แมลงสาบขายประกัน

เป็นเพราะขายผิดวิธี
เป็นเพราะการใช้คำว่า “ตาย” มาเป็นจุดขาย
เป็นเพราะคนไม่เข้าใจสาระของการประกันชีวิตที่แท้จริง
และเป็นเพราะทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของคนขายประกันชีวิตส่วนหนึ่งได้รับการรังเกียจจากผู้ซื้อ

ปัญหานี้หากได้รับการแก้ไขย่อมทำให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตกว่าเดิมมากนัก แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ง่ายจนเกินไป

ก่อนหน้านี้บริษัทประกันชีวิตชั้นนำอย่างน้อย 3 ราย คือ เอไอเอ ไทยประกันชีวิต และเมืองไทยประกันชีวิต ขยันออก TVC กันอย่างต่อเนื่อง โดยมีรูปแบบเฉพาะเป็นของตัวเอง แต่เนื้อสารที่เอ่ยถึงไม่มีรายใดพูดถึงประเด็นของภาพลักษณ์พนักงานขายประกันเลย เอไอเอ มุ่งถึงการวางแผนทางการเงินให้กับตัวเองและคนในครอบครัว ไทยประกันชีวิต แทบทุกเรื่องออกมาในแนวของ Emotional เศร้าเคล้าน้ำตา ล่าสุดกับ “ลูคีเมีย” จนแทบจะกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับบริษัทนี้ไปแล้ว ขณะที่เมืองไทยประกันชีวิต เน้นการเป็นบริษัทหัวคิดของคนทันสมัย TVC ส่วนหนึ่งจะออกมาในแนวขำขัน

กรุงเทพประกันชีวิต บริษัทอายุกว่า 55 ปีแห่งนี้ เป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ ได้ลุกขึ้นมาทำ TVC กระแทกใจดำทั้งคนขายและคนซื้อ โดยมอบหมายให้ Creative JuiceG1 เป็นผู้สร้างสรรค์

ทุ่มเทแค่ไหนก็ขายไม่ได้

เนื่องจากผู้บริโภคมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับพนักงานขายประกัน แม้ว่าพนักงานจะทุ่มเทและใส่ใจในการ ให้บริการขนาดไหนก็ตาม ทำให้เป็นโจทย์หนักที่ทางกรุงเทพประกันชีวิตต้องแก้ และนำจุดนี้มาสร้างความแตกต่างของ TVC

โดยเป็นความพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้มุมมองของผู้ซื้อหรือผู้เอาประกันเปลี่ยนแปลงไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการทำประกันชีวิต ทั้งในส่วนของผู้ขายเองที่จะได้รับการส่งเสริมภาพลักษณ์ และเข้าใจถึงกลวิธีการขายที่ถูกต้องและควรทำ ขณะที่ในส่วนของผู้ซื้อเองจะได้มีทัศนคติที่ดีต่อการทำประกันชีวิตซึ่งเป็นการออมรูปแบบหนึ่ง

เป็น Mood & Tone ที่ช็อกความรู้สึกคนขายประกันชีวิตอย่างแรง กับการเปรียบเทียบว่าในมุมมองของคนที่เขาเข้าไปขายนั้น มองว่าคนขายเป็นเสมือนแมลงสาบ ซึ่งทาง Creative JuiceG1 บอกว่า การผูกเรื่องเช่นนี้จะทำให้คนจดจำ Branding “กรุงเทพประกันชีวิต” ได้ในเวลาอันสั้น เนื่องจากที่ผ่านมากรุงเทพประกันชีวิตว่างเว้นจากการสื่อสารการตลาดด้วย TVC มานานมาก

ซีรี่ส์ 3 ตอน คลี่คลายปมปัญหา

TVC ชุดนี้แบ่งเป็น 3 ตอน โดยฝีมือการกำกับของธนญชัย ศรศรีวิชัย จากฟีโนมีนา ใช้เวลาการทำงานยาวนานร่วม 2 เดือนครึ่ง โดยจะค่อยๆ คลี่คลายจากความรู้สึกของผู้บริโภคต่อพนักงานขายประกันให้เปลี่ยนแปลงไปสู่ความรู้สึกดีๆ ในท้ายที่สุด โดยจากตอนแรกเปิดเรื่องด้วยการขายที่ไร้ซึ่งกระบวนยุทธ์ของพนักงานขาย จนโดนถีบออกมาเพราะลูกค้ารังเกียจ และมองเขาเหมือนเป็นแมลงสาบตัวหนึ่งเท่านั้น

กับภาพที่บอกให้ชายหนุ่มหน้าซื่อผู้ขายประกันหันหลังและถีบเปรี้ยงเข้าที่แผ่นหลังของเขา เป็นมุกตลกร้ายที่ทำเอาคนในแวดวง (ไม่เฉพาะพนักงานกรุงเทพประกันชีวิต) ขำไม่ออกเลยทีเดียว

ว่ากันว่าการทำภาพยนตร์โฆษณาให้ฮานั้นไม่ยาก แต่ถ้าให้ฮาแล้วเกิดความรู้สึกด้านบวกด้วยแล้วนั้นยากมาก กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน

จากนั้นหนุ่มคนขายประกันกลับมาใหม่ด้วยการช่วยอาตี๋น้อย 2 คน ซึ่งเป็นลูกหลานของอาเฮียเจ้าของร้านขายของชำ ยกของ อาเฮียกลับมาเห็นก็ซึ้งในน้ำใจ แต่พอหนุ่มคนนี้เอ่ยปากถึงเรื่องประกันชีวิต อาเฮียก็ออกอาการไม่พอใจ เห็นหนุ่มหน้ามนเป็นแมลงสาบเหมือนครั้งที่ผ่านมา ก่อนที่เรื่องราวจะปิดฉากลงแบบไม่บีบหัวใจคนขายประกันจนเกินไป

อย่างไรก็ตาม การสร้าง Talk of the town แบบ “ตบหัวแล้วลูบหลัง” ที่รุนแรงเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์เชิงลบอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งผู้สร้างสรรค์และเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้องทำใจยอมรับว่าในที่สุดแล้ว “ผล” ที่เกิดชึ้นเมื่อผู้บริโภคได้ดูครบทั้ง 3 ตอนแล้ว ทัศนคติจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด

Credit
Advertiser: Bangkok Life Assurance
Advertising Agency: Creative JuiceG1
Title: Salesman
Length: 30 sec / 45 sec / 45 sec
Creative Team:
ธีรศักดิ์ ธนพัฒนากุล Executive Creative Director
ปรางทิพย์ ประดิษฐ์พงศ์ Creative Director/ Copywriter
จอน เฉลิมวงศ์ Art Director
Agency Producer: จุฑารัตน์ ชิงดวง / อรุณศรี ศรีโรจนันท์
Director: ธนญชัย ศรศรีวิชัย
Production House: Phenomena Co., LTD

http://www.bla.co.th