างของเครือเนชั่น มีวิทยุ และสถานีโทรทัศน์ด้วย บางช่วงเวลาได้ออกอากาศทั้งสองสื่อ ไม่ต่างจากบางคลื่น อย่าง 105.5 ของช่อง 3 ที่ได้นำรายการข่าวตอนเช้าที่ออกอากาศทางทีวี ออกอากาศผ่านวิทยุด้วย
และเหตุผลเดียวกันจุดกระตุ้นที่ทำให้คลื่นข่าวคึกคักขึ้นนั้น “อดิศักดิ์” มองว่า เพราะมีความเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งในสภา และโดยเฉพาะนอกสภาค่อนข้างมาก ความสนใจข่าวสารค่อนข้างสูง ประชาชนก็พยายามมองหาช่องทางใหม่ในการบริโภคข่าวสาร
จึงเป็นโอกาสทองของคลื่นวิทยุอีกครั้ง ทั้งผลสำเร็จทางธุรกิจ และเหนือสิ่งอื่นใด เพื่อพิสูจน์มืออาชีพสื่อมวลชนอีกแขนงหนึ่ง
กราฟฟิค คลื่นวิทยุ
คลื่น ผู้บริหารคลื่น เว็บไซต์วิทยุออนไลน์
F.M. 100.5 MHz สถานีข่าวและสาระ อสมท http://radio.mcot.net
F.M. 96.5 MHz คลื่นความคิด อสมท http://radio.mcot.net
F.M. 90.5 วิทยุเนชั่น เครือนสพ.เนชั่น http://www.nationradioonline.com
F.M 95.75 คลื่นข่าวชุมชน เครือนสพ.เนชั่น http://www.nationradioonline.com
F.M.101 นิวส์ชาแนล ไอเอ็นเอ็น http://www.101newschannel.com
F.M. 92.25 คลื่นประชาธิปไตย ศูนย์ปฏิบัติการเรียนรู้ชุมชนคนรักประชาธิปไตย http://www.fm9225.net
F.M.105 Wisdom Radio เครือทราฟฟิกคอร์เนอร์ –
F.M.94 Open Radio บริษัทไทยไทม์เที่ยงธรรม –
“คลื่นข่าวต้องสินค้าผู้ชาย”
วรรณี รัตนพล กรรการผู้จัดการ บริษัทบริหารสื่อและงบโฆษณา อินนิทิเอทิฟว์ มีเดีย วิเคราะห์ถึงการเกิดสถานีข่าวและรายการข่าววิทยุที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยเรื่องการเมือง ซึ่งต้องการกระบอกเสียงเผยแพร่ข้อมูลข่าว เผยแพร่เรื่องราวของกลุ่มไปยังกลุ่มเป้าหมาย เห็นได้จากเจ้าของสถานี ทีมงาน และรูปแบบรายการนำเสนอมักให้น้ำหนักไม่เท่ากัน
ในแง่นักบริหารสื่อมองว่า กลุ่มเป้าหมายคนฟังคลื่นข่าวยังเป็นเฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สินค้าที่นิยมโฆษณาในรายการมักมีทั้งสินค้าผู้ชาย โครงการบ้านจัดสรร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สื่อวิทยุยังคงเป็นสื่อแมสที่มีข้อจำกัดในแง่ปริมาณกลุ่มคนฟัง เทียบไม่ได้กับสื่อทีวี ซึ่งถือว่าทรงอิทธิพลต่อการรับรู้มากที่สุด