“เบนมอร์” บุกเหนือ

หลังจากประสบความสำเร็จกับคอนเสิร์ต Bemorehitz 2 ครั้งที่กรุงเทพฯ ถึงคราว “เบนมอร์” รุกตลาดหัวเมืองใหญ่ ประเดิมที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเบนมอร์ในภาคเหนือ มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20-30%

ดูเผินๆ อาจมองว่า Music Marketing เป็นเรื่องง่าย เป็นเพียง General Tool ที่ใช้กันเกร่อเสียจนไม่รู้ใครเป็นใคร แต่ในความง่ายนั้นยากด้วยรายละเอียด สุวัฒน์ วุฒิไชยภร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโส บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ที่จริงแล้ว Music Event นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Experiential Marketing ที่มุ่งสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภค สร้าง Connection Moment ที่ถูกต้องและสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย

เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเบนมอร์คือกลุ่ม Mass ซึ่งในความเป็นแมสนั้น จำเป็นต้องตอบสนองด้วยความหลากหลายเพื่อให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด “แนวเพลง” จึงยังไม่ใช่คำตอบ ดูจากคอนเสิร์ตเปิดตัวครั้งแรกจะออกมาในธีมของรักสดใสสไตล์ Love is ทำให้เบนมอร์ พบว่า แนวเพลงไม่สำคัญเท่ากับ “ความฮิต”

บทเรียนครั้งนั้นได้ถูกนำมาปรับปรุงเพื่อสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านคอนเซ็ปต์และธีมของคอนเสิร์ต รวมถึงรายละเอียดเพลงฮิต ศิลปิน ภายใต้ธีม Bemorehitz Concert จะประกอบไปด้วยศิลปินยอดนิยมจากหลากหลายแนวดนตรี

“เพลงต้องฮิตและหลากหลายแนว เสริมด้วยกิมมิก Match-up ศิลปิน ร้องด้วยกันในบางเพลง เช่น เจกับโจอี้บอย ฟลัวกับสล็อตแมชชีน เป็นต้น กิจกรรมนี้ถือเป็นBrand Building Activity ไม่ผูกกับโปรโมชั่น ขณะเดียวกันก็สะท้อน Brand Image ของเบนมอร์ที่เหนือกว่าได้ด้วยรายละเอียดอีกด้วย” สุวัฒน์ บอก

เขาเชื่อว่า นี่คือการสร้าง Marketing Concept เปรียบเสมือน Umbrella ใหญ่ให้ Activation ทุกอย่างของเบนมอร์ เดินตามกรอบนี้ เพียงแต่แตกต่างกันในรายละเอียดเท่านั้น โดย Bemorehitz จะแตกออกไปเป็นกีฬา ภาพยนตร์ และเทคโนโลยีก็ได้ อันเป็นไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว

บรรยากาศของความครึกครื้นของคนร่วม 4,ooo คน ณ บริเวณลานม่วนใจ๋ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า เชียงใหม่ เสียงกรี๊ด เสียงร้อง และท่วงท่าโยกย้ายของหนุ่มสาว (หลากวัย) สนุกสนานกับฟรีคอนเสิร์ต (ที่เบนมอร์แลกมากับฐานข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย) จากศิลปินที่เบนมอร์คัดสรรมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายซึ่งชื่นชอบแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าสามารถสนุกด้วยกันได้ ทั้งมาช่า เจ โจอี้ บอย บูดาเปสต์ เสนาหอย ฯลฯ

ปาร์ตี้และฟรีบาร์จบลงในเวลาเที่ยงคืนเศษของคืนวันที่ 9 มีนาคม ก่อนจะไปฮิตกันต่อที่โคราชในช่วงสงกรานต์นี้

มูลค่าตลาดวิสกี้ระดับสแตนดาร์ด 1,250 ล้านบาท
100 PIPERS 90%
Benmore 10%

www.bemorehitz.com