ทอดเต๋า ซื้อบ้าน ตกหีบสมบัติ เข้าคุก…สำหรับคนวัยเกิน 30 คงเคยเล่นเกมนี้ “เกมมหาเศรษฐี” เพราะถือเป็นเกมสำหรับครอบครัว ที่คลาสสิกชิ้นหนึ่งของโลก
“สมัยก่อน เกมเศรษฐีที่เข้ามาขายเมืองไทย เป็นของเล่นที่ก๊อบปี้มาจากต่างประเทศ ไม่มีการจดลิขสิทธิ์ แต่วันนี้เรานำเกมมหาเศรษฐีมาพัฒนาเป็นฉบับภาษาไทย อย่างถูกต้อง และกำลังจะปลุกปั้นให้เป็นของเล่นชิ้นใหม่ของนักสะสมในเมืองไทย” ซาเมียร์ ปราสาด ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ทีเอส ไลฟ์สไตล์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่าย อธิบาย
เกมมหาเศรษฐีเวอร์ชั่นใหม่ ได้ใช้คอนเซ็ปต์นำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศที่ขาย มาลงในช่องตาราง อย่างเวอร์ชั่นในประเทศไทย ได้นำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น สีลม เกาะสมุย เกาะพงัน ฯลฯ ขณะที่ประเทศอื่นๆ ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ โดยถึงปัจจุบันเกมนี้ได้ขายใน 80 ประเทศทั่วโลก รวม 26 ภาษา
การวาง POSITIONING ของทำตลาดเกมดังกล่าว ผู้บริหาร ทีเอส ไลฟ์สไตล์ บอกว่า ช่วง 3 เดือนแรกจะให้ ทอย อาร์ อัส เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะมีการรันนัมเบอร์ 1- 1,500 กล่องแรก และต่อไปจะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไปร้านของเล่นทั่วประเทศ รวมทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้คิงเพาเวอร์เป็นตัวแทนการจัดจำหน่าย เพื่อสร้างของเล่นชิ้นนี้ให้เป็นนของฝาก หรือของที่ระลึกจากประเทศไทย
ความพิเศษของเกมนี้ นอกจากจะให้ความสนุกสนานแล้ว ยังช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ขณะที่เด็กจะได้ฝึกทักษะในเรื่องของการลงทุน และธุรกิจไปพร้อมๆ กับการใช้เวลาว่างร่วมกันอย่างมีประโยชน์
สินค้า: เกมเศรษฐี
กลุ่มเป้าหมาย: เด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป เล่นได้ตั้งแต่ 2-8 คน
วางตำแหน่งสินค้า: ของเล่น และของฝาก หรือของที่ระลึกจากประเทศไทย
ช่องทางการจำหน่าย: ผ่านร้านขายของเล่น ทอย อาร์ อัส และร่วมกับคิง เพาเวอร์ จำหน่ายที่สุวรรณภูมิ
ยอดขาย: – ปี 2549 10,000 กล่อง – ปี 2550 20,000 กล่อง
Did you know?
เกมมหาเศรษฐี กำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1934 โดยชาวเอมริกัน ชื่อ ชาร์ลส บี ดาร์โรว์ เป็นผู้คิดค้นขึ้นในยุคคนว่างงานสูง ซึ่งถือเป็นเกมยอดนิยมของคนอเมริกัน เพื่อฆ่าเวลา ภายหลัง ดาร์โรว์ได้ขายลิขสิทธิ์เกมดังกล่าวให้กับบริษัท พาร์คเกอร์ บราเธอร์ เพื่อนำไปผลิตและจำหน่ายจวบจนปัจจุบัน