หนุ่มคนนี้ วรพจน์ ถาวรวรรณ มีวิธีคิดและเรื่องราวของการทำงานที่น่าสนใจ เขาทำงานด้านการตลาดบริษัทด้านไอที และดูราวกับว่าโลกไอทีของเขา มีจุดง่ายๆ ซึ่งหยิบเอาไลฟ์สไตล์ชีวิตเข้าไปใส่ในโลกออนไลน์ได้อย่างลงตัว
ประสบการณ์ในวัยเรียนของวรพจน์น่าสนใจไม่น้อย เริ่มทำงานเร็วกว่าเด็กไทยทั่วไป อายุ 15 ก็เป็นเด็กหน้าร้านงานพิเศษช่วงปิดเทอมและวันหยุด เมื่อถึงวัยมหาวิทยาลัย เขาเป็นครูพาร์ทไทม์ของโรงเรียนสอนภาษา FutureKids หลังจบปริญญาตรีเปลี่ยนแนวเล็กน้อยไปหางาน PR ทั้งเขียนข่าวและประสานกับสื่อมวลชนสายธุรกิจอยู่ 2 ปี
วรพจน์เริ่มเข้าสู่เส้นทางผู้บริหารรุ่นใหม่ครั้งแรกที่บริษัทเซ็นทรัลเทรดดิ้ง แม้จะสมัครเข้าตำแหน่งเซลส์ แต่ก็ได้รับการโปรโมทเป็นผู้จัดการทันที ดูแลสินค้าเช่นคีย์บอร์ดดนตรีของคาสิโอและผลิตภัณฑ์หลักคือ PDA รุ่นแรกๆของโลกคือ Casiopia ผลงานที่น่าพอใจทำให้ทาง HP ทาบทามไปดูแล iPaq เมื่อปี 2546
ไลฟ์สไตล์เติมแต่ไรมาของหนุ่ม PR ที่จบเอแบคอย่างวรพจน์ก็คือชีวิตสังสรรค์และออกนอกบ้านและท่องเที่ยวสม่ำเสมอ เมื่อจุดเปลี่ยนทางอาชีพมาถึง เขาก็เริ่มใส่ไลฟ์สไตล์ให้การตลาดของคอมพิวเตอร์พกพา Ipaq ทันที
เริ่มด้วยจัดแคมเปญเล่นเกมแจกแพกเกจโรงแรมและของแถมเชิงไลฟ์สไตล์อื่นๆ ให้กับผู้ซื้อ เป็นแคมเปญที่สร้าง talk of the town ทางการตลาดในปี 46
นอกจากนี้ยังเปิด iPaq Club เว็บบอร์ดให้ลูกค้าและผู้สนใจเข้ามาถามและ “มาด่า” ได้เต็มที่หากมีปัญหาสินค้าแล้วทางเจ้าหน้าที่จะโทรกลับไปทันทีเพื่อช่วยหาทางแก้ นับเป็นยุคแรกๆ CRM ทางเว็บในไทยเลย เสริมด้วยการจัดมิดติ้งปาร์ตี้สนุกสนานเลี้ยงลูกค้าปีละ 4 ครั้งให้ลูกค้าได้สังสรรค์กันและคุยกับผู้จัดการทั้งด้านเทคนิค บริการและการตลาดโดยตรง
“เทรนด์การตลาดไลฟ์สไตล์มันมาทั้งโลก ผมก็แค่เหมาะกับเทรนด์แบบนี้เท่านั้น”
ส่วนการตลาดลูกค้าองค์กร วรพจน์คือผู้ต้นคิดและบุกเบิกขาย iPaq ให้กับ MK สุกี้ เป็นต้นแบบที่นำให้หลายๆร้านหาหารและภัตตาคารซื้อ PDA จำนวนมากไปให้พนักงานเสิร์ฟใช้รับออเดอร์และส่งเข้าครัวพร้อมเก็บบันทึกข้อมูล เขาเผยว่า โซลูชั่น PDA บนร้านอาหารในไทยทุกวันนี้มี HP ครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดอยู่ถึง 80%
จากความสำเร็จที่เพิ่มยอดขายต่อปีของ iPaq จากปีละ 30 ล้านขึ้นมาเป็นปีละ 60 ล้านบาทในเวลาแค่ 2 ปี ทาง HP จึงขยับเขามาดูแลตลาดหลักที่ใหญ่ขึ้น คือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือ desktop PC ที่มียอดขายในไทยเดือนละราว 100 ล้านบาท
“เพราะฝรั่งไม่มีทางเข้าใจทุกอย่างว่า ส้มตำเจ้านี้เจ้านั้นมันอร่อยต่างกันยังไง หรือทำไมนักศึกษาไทยชอบใส่เสื้อฟิต…” วรพจน์ชี้ว่าความรู้การตลาดนั้นไทยอาจจะเรียนจากตำราฝรั่ง แต่การทำตลาดในไทยนั้นต้องใช้คนไทย เพราะฝรั่งไม่อาจจะเข้าใจสภาพสังคม สภาพตลาด ภูมิประเทศได้ดีเท่าคนไทย ตัวอย่างเช่นทาง HP ที่สหรัฐฯเคยแนะให้เขาใช้กลยุทธ์ลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขายสู้กับคู่แข่ง
วรพจน์ไม่เห็นด้วยกับการลดราคาและมีคำตอบที่ต่างออกไป เขาบุกไปวางช่องทางการจำหน่ายตามห้างเทสโกโลตัสและโมเดินเทรดต่างๆทั่วประเทศ และเพิ่มตัวแทนขายส่งรายใหญ่จากเดิม 3 เป็น 4 ราย เพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ HP จาก 13% เป็น 26% ได้ในเวลาเกือบ 2 ปีที่รับตำแหน่งนี้มา
“ถ้าราคาได้ แต่สินค้าไม่มีวาง มันก็เท่านั้น” ทั้งนี้เพราะในมุมมองของวรพจน์ ตลาดที่สหรัฐฯนั้น ช่องทางขายคอมพิวเตอร์ค่อนข้างอิ่มตัวแล้วจึงต้องใช้กลยุทธราคา แต่ตลาดในไทยยังมีที่ว่างอีกมากให้เข้าไปบุก
ล่าสุดที่ HP ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ PC ตั้งโต๊ะสีดำ มีปุ่มเปิดปิดไฟล์เพลงและวิดีโอเฉพาะ มีปุ่มโวลุ่มเสียงแยกต่างหากเพื่อการดูหนังฟังเพลง มีช่องเสียบกระดาษโน๊ต รูปแฟน หรือแม้แต่ช่องปักดอกไม้ข้างจอ เสริมกลิ่นไลฟ์สไตล์อย่างเต็มที่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ เป็นโจทย์ที่ท้าทายใหม่ของ วรพจน์ที่จะปั้นให้ขายดีในไทยให้ได้
นอกจากกลยุทธ์ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายที่เคยใช้แล้ว วรพจน์เพิ่มกลยุทธ์ใหม่ให้ความรู้และปรับทัศนคติของผู้บริโภค
เขาร่วมกับรายการ IE Metropolis ของจอห์น นูโว และอีกหลายรายการ กับทำ advertorial บทความเชิงโฆษณาลงในนิตยสารอีกหลายฉบับ โปรโมทว่า PC นั้นใช้เป็นอุปกรณ์ดูหนังฟังเพลงที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์อื่นๆและที่สำคัญไม่ต้องไปซื้อโน๊ตบุ๊คหากว่าไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนมากนัก และยังนั่งใช้ได้อย่างสบายตัวกว่าน๊ตบุ๊คและเหน็บกรอบรูป กระดาษ ดอกไม้ ใช้เป็นอุปกรณ์ตกแต่งโต๊ะไปในตัว
วรพจน์ยังคิดแผน win-win ไปเสนอแกรมมี่โดยซื้อเพลง 300 เพลงมาแถมไปกับคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่นให้ฟังฟรีได้ตลอดไป และยังแถมสิทธิการดาวน์โหลดเพลงเพิ่มผ่านระบบ iKey ของแกรมมี่ฟรี 1 เดือน ทำให้ HP ได้เหล่านักร้องศิลปินและเพลงมาช่วยเป็น presenter สร้างแบรนด์ในต้นทุนแสนถูก ส่วนแกรมมี่ก็ได้ขยายฐานผู้ใช้ iKey ไปพร้อมกัน
แหล่งความรู้ทุกวันนี้ของวรพจน์นั้นไม่ใช่ตำราการตลาดที่ไหน แต่เป็นข่าวประจำวันทั่วไปและเมล์ส่งต่อ fwd mail ต่างๆ เพื่อให้ไม่ตกกระแสสังคมว่าผู้คนสนใจและมีไลฟ์สไตล์อะไรกันอยู่ ขณะเดียวกันก็ตามเทรนด์ระดับโลกผ่าน CNN และเคเบิ้ลทีวีเมืองนอกอีกหลายช่อง
ทุกวันนี้วรพจน์ยังคงใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองอย่างเต็มที่ ทั้งเล่นกีฬา เล่นกอล์ฟ คาราโอเกะ จนถึงเข้าห้องอัดทำดนตรีกับเพื่อนๆ ไปจนถึงคนรู้จักกันที่ค่ายสนามหลวงของแกรมมี่ซึ่งผลงาน “สนามหลวง Connect” รวมศิลปินที่มีเขาร่วมร้องอยู่ด้วยจะออกมาในเดือนเมษายน 2550 นี้
สำหรับนักการตลาดหนุ่มคนนี้ การพักผ่อนแล้วยังหมายถึงการเก็บข้อมูล ทุกร้านหาหารที่นั่ง ทุกเมนูที่สั่ง ทุกสิ่งที่ผ่านตาจะถูกมันสมองการตลาดของเขาหยิบมาวิพากษ์วิจารณ์ในใจอยู่เสมอว่าราคาตั้งเหมาะสมแล้วหรือไม่ ยังขาดเกินอะไรหรือเปล่า ทั้งหมดนี้วรพจน์ย้ำว่าเป็นความสนุกที่ไม่ใช่ความเครียดแต่อย่างใด
Profile
Name วรพจน์ ถาวรวรรณ
Age 29 ปี
Education
ปริญญาโท การจัดการองค์กร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)
ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (BBA. in International Business Management)
Carrer Highlights
(ปัจจุบัน) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์โฮมพีซี บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย)
อาจารย์พิเศษด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยอัสัมชัญ
ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์แฮนด์เฮลด์ บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด (ประเทศไทย)
ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กลุ่ม IT & Musical Instrumental บริษัท เซ็นทรัล เทรดดิ้ง
ประชาสัมพันธ์อาวุโส บริษัท โททอล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย)
