แม้โปรแกรมการแลกของรางวัลจาการช้อปผ่าน เดบิต การ์ด หรือบัตรเงินสด จะยังสู้เครดิต การ์ด ไม่ได้เช่น หากใช้เดบิต การ์ดจ่ายค่าสินค้า 2 เหรียญสหรัฐ จะได้ 1 คะแนนสะสม แต่หากใช้เครดิต การ์ด 1 เหรียญก็ได้แล้ว 1 คะแนน เพราะฉะนั้นถ้าอยากแลกของรางวัล เป็นจอทีวีพลาสม่า ก็ต้องจ่ายด้วยเดบิต การ์ด นานและมากเป็น 2 เท่า
แต่บรรดาเดบิต การ์ด ต่างพาเหรดกันออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนัก และต่อเนื่อง อย่าง Master Card ที่ร่วมกับบริษัท Upromise ผู้ให้บริการด้านการศึกษา ที่ช่วยเติมเงินออมให้ในแบงก์เมื่อลูกค้าซื้อของโดยใช้เดบิต การ์ด, Washington Mutual ให้เงินคืนลูกค้า 3 เซนต์ เมื่อรูดซื้อของแต่ละครั้ง, Citibank ให้คะแนนสะสม แลกของรางวัล
กลยุทธ์แรงจูงใจแลกของที่มีทั้งสินค้าและบริการ อย่างการไปพักโรงแรม ตั๋วเครื่องบินฟรี ประกอบกับการตอบสนองไลฟ์สไตล์แนวใหม่ ที่ผู้คนไม่ต้องพกเงินสด ความสะดวกนี้เองทำให้ยอดลูกค้าเดบิต การ์ดเติบโตขึ้น ดูสถิติจากปี 2548 แบงก์ 3 แห่ง จะมี 1 แห่ง ที่ให้รางวัลสะสมแต้มแก่ลูกค้า จากปี 2546 ที่แบงก์ 1 ใน 4 ถึงจะมีแคมเปญนี้ เช่นเดียวกับฝากผู้ซื้อสินค้าที่ 1 ใน 3 นักช้อปจะรูดเดบิตการ์ด เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ถึง 26%
งานนี้เห็นทีแบงก์ทั้งหลายต้องตั้งหลักให้ทันยุคบัตรเงินสด แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมต่อครั้งจากการรูดเดบิต การ์ดของลูกค้าจะน้อยกว่าเครดิต การ์ดก็ตาม