หลายคนบอกให้เขาเปลี่ยนชื่อเป็น “รวมธุรกิจ” น่าจะเหมาะกว่า “รวมนคร” เนื่องจากไม่เพียงเป็นเพราะถือหุ้นและเป็นซีอีโอหลายต่อหลายบริษัทเท่านั้น แต่ธุรกิจที่เขาทำเรียกได้ว่าฉีกแนวไปกันคนละทิศคนละทาง จนต้องยกให้ว่าเป็นผู้มีความสามารถหลากหลายประเภทธุรกิจจริงๆ
นามบัตรในกระเป๋าของ พันตำรวจเอกรวมนคร ทับทิมธงไชย มีหลายใบ แต่ละใบระบุตำแหน่งซีอีโอทุกบริษัท รวมในขณะนี้บริษัทใหญ่ๆ มี 3 บริษัท คือ “ไทย ลองสเตย์ แมนเนจเม้นท์” ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวแบบขายแพ็กเกจให้คนที่มาเที่ยวอยู่เป็นเวลานาน, “เอ็นจีวี กรุ๊ป” ผู้ดำเนินธุรกิจปั๊มแก๊สเอ็นจีวี และ “อาร์.เอ็น.ที. เทเลวิชั่น” ผู้ผลิตและเช่าเวลารายการสถานีโทรทัศน์
“รวมนคร” เป็นบุตรชายคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 5 คนของครอบครัวที่ค้าผ้าไหม ในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ในระดับอุดมศึกษาได้เข้าสอบติดทั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และหมอ แต่เลือกเรียนตำรวจ อันเป็นที่มาของ “คอนเนกชั่น” ในวงการตำรวจและทหาร รับราชการเป็นตำรวจตามโรงพักในกรุงเทพฯ หลายสน. เป็นเวลา 12 ปี เมื่อมีโอกาสทางธุรกิจจากคำแนะนำของนายทหารผู้อำนวยสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คนหนึ่ง ให้เข้ามาทำธุรกิจผลิตรายการสำหรับสถานีโทรทัศน์โกลบอลเน็ตเวิร์ค ที่แพร่ภาพไปทั่วโลก จึงทำให้เขาแจ้งเกิดบริษัทอาร์.เอ็น.ทีฯ ที่ต่อมายังได้สัมปทานโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมจากการกรมประชาสัมพันธ์
กิจกรรมล่าสุดที่ทำให้ “รวมนคร” เป็นที่รู้จักมากขึ้น คือการเข้าซื้อหุ้นใน “ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์” ที่มีธุรกิจทั้งเช่าเวลารายการโทรทัศน์ โดยเฉพาะลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และสิ่งพิมพ์ตั้งแต่หนังสือพิมพ์รายวันอย่างบางกอกทูเดย์ จนถึงนิตยสารอีกหลายฉบับ จำนวนประมาณ 16% จากผู้ก่อตั้งบริษัทคือ “สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย” ด้วยมูลค่าประมาณ 48 ล้านบาท
ปัจจุบันพันตำรวจเอกรวมนครจึงทำทั้งธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโทรทัศน์ ธุรกิจวิทยุ “บัสซาวด์ ขสมก.” และธุรกิจสิ่งพิมพ์ ด้วยพอร์ตการลงทุนหากนับจากจำนวนหุ้นในบริษัทต่างๆ ที่ถืออยู่ เจ้าตัวใช้เวลาคำนวณไม่นานนัก ว่ามีอยู่ประมาณ 400-500 ล้านบาท
ในวัย 39 ปี “รวมนคร” จึงกลายเป็นคนที่ “ฮอต ฮิต” ขึ้นอีก ทุกสื่อทั้งหนังสือพิมพ์รายวัน รายสัปดาห์ ต่างจองคิวขอสัมภาษณ์ ซึ่งเขาเองก็เต็มใจสัมภาษณ์ในแบบเปิดเผย และเปิดตัวเต็มที่ ตั้งแต่ความเป็นมา จนถึงแนวคิดในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถามถึงว่าเหตุใดจึงมีเงินลงทุนมากมาย และการเข้าถึงโครงการต่างๆ จนนำมาสู่การทำธุรกิจมากมาย หรือแม้กระทั่งคำถามแบบตรงๆ ว่าเป็นนายหน้าใครหรือเปล่า
“ผมไม่ได้สนิทนักการเมือง ไม่ได้ลงทุนแทนใคร หรือเป็นนายหน้าใครแน่นอน แต่เพราะผมชอบทำธุรกิจ และอยากเป็นเจ้าของธุรกิจเอง มากกว่าไปเป็นลูกจ้างรับบริหารให้คนอื่น ก็ทำไมล่ะ ในเมื่อเราทำให้กับตัวเองได้”
สำหรับสูตรสำเร็จของ “รวมนคร” นั้น เขาบอกว่า ทั้งหมดเป็นเงินของเขาและเพื่อน เขาทุกวันนี้จึงไม่ได้เป็นหนี้แบงก์ หรือต้องกู้เงินมาลงทุน เขาย้ำตลอดเวลาว่าความสำเร็จ ณ ปัจจุบันที่ได้มา เพราะหลักการในการทำธุรกิจที่ว่าคือ “ต้องให้ก่อน” จึงจะได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
สำหรับสูตรการให้แบบ ”รวมนคร” นั้น เขายกตัวอย่างว่าธุรกิจไทย ลองสเตย์ฯ มีวิธีการทำให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ติดขัด คือการหาพันธมิตรที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจท่องเที่ยว โดยไม่ลงทุนแข่งขันกับพันธมิตร ทั้งโรงแรม โรงพยาบาล สนามกอล์ฟ และโครงการบ้าน รวมถึงการการหาพันธมิตรระดับโลกอย่างบัตรเครดิต VISA เพื่อช่วยหาลูกค้าต่างชาติ โดยการตกลงแบ่งผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างพอใจ
ในส่วนของธุรกิจปั๊มก๊าซเอ็นจีวี ไม่เพียงแค่การลงทุนปั๊มแล้วรอให้มีรถมาเติม แต่เขาต้องออกแรงในการหารถที่สามารถใช้ก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น การประสานงานกับผู้ผลิตรถ พร้อมเสนอแพ็กเกจจัดซื้อรถทั้งรถขสมก. และรถขนส่ง หรืออย่างธุรกิจรับสัมปทานคลื่นวิทยุในรถเมล์ “บัสซาวด์” เขาก็ใช้กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจให้คนขับรถเมล์ยินดีเปิดวิทยุ คือโปรแกรมการแจกเงินรางวัลจากการที่ผู้โดยสารโหวตเลือกคนขับและกระเป๋ามารยาทดี
สำหรับ “รวมนคร” แล้ว ยืนยันด้วยว่ายังมีแผนอีกมากมายที่จะสร้างอาณาจักรธุรกิจของเขาให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ศึกษาโมเดลความสำเร็จจากนักธุรกิจใหญ่ๆ หลายคน ทั้ง ”เจริญ สิริวัฒนภักดี” รวมถึง ”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”
ส่วนอาณาจักรเขาจะกว้างใหญ่กว่าเดิมมากเพียงใด เจ้าตัวบอกว่าต้องคอยติดตามกัน
Profile
Name : พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย
Age : 38 ปี (5 มกราคม 2511)
Education : โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รุ่น 42)
Career Highlights :
– รับราชการตำรวจในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาล หลายแห่ง
– ก่อตั้ง และดำรงตำแหน่งซีอีโอ บริษัท อาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่นจำกัด
– ซีอีโอ บริษัทเอ็นจีวีกรุ๊ป จำกัด
– ซีอีโอ บริษัทไทย ลองสเตย์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด
– ซีอีโอ บริษัททราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด
Status : สมรส (ภรรยา สุภาวดี ทับทิมธงไชย (นามสกุลเดิม : กมลศิลป์) บุตรชาย ด.ช.รวมพล อายุ 6 ปี และ ด.ช.รวมพัฒน์ อายุ 3 ปี
