หม่ำ เท่ง โหน่ง ขุมทรัพย์ใต้ต่อมฮา

เสียงหัวเราะหนึ่งครั้ง วิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ นี่คือความฮาที่ก่อให้เกิดรายได้…

หากยังมีเสียงหัวเราะอีกครั้ง…สองครั้ง สามครั้ง สี่ครั้ง ถี่ขึ้นเรื่อยๆ …ย่อมสร้างมูลค่าที่ก่อให้เกิดรายได้มากขึ้นๆๆ

เสียงหัวเราะนี้ สะท้อนถึงภาพของตลก หม่ำ เท่ง เหน่ง โมเดลแก๊งสามช่าของเวิร์คพอยท์ ที่เปรียบเป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ นับเป็นสูตรและกรณีศึกษาครั้งสำคัญของการสร้าง Idol ทางธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ ผ่านดาวตลกคนดังได้อย่างโสภาสถาพร

ถ้าคุณเคยหัวเราะกับ หม่ำ เท่ง โหน่ง แค่นี้แหละที่ปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าพ่อแห่งเวิร์คพอยท์ บอกว่า ธุรกิจเราสำเร็จแล้ว…คำพูดของเจ้าพ่อเวิร์คพอยท์ กำลังสะท้อนให้เห็นว่า สูตรขายขำของเขาคือ ความปรารถนาอันน่าพึงพอใจสูงสุด และเป็นขุมทรัพย์ของเวิร์คพอยท์ที่เบ่งบานที่สุดในขณะนี้

ขุมทรัพย์ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงรายได้เพียงอย่างเดียว หากเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ แตกไลน์ทางเซ็กเมนต์ทางบันเทิงที่ยากยิ่งจะมีองค์กรใดเลียนแบบได้

โมเดลแก๊งสามช่า

สูตรตัวตลก ไม่ใช่เกิดขึ้นตั้งแต่เวิร์คพอยท์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 แต่เป็นสูตรที่ค่อยๆ เบ่งบานขึ้นในมันสมองของผู้บริหารเวิร์คพอยท์ นับตั้งแต่รายการชิงร้อยชิงล้านคลอดขึ้นเมื่อปี 2533 ทางช่อง 7 สี

กลยุทธ์ตัวตลกวาไรตี้ เริ่มขึ้นจากหม่ำ จ๊กมก ซึ่งเข้ามาเป็นตัวชูโรงเมื่อปี 2534 และดูเหมือนสูตรขายขำจะกลายเป็น “ของจำเป็น” ของรายการวาไรตี้เกมโชว์ แม้ยุคนั้นดาวตลกทั่วฟ้าเมืองไทยยังพึ่งพิงหากินกับคาเฟ่ยามค่ำคืน ไม่ค่อยมีดาวตลกคนใดมีงานประจำกับรายการเกมโชว์มากนัก

ความคิดแบบขาย “ทีมตลกโชว์” ค่อยๆ เป็นสูตรที่นิยมมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเวิร์คพอยท์จะใช้เวลาพอสมควรในการค้นหาโมเดลนี้พบ หลังจากปล่อยให้รายการชิงร้อยชิงล้านเกาะเกี่ยวความนิยมมานานนับ 7-8 ปี

แก๊งสามช่า ถูกหล่อหลอมขึ้นในปี 2541 จากมือครีเอทีฟแห่งเวิร์คพอยท์ที่ชื่อ พาณิชย์ สดสี ซึ่งปัญญาเปรียบเขาเป็นมันสองข้างหนึ่งของเขา

พาณิชย์ สดสี คนนี้ทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์ โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง ธุรกิจหนังเรื่องแรกของเวิร์คพอยท์ เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังฉากความคิด และผลิตความสำเร็จให้ชิงร้อยชิงล้านมานานถึง 15-16 ปี

แก๊งสามช่า เป็นโมเดลที่ไม่ถูกสร้างขึ้นเพียงข้ามคืน แต่เป็นกระบวนความคิดแบบครีเอเทีฟที่ค่อยๆ สร้างขึ้น จากพื้นฐาน “รายการบันเทิงดี ต้องมีทีมตลกเก่ง”

“ชิงร้อยชิงล้าน เป็นวาไรตี้ เกมโชว์ที่ไม่ซ้ำซาก จำเจ เป็นรายการที่มีการแสดง มีพลอตเรื่องที่จำเป็นต้องเปลี่ยนฉาก สร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ เสมอ แต่องค์ประกอบหลายอย่างจะดีจะเด่นได้ก็ต้องเกิดขึ้นจากพรสวรรค์ โดยเฉพาะหม่ำ เท่ง โหน่ง ถือเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ทำหน้าที่ได้ดีมาก” พาณิชย์ สดสี อธิบาย

การสร้างแก๊งสามช่า ให้รายละเอียดตั้งแต่การวางคาแร็กเตอร์ของแต่ละคน ซึ่งนุวัทฐ จั่นบำรุง กรรมการบริหาร เวิร์คพอยท์ เล่าให้ฟังว่า หม่ำ เท่ง โหน่ง มีกระบวนการคิดสร้างแต่ละคนอย่างมีระบบ ไม่ใช่ปล่อยไปตามใจ ตามอารมณ์

“อย่างกรณี หม่ำ เขาสามารถเข้าไปในฐานคนดูได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องดัดแปลงมากนัก ให้เขาเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด มุกสดๆ ของหม่ำถือเป็นจุดขายอย่างดี เพียงแต่ต้องควบคุมไม่ให้ทะลึ่งเกินงาม ส่วนเท่ง เขาเป็นคนหน้าตาดี เขามีวิธีพูดที่มีเสน่ห์ กลุ่มสาวๆ จะนิยมชมชอบ ขณะที่โหน่ง ตัวกลมๆ ต้องใส่กางเกงเอวสูงๆ หาเสื้อรัดๆ มาใส่ ทำให้เขาดูน่ารัก ฐานคนดูเด็กๆ จะชอบเขามาก”

จะเห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกหล่อหลอมขึ้นจากทีมงานเวิร์คพอยท์ ซึ่งทุกๆสัปดาห์จะมีการประชุมกันหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย เพื่อวางมุก วางพลอตเรื่องในการนำเสนอ อย่างเช่น มุกภรรยาโหน่งแก่ ก็คิดค้นจากการประชุมกัน

ไม่รู้ว่าสูตรสร้างแก๊งสามช่าจะถูกลองผิดลองถูกมาขนาดไหน แต่วิธีคิดแบบ 3 ขำ 3 ฮานี้ แจ่มและออกดอกออกผลอย่างรวดเร็ว

สินทรัพย์ที่ประเมินค่ามิได้

ถ้างบดุลของเวิร์คพอยท์อธิบายถึงผลของรายได้ จากการใช้ 3 ดาวตลกคนดัง หม่ำ เท่ง โหน่ง คำนวณอย่างคร่าวๆ กว่า 7 ปีที่แก๊งสามช่าก่อกำเนิดขึ้น น่าจะทำรายได้ให้เวิร์คพอยท์เกินหลักหลายร้อยล้านบาทแล้ว ทั้งรายได้ทางทีวี ภาพยนตร์ และพ็อกเกตบุ๊ก

โดยเฉพาะรายการชิงร้อย ชิงล้าน เป็นรายการที่ปัญญา นิรันดร์กุล ยืนยันว่า ทำรายได้มากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับรายการทางจอทีวีของเวิร์คพอยท์

แก๊งสามช่า กลายเป็น Idol สำคัญของเวิร์คพอยท์ ไม่แปลกที่ปัญญาจะบอกทีเล่นทีจริงว่า หม่ำ เท่ง โหน่ง คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเวิร์คพอยท์ ที่ควรบูชา!!

ทุกวันนี้ ในจำนวน 15 รายการบันเทิงทางทีวีในหนึ่งสัปดาห์ แก๊งสามช่า มีรายการประจำที่ต้องออกถึง 5 รายการ ได้แก่ รายการชิงร้อยชิงล้าน ทางช่อง 7, รายการชัยบดินทร์โชว์ ทางช่อง 9, รายการหม่ำโชว์ ทางช่อง 5, รายการระเบิดเถิดเทิง ทางช่อง 5 และ ละครโคกคูนตระกูลไข่ ทางช่อง 3

ทั้งนี้ยังไม่นับการถ่ายภาพยนตร์ ซึ่งปัญญาบอกว่า ให้แต่ละคนเล่นภาพยนตร์ได้ปีหนึ่งไม่เกิน 2-3 เรื่อง เพื่อไม่ให้เฝือ หรือมากเกินไปนัก

ความสำเร็จของสามช่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล่าสุด เวิร์คพอยท์ขยายไลน์ธุรกิจ ไปสู่การผลิตภาพยนตร์ในนาม บริษัท หัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม จำกัด เปิดปฐมฤกษ์เรื่อง โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง แม้ก้าวแรกของการทำหนังจะดึงพันธมิตรทางธุกิจอย่างสหมงคลฟิล์ม มาร่วมลงทุนช่วยสร้างตลาดหนัง ธุรกิจสายหนัง แต่ดูเหมือนว่าอีกไม่ช้า เวิร์คพอยท์มีแนวโน้มจะผลิตเอง ขายเอง หากมีประสบการณ์ด้านการตลาดสายหนังแข็งแรงมากขึ้น

ขณะที่เท่ง และโหน่ง กำลังถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ผลิตหนังให้เวิร์คพอยท์ หลังจากก่อนหน้านี้ หม่ำเคยโชว์ฝีมือการกำกับหนังมาแล้วในเรื่อง แหยมยโสธร

การขยายไลน์ของเวิร์คพอยท์ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เวิร์คพอยท์พยายามสร้างมูลค่าของพลังแก๊งสามช่า โดยตั้ง บริษัท บั้งไฟ สตูดิโอ ผลิตรายการทีวี โดยเวิร์คพอยท์ถือหุ้น 60% และหม่ำถือหุ้น 40%

นอกจากนี้ยังมีบริษัทโต๊ะกลม โทรทัศน์, บริษัท คำพอดี, บริษัท บ้านอิทธิฤทธิ์ เป็นไลน์ธุรกิจด้านบันเทิงใหม่ๆ แม้จะไม่มีแก๊งสามช่าเข้าไปเกี่ยวข้องมากนัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวิร์คพอยท์กำลังมองเห็นแสงสว่างจากธุรกิจบันเทิงอย่างแจ่มชัด

ไม่ผิดนักที่ทุกวันนี้ ใครๆ จะเปรียบ หม่ำ เป็น เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย ในวงการตลก ขณะที่เท่ง โหน่ง ขึ้นแท่นดาราตลกซูเปอร์สตาร์ ทั้งทางทีวี หนัง และแม้แต่พ็อกเกตบุ๊ก พวกเขากอบโกยมาหมดแล้ว

โมเดลตลกโชว์ของเวิร์คพอยท์ จึงเป็นสูตรเอนเตอร์เทนที่น่าศึกษายิ่งนัก และยากยิ่งจะปฏิเสธได้ว่า นี่คือขุมทรัพย์ของปัญญา นิรันดร์กุล อย่างแท้จริง…