แคปปิตอลแลนด์-CIC นำทัพบุกอสังหาฯ

แม้ว่าปี 2548 จะไม่ใช่ปีทองของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะจากสภาพตลาดที่เริ่มชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2547 แต่กลับเป็นปีที่มีกลุ่มทุนจากสิงคโปร์พาเหรดเข้ามาลงทุนมากที่สุด

นักลงทุนรายใหญ่ที่น่าฮือฮาเพราะด้วยความ “บิ๊ก” ของผู้ที่มาลงทุนจากสิงคโปร์ คือบริษัทแคปปิตอลแลนด์ จำกัด ในเครือของบริษัทเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จำกัด และบิ๊กทั้งบริษัทไทยที่ขายหุ้นให้สิงคโปร์ คือบริษัททีซีซี แลนด์ จำกัด ของเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีเมืองไทย รวมกันแล้วกลายเป็นบริษัททีซีซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด ด้วยสัดส่วนหุ้นไทย 60% สิงคโปร์ 40% ประกาศเปิดตัวโครงการยักษ์ต่อเนื่อง 3 โครงการ ล่าสุดคือ คอนโดมิเนียมหรู ย่านสาทร “Empire Place” มูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท

โสมพัฒน์ ไตรโสรัส บอกกับ POSITIONING ถึงที่มาของการร่วมทุนกับแคปปิตอลแลนด์ มาจากการประชุมภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ หรือ STEER ครั้งที่ 2 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2548 โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นแกนนำฝ่ายไทย และ Mr.Lim Hng Kuang รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายสิงคโปร์

“ดร.สมคิด มองว่า รัฐบาลไทยและสิงคโปร์ควรจะมีการร่วมมือธุรกิจระหว่างกัน เลยพาทีมนักธุรกิจไปนั่งทานข้าวกับนักธุรกิจสิงคโปร์ เจริญมองว่า แคปิตอลแลนด์เป็นบริษัทของรัฐบาล มีความมั่นคง น่าเชื่อถือ การตัดสินใจร่วมทุนระหว่างกันก็เลยเร็วขึ้น”

แคปปิตอลแลนด์เป็นบริษัทในเครือภายใต้ร่มเงาของกลุ่มเทมาเส็ก ที่เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ มีเป็นเจ้าของอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า เรียงรายอยู่ทั่วเกาะสิงคโปร์ ประสบการณ์ และ Knowhow ของแคปปิตอลแลนด์ จึงเป็น “ทางลัด” ให้กับบริษัท TCC แลนด์ ในการพลิกฟื้นที่ดินนับแสนไร่ของเจริญ ให้กลายเป็นอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย

“หัวใจของการพัฒนาอยู่ที่ Constructing Management จะรั่วไหลก็ตรงนี้ ซึ่งแคปปิตอลแลนด์ เขามีระบบอยู่แล้ว การเข้ามาของเขา จึงเรียกว่าเป็นการเรียนลัดของเรา”

ในขณะที่ “เฉิน เหลียน ปัง” ผู้บริหารจากแคปปิตอล แลนด์ ที่เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ ตอบคำถามของ POSITIONING ที่ส่งถึงผู้บริหาร Capital Land สิงคโปร์ และถูกส่งกลับมาให้ “เฉิน เหลียน ปัง” เป็นผู้ตอบอีกทอดหนึ่ง ในช่วงที่เมืองไทยเกิดกระแสบอยคอตสินค้าสิงคโปร์ ยืนยันว่าแคปปิตอลแลนด์ยังคงยืนยันนโยบายลงทุนระยะยาวในประเทศต่างๆ ที่แคปปิตอลเลนด์ได้เข้าไปลงทุน

“เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะยังคงพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้มีพื้นฐานที่มีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็หมายถึงโอกาสในการสร้างที่อยู่อาศัยทีมีคุณภาพสำหรับประเทศไทย”

เฉิน เหลียน ปัง เล่าว่า แคปปิตอลแลนด์ ได้เข้ามาลงทุนโดยถือหุ้นในบริษัททีซีซี แคปปิตอลแลนด์ จำกัด 40% เมื่อเดือนกันยายน 2546 ด้วยเป้าหมายเพื่อก่อสร้าง และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สำหรับที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และค้าปลีกในประเทศไทย

เฉิน เหลียน ปัง บอกด้วยว่าปัจจุบันทีซีซี แคปิตอลแลนด์พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท และยังมีโครงการที่อยู่ในการบริหารของทีซีซี แลนด์ จำกัด อีก 15 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยอาคารสำนักงาน ศูนย์ค้าปลีก โรงแรม รีสอร์ต รวมมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท และอีก 20 โครงการที่กำลังอยู่ในแผน ประมาณ 35,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ แคปปิตอลแลนด์ยังมีบริษัทในเครือ คือดิ แอสคอต กรุ๊ป (The Ascott Group) ที่บริหารอาคารที่พักอาศัย ลักษณะเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์อีกมากกว่า 2,100 ยูนิตในประเทศไทย

สำหรับโครงการแรกที่ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์เปิดตัวในไทยคือโครงการที่พักอาศัยระดับหรู คือ Athenee Residence เมื่อเดือนธันวาคม 2547 จำนวน 219 ยูนิต นับเป็นโครงการที่ได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งเฉิน เหลียน ปัง อธิบายว่า เป็นเพราะทำเลที่ดี จากการตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ซึ่งเป็นถนนที่มีสถานทูตหลายแห่งตั้งอยู่ มีโรงแรมระดับ 5 ดาว คือพลาซ่า แอทธินี

หลังจากนั้นต้นปี 2548 จึงเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมขนาดไม่สูงนัก จำนวน 70 ยูนิต “ราชครู วิลล่า” บนถนนพหลโยธินซอย 5 และปลายปี 2548 ประกาศเปิดตัว Empire Place สูง 45 ชั้น บนแยกสาทร นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 4 เป็นห้องชุดที่อยู่อาศัย 440 ยูนิต ขณะนี้ครึ่งหนึ่งของโครงการถูกขายหมดแล้ว เพราะทำเลที่ตั้งที่ดี มีทั้งรถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน โรงเรียนนานาชาติ แหล่งช้อปปิ้ง

นอกจากนี้ TCC Capitaland ยังได้เตรียมนำที่ดิน 300 ไร่ เกษตร-นวมินทร์ ที่เจริญซื้อไว้นานแล้ว นำมาพัฒนาให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่จะมีทั้งบ้านพักอาศัย และศูนย์การค้า

“เฉิน เหลียน ปัง” อธิบายถึงความสำเร็จในการลงทุนของแคปปิตอลแลนด์ว่า เพราะมาจากการตัดสินใจมีพันธมิตรที่มีศักยภาพ และประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยอย่างทีซีซี แลนด์ ขณะที่แคปปิตอลแลนด์มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ซึ่งโครงการต่างๆ ที่ก่อสร้างโดยทีซีซี แคปปิตอลแลนด์ ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงแต่อยู่ในทำเลที่ตั้งดีเท่านั้น แต่เป็นเพราะการออกแบบที่ดี การก่อสร้างที่ดี ตรงกับความต้องการของรูปแบบการใช้ชีวิต หรือไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ

นอกจากแคปปิตอลแลนด์แล้ว ยังมีคอนโดมีเนียมหรูอีก 2 โครงการที่เปิดตัว ด้วยทุนจากสิงคโปร์ อย่าง The Met และ The Pano และหากย้อนไปในปี 2547 มี 2 โครงการ คือเออร์บานา สารทร ของกลุ่มสยามพันธุ์ และสกายวิลล่าของกลุ่มโกลเด้นแลนด์

เมื่อมองไกลไปถึงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ก็มีกลุ่มทุนสิงคโปร์กองทุน GIC หรือ Government of Singapore Investment Corporation เข้ามาถือหุ้นในบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด เมื่อปี 2538 รับกับภาวะเศรษฐกิจขยายตัวก่อนเกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 แต่ช่วงวิกฤตและหลังวิกฤต GIC ก็ไม่ได้ถอนหุ้นใด ๆ ออกไป จนสามารถผลักดันให้กลุ่มแลนด์ฯเป็นยักษ์อสังหาริมทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ผลักดันให้ ”อนันต์ อัศวโภคิน” ติดอันดับ 1 ของเศรษฐีเมืองไทยในหลายๆ ปี

Simon Derville ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บริษัทไรมอน แลนด์ จำกัด มองว่า ทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งสิงคโปร์จะเข้าในประเทศไทยมากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่ความสามารถในการก่อสร้าง ทั้งเทคนิคการบริหารการจัดการต้นทุน การออกแบบ ยังเป็นเหตุผลที่มีการนำเสนอคุณภาพที่ดีที่เหมาะสมกับราคา ที่ส่วนใหญ่ เน้นกลุ่มลูกค้าระดับสูง

สำหรับทุนจากสิงคโปร์ที่เข้ามาในประเทศไทยนั้น เป็นเพราะประเทศไทยเองอยู่ใกล้กับประเทศสิงคโปร์ที่สุด และมีหลายธุรกิจที่เข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้มีคนจากสิงคโปร์มาทำงานมากขึ้น จึงเป็นช่องทางหนึ่งในการทำตลาดของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาลงทุนในไทย ที่อย่างน้อยก็สามารถขายลูกค้าชาวสิงคโปร์ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ ซึ่งโดยเฉลี่ยพบว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่มีทุนสิงคโปร์ถือหุ้นอยู่ จะมีผู้ซื้อเป็นชาวสิงคโปร์อยู่ประมาณ 30%

ความสำเร็จของสิงคโปร์ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือเรื่อง ”เงินทุน” ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ประเทศไทยขาด “เงินทุน” ที่ว่านี้ไม่ใช่เงินกู้ เงินยืม แต่เป็นเงินสดๆ ที่สิงคโปร์นำเข้ามา จึงกลายเป็นส่วนผสมลงตัวอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย และคนไทย ในช่วงที่ไม่อาจก่อหนี้ได้อีก แต่ยังมีทรัพย์สิน ที่ดินจำนวนมาก เมื่อเทียบกับประเทศสิงคโปร์ ที่มีขนาดเพียงเท่ากับเกาะภูเก็ตเท่านั้น