สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ Power Man of Power Buy

ช่วงวัยเยาว์ “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” เติบโตที่บ้านศาลาแดง ศูนย์รวมตระกูล “จิราธิวัฒน์” ได้สัมผัสคลุกคลี ซึมซับ ผูกพันกับธุรกิจค้าปลีก โดยมีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สีลม เป็นสนามเรียนรู้จริงมาอย่างเนิ่นนาน

สุทธิสารเป็นลูกชายคนสุดท้องของ เตียง จิราธิวัฒน์ ผู้ให้กำเนิด “เซ็นทรัล” ที่เกิดกับภรรยาคนที่ 3 คือ วิภา จิราธิวัฒน์ เขาเป็น 1 ใน 26 ทายาทรุ่นที่ 2 ของจิราธิวัฒน์ มีพี่สาวร่วมมารดาผู้หนึ่งที่มีบทบาทโดดเด่น คือ จริยา จิราธิวัฒน์ รองประธาน ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ เขาเข้ามาดูแลระบบ MIS (Management Information System) ของเซ็นทรัล จากนั้น 2 ปีรับผิดชอบด้านการจัดซื้อของเพาเวอร์บาย จะเรียกว่าสุทธิสารเป็นผู้ปลุกปั้นให้กำเนิดเพาเวอร์บายก็ว่าได้ ก่อนที่จะย้ายไปดูแลซูเปอร์สปอร์ต และลมพัดหวนกลับสู่เพาเวอร์บายอีกครั้งในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่

หนุ่มโสดวัย 37 ปีผู้นี้ ใช้ชีวิตอย่างผสมผสานระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน ภาพของชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง สวมใส่เสื้อผ้าลำลองดูสบาย และเดินไปเดินมาในเพาเวอร์บาย สาขาต่างๆ เป็นสิ่งที่คุ้นตาพนักงานประจำร้านเป็นอย่างดี สุทธิสารเลือกที่จะพบปะพูดคุยกับพนักงานเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับทราบถึงปัญหาที่พวกเขาพบเจอในฐานะผู้ใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด ก็เพื่อจุดประสงค์สำคัญ 2 ประการ คือ สร้างขวัญและกำใจให้กับพนักงาน และนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการบริหาร ซึ่งสามารถจัดการได้อย่างทันท่วงที

แม้ไม่ใคร่จะมีเวลาไปออกกำลังกายตามฟิตเนสเซ็นเตอร์เหมือนคนอื่นๆ แต่การ visit store แทบทุกวัน เดินวันละหลายๆ ชั่วโมง ทำให้เขาได้ทั้งงานและได้ทั้งสุขภาพไปอย่างไม่ตั้งใจ วันที่สุทธิสารนัดให้สัมภาษณ์กับ POSITIONING ที่สำนักงานใหญ่ เพาเวอร์บาย อาคารสีลม แกลอเรีย เขาเพิ่งกลับจากการ visit store ที่เพาเวอร์บาย ไอที เซ็นทรัล ทาวน์ รัตนาธิเบศร์“

“ปกติเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนมักจะผสมผสานกัน จะเรียกว่าสบายก็ได้ หรือจะวุ่นวายก็ว่าได้ (หัวเราะ) ทุกๆ เดือน ผมจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนตามสาขา จันทร์-ศุกร์จะทำงานในออฟฟิศ ออกไปดูบางสาขาในกรุงเทพฯ แต่สาขาต่างจังหวัดพยายามไปทุกๆ สัปดาห์ แต่จะมีวันว่าง 1 วัน พูดคุย อยู่บ้านกับคุณแม่ …ปกติผมชอบเดินอยู่แล้ว มีครั้งหนึ่งพาคุณปาริชาติ Vice President ของเพาเวอร์บาย เดินดูร้านที่อเมริกา น้ำหนักเขาลดไป 2 กก. (หัวเราะ)”

สิ่งที่กรรมการผู้จัดการคนนี้ยึดเป็นแนวทางการบริหารงาน “ต้องดูตลอดเวลา ดูยอดขาย หลักๆ จะเน้นการสื่อสาร พูดคุย สอบถามถึงปัญหา สิ่งที่พนักงานประจำสาขาอยากจะบอกกับเรา แต่ไม่มีโอกาสหรือกว่าจะได้บอกต้องผ่านหลายขั้นตอน เราก็ไปเจอเขาเลย พาเขาไปทานข้าว เขาก็จะรู้สึกอุ่นใจและทุ่มเทการทำงานเต็มที่ เพราะเราก็เห็นความสำคัญของเขา ผมจะลงรายละเอียดเยอะ ต้องรู้ให้มากที่สุด ถ้ามีโอกาสผมจะคุยกับพนักงานให้มากที่สุด และเก็บข้อมูล รวมถึงสอนเขาไปในตัว และผมจะชอบ cross check ระหว่างผู้บริหารระดับบนและพนักงาน”

สุทธิสารมีผลงานโดดเด่น คือ นวัตกรรมรูปแบบร้านของเพาเวอร์บาย ทั้ง เพาเวอร์บาย อิมเมจ และเพาเวอร์บาย ไอที ซึ่งเป็น sub segment ของ เพาเวอร์ บายแบบมาตรฐาน และริเริ่มโปรแกรม 3 พลัส เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโปรแกรมรับประกันสินค้า ด้วยการให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่ม 6 % ของราคาสินค้าที่ซื้อ จะได้รับประกันสินค้า เป็นระยะเวลา 3 ปี จากปกติ 1 ปี และเขายังสร้างเพาเวอร์บายให้ก้าวไกลไปกว่าร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการเปิดศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และมีการบริการรับซ่อมที่บ้านอีกด้วย

ด้วยรูปแบบร้านที่หลากหลาย positioning ของแต่ละสาขาถูกวางให้แตกต่างกัน “สาขาเซ็นทรัล ชิดลม จะหรูหราด้วยพื้นสีขาว และคัดเลือกสินค้าตามกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สินค้าส่วนใหญ่เป็น hi-technology เช่นจะมี LCD และพลาสมา ทีวี รวมถึงแล็ปทอป ให้เลือกเยอะกว่าสาขาอื่น ส่วน เพาเวอร์บาย เน็ตเวิร์ค จะไม่เน้นการตกแต่งมากนัก เพราะเป็นร้านที่อยู่ในชุมชน เช่น ตลาดสดโชคชัย 4 และตลาดแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ เป็นต้น

ส่วนเพาเวอร์บาย โฮม สโตร์ จะเป็นสาขาที่มีเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย จะไม่มีสินค้าไอทีเลย เพราะเราใช้พื้นที่ใน Homeworks ส่วนเพาเวอร์บาย อิมเมจ เน้นผลิตภัณฑ์พวกกล้องและที่เกี่ยวเนื่องเป็นหลัก และใช้พื้นที่น้อยกว่าไอทีประมาณ 5 เท่า ขณะที่เพาเวอร์บาย ไอทีจะเป็นเหมือนพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ที่อัพเกรดขึ้นมา ดูพรีเมียม และจะเป็นสินค้าไฮเอนด์ สำหรับ it lover จริงๆ ”

“ปีที่ผ่านมาเราสื่อสารกับผู้บริโภค เรื่อง price guarantee เพื่อปรับภาพลักษณ์ของเพาเวอร์บายของผู้บริโภคส่วนหนึ่ง ที่คิดว่าเราขายแต่ของแพง ปีนี้จะเน้นเรื่องของสินค้าที่หลากหลาย อย่างกล้องดิจิตอลมีให้เลือกมากกว่า 150 รุ่น แล็ปทอปกว่า 40 รุ่น แต่ในความหลากหลายจะโฟกัสไปที่สินค้าแบรนด์ดังรุ่นทอป และสินค้า extra brand สำหรับเพาเวอร์บายโดยเฉพาะ”

เขายอมรับว่าอดีตเพาเวอร์บายสูญเสีย positioning เพราะไปพยายามแข่งขันกับดิสเคานต์สโตร์ ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าแมสซึ่งเน้นราคาเป็นหลัก

“ปัจจุบันเราตอกย้ำ positioning ที่ชัดเจน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีที่ทันสมัย ล้ำยุค เราไม่ขายของที่เป็น old technology แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ขายสินค้าปกติ ทีวี 21 นิ้วเราก็ขาย แต่เราจะเสนอเทคโนโลยีที่มากกว่า คือ plasma tv projection tv เป็นต้น…ขายสินค้าพรีเมียมในราคาสมเหตุสมผล และเป็นเทรนด์เพราะสังเกตจากยอดขายของสินค้าระดับไฮเอนด์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น แล็ปทอปขายได้มากขึ้นขณะที่เดสก์ทอปขายได้น้อยลง เป็นต้น”

โปรเจกต์ต่อไปของเพาเวอร์บาย เกิดจากความชอบส่วนตัวของเขาเป็นหลัก คือ การจัดแบ่งพื้นที่ของเพาเวอร์บาย ไอทีส่วนหนึ่งให้เป็นอินเทอร์เน็ตโซน ที่จะเน้นความเป็น “พรีเมียม” ใช้เพื่อค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการ และประกอบอาชีพ

“ผมชอบเล่นอินเทอร์เน็ตมาก ทั้งใช้หาข้อมูลและสาระบันเทิง ได้เห็นความคิดคนซึ่งมีความหลากหลาย และปกติร้านอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่จะมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดี ผมเชื่อว่ามีคนหลายคนที่อยากใช้อินเทอร์เน็ตในแง่ของการค้นคว้าเพื่อข้อมูลทางวิชาการและการประกอบอาชีพ หรือแม้แต่สาระบันเทิง

อินเทอร์เน็ตโซนร้านแรกแบบสมบูรณ์แบบ เกิดที่เซ็นทรัล ทาวน์ รัตนาธิเบศร์ ซึ่งจะบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 2mbps จอ LCD และมีหูฟังและกล้องพร้อม เราอยากยกระดับร้านอินเทอร์เน็ตให้ดูพรีเมียม” และหากผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจจะขยายไปยังต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น

ขณะที่เพาเวอร์บาย flagship store พื้นที่ใหญ่กว่า 6,000 ตารางเมตร จะเริ่มให้บริการที่เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ภายในปีนี้ ปัจจุบันเพาเวอร์บายมีทั้งสิ้น 70 สาขา สมาชิก 300,000 คน ยอดขายปี 2548 กว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 10% ปีนี้เตรียมเปิดอีก 10-15 สาขา

ด้าน e-commerce อยู่ขั้นพัฒนาเว็บไซต์ใหม่ ให้แสดงข้อมูลได้น่าสนใจมากขึ้น และเพื่อเป็นฐานสำหรับการทำ direct sale กับลูกค้าต่างจังหวัดในพื้นที่ ซึ่งไม่มีสาขาของเพาเวอร์บายให้บริการ

“ต้องยอมรับว่าคนไทยยังไม่ยอมรับการจ่ายเงินก่อนแล้วค่อยรับสินค้าทีหลัง โดยที่ไม่ได้สัมผัสแตะต้องและเลือกของจริงก่อน ในการพัฒนาเว็บไซต์นี้จะเป็นแนวทางสำหรับลูกค้าต่างจังหวัด ในลักษณะสั่งจากเว็บไซต์ เรานำของไปส่งแล้วค่อยจ่ายเงิน เพื่อความมั่นใจของลูกค้า”

ส่วนนโยบายขยายสาขาไปต่างประเทศ สุทธิสารบอกว่า “อยากไปมาก ไปคนต้นๆ ด้วย ถ้านโยบายของกลุ่มเซ็นทรัลออกมาว่าให้ไปต่างประเทศ บอกเราล่วงหน้า 3 เดือน เชื่อว่าเราทำได้”

อนาคตข้างหน้าอีก 5 ปี สุทธิสารตั้งเป้าให้เพาเวอร์บายเป็น internation brad สำหรับร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทันสมัย เป็นฝันไกลที่สุทธิสาร จิราธิวัฒน์ มุ่งมั่น

Profile

Name : สุทธิสาร จิราธิวัฒน์
Age : 38 ปี
Education :
– MS ด้าน Computer Management, Boston University
– BS ด้าน MIS, Syracuse University
– ระดับมัธยมศึกษาที่ Cheshire Academy
Career Highlights :
ตุลาคม 2547 – ปัจจุบัน President, Power Buy
2544 – กันยายน 2547 2004 Managing Director, Super Sport
2543 – 2544 SVP of Merchandising & Project, Power Buy
2542 – 2543 VP of Operation, Power Buy
2541 – 2542 VP of Merchandising & Operation, Power Buy
2539 – 2541 Merchandising Director, Power Buy
2538 – 2539 MIS Director Power Buy
2535 – 2538 Analyst CDS MIS
Family :
บิดามารดา เตียง-วิภา จิราธิวัฒน์