กล่องสีดำ… กระจกใส… รถมินิ… มุมกาแฟ… อาหารอิตาเลียน… สุขุมวิท… นี่คือองค์ประกอบของมินิ สแควร์ (Mini Square) โชว์รูมรถมินิที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่ใส่ดีไซน์ของวิถีชีวิตของผู้ขับขี่รถ ผสมผสานกับคอนเซ็ปต์การตกแต่ง ในมิติที่ว่า “ดีไซน์สร้างแบรนด์” อย่างน่าตื่นเต้น
กล่องดำ สัมพันธ์ สไตล์
รูปทรงกล่องขนาดใหญ่สีดำ เอกมัยซอย 7 ใครที่ผ่านมา ผ่านไปย่อมต้องสะดุดสถาปัตยกรรมโชว์รูมรถมินิ ที่แปลกตา เหมือนกล่องขนาดใหญ่ที่บรรจุรถมินิอยู่ภายในกล่องดำ
ที่นี่คือ มินิ สแควร์ โชว์รูมรถขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่มินิเคยสร้างโชว์รูมมา ขนาด 6 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 6,700 ตารางเมตร มีมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ด้วยความตั้งใจอยากให้พื้นที่ดังกล่าวเป็น “ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์” หรือจุดศูนย์กลางในการพบปะสังสรรค์ของสาวกมินิ ซึ่งหมายถึงการสร้าง Community หรือชุมชนมินิ
มินิ สแควร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Bauhaus เป็นสถาปัตยกรรมที่ขึ้นชื่อมากในเยอรมัน เน้นการออกแบบรูปทรงเรขาคณิต สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยในยุคสมัยใหม่
“มินิ สแควร์ จึงเป็นเหมือนกล่องรวมวิถีชีวิตของสาวกมินิอยู่รวมกันอย่างครบวงจร” สมปราชญ์ โบสุวรรณ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ มินิ จำกัด บอก
โชว์รูมแห่งนี้ ไม่ใช่แค่สถานที่บริการซ่อมรถ ซื้อรถ อย่างเดียว หากแต่นี่คือจุดศุนย์กลางของไลฟ์สไตล์ของสาวกรถมินิ ซึ่งถูกคิดขึ้นมาตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามินิ และพื้นฐานความต้องการด้านการบริการ
MINI
Uploaded by positioningmag
ไลฟ์สไตล์สร้างแบรนด์
ทำเลสุขุมวิท หรือเอกมัย ถือเป็นฐานทำเลสำคัญที่ผู้บริหารรถมินิพบว่า เป็นจุดที่อยู่อาศัยของลูกค้ารถมินิ ในเมืองไทย และลูกค้ามินิหลายคนมีวิถีชีวิต กิน ดื่ม เที่ยว บริเวณนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ก่อให้เกิด มินิ สแควร์ ที่นี่
เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 6 มินิ สแควร์ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของมินิ ที่มีสไตล์การใช้ชีวิตที่สนุก ชอบทำกิจกรรม และเน้นความหรูหราแบบเรียบง่าย แต่มีความไฮเทคผสมผสานอยู่ในตัว
โชว์รูมแห่งนี้ออกแบบโดยเน้นโทนสีดำ มีกระจกใสเป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่แต่งเติมตัดขอบด้วยแสงไฟสีส้ม เมื่อมองเข้ามาจากภายนอก จะเห็นความสวยงามของรถสีดำตัดกับสีของรถมินิ และแสงไฟยามค่ำคืน อย่างเช่น แดง เหลือง ทำให้ดูโดดเด่น
เมื่อเข้ามาภายใน ตั้งแต่บริเวณชั้นล่าง นอกจากเคาน์เตอร์บริการ 4 จุด ภายในจะตกแต่งด้วยมุมที่ดูอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน หรือจุดพักผ่อน
มินิ ค้นพบว่า ลูกค้ารถมินิมักจะเป็นคนที่รักรถ สาวกมินิมักจะมักจะอยู่รอรถได้เป็นวันๆ หากเครื่องยนต์ชำรุด ดังนั้นพื้นที่ในโชว์รูมหลายจุดจึงเน้นให้เป็นมุมพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือจุดที่สามารถนัดเพื่อนพบปะสังสรรค์กัน
มินิ สแควร์ ถูกออกแบบอย่างมีสไตล์ ให้ความสำคัญตั้งแต่ที่จอดรถ มีที่จอดรถในร่มมากถึง 50 คัน ทำให้สะดวกสบาย โดยมีลิฟต์คอยยกขึ้น-ลง
ที่สำคัญ ชั้น 6 ถูกดีไซน์ให้เป็นร้านอาหารอิตาเลียนบรรยากาศคลาสสิก ซึ่งผู้บริหารมินิบอกว่า ที่เป็นอาหารอิตาเลียน นอกจากสะท้อนถึงความหรูหรามีสไตล์แล้ว การกินดื่มของผู้ใช้มินิส่วนใหญ่มักเข้าร้านอาหารอิตาเลียน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการกินแถวสุขุมวิท
การออกแบบมินิ สแควร์ จึงถูกคิดค้นด้วยพื้นฐานไลฟ์สไตล์ของสาวกมินิเป็นแกนสำคัญ
มินิ คือวิถีชีวิต
คำพูดหนึ่งของ มร.เดวิด แบร์รี่ แพนตัน รองประธานอาวุโสภูมิภาคเอเชีย บีเอ็มดับเบิ้ลยู เอจี กล่าวไว้ว่า เรากำลังทำให้มินิเป็นแบรนด์ที่เป็นวิถีชีวิต โมเดิร์น และทันสมัย ซึ่งหนึ่งในการขับเคลื่อน คือการสร้าง ศูนย์ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ไปยังประเทศต่างๆ
ปัจจุบันมีผู้ใช้มินิทั่วโลก ประมาณ 950,000 คัน โดยประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2002 ที่เปิดตัว มีผู้ใช้รถคันนี้กว่า 1,200 คัน ในขณะที่ประเทศในแถบเอเชียกำลังได้รับความนิยม ทั้งในญี่ปุ่นที่มียอดขาย 13,000 คันเมื่อปีที่แล้ว และที่โซล เกาหลีใต้ ขายได้ 800 คัน รวมทั้งที่ฮ่องกง ก็พุงขึ้นถึง 557 คัน
“ถึงวันนี้เมืองไทยมีโชว์รูมมินิที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่นับจากนี้อีก 7 เดือนจะมีการสร้างโชว์รูมที่อเมริกา ซึ่งจะใหญ่กว่าเมืองไทย”
แม้เมืองไทยจะมีกลุ่มผู้ใช้เพียง 1,200 คัน แต่ก็มีพลังในตลาดที่แข็งแรง มีการจัดชมรมมินิกว่า 200 คัน ทำกิจกรรมร่วมกัน พร้อมกับการจัดอีเวนต์ที่แปลกและน่าตื่นเต้น เช่น การค้นหารหัสลับ ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทย มานี มานะ เป็นเป็นรหัสในการเข้าร่วมงานปาร์ตี้
ทำให้แบรนด์มินิ ถือเป็นสิ่งคนไทยจดจำ สื่อสารถึงความสนุก หรูหรา และน่าตื่นเต้น…
ข้อสรุปเป้าหมายการสร้าง มินิ สแควร์
1. สร้างแบรนด์ให้มีไลฟ์สไตล์ โดยใช้ มินิสแควร์เป็นจุดเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมินิและลูกค้า
2. เป้าหมายสร้าง Community หรือชุมชนมินิ ทั้งกลุ่มที่เป็นลูกค้าเดิม และกลุ่มคนที่กำลังเป็นลูกค้าในอนาคต
3. ทำให้แบรนด์ดูน่าตื่นเต้น ผ่านกิจกรรม ซึ่งจะจัดขึ้นทุกเดือนที่มินิ สแควร์
4. เกิดกระแสปากต่อปาก และ Viral Marketing ให้เกิดความจดจำและซึมชับต่อแบรนด์
5. ทำให้แบรนด์เกิดความน่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าซื้อแล้วมีจุดบริการที่ดีและทันสมัย
สถาปัตยกรรมแบบ Bauhaus
ผู้ออกแบบโชว์รูมมินิ คือ มร.นิโคลัส ซึ่งทำงานกับทีมออกแบบบีเอ็ม กรุ๊ปในเยอรมัน โดยเขาใช้หลักสถาปัตยกรรมแบบ Bauhaus โดยเน้นการใช้ผิวปูนฉาบเรียบ เน้นความสัมพันธ์ทางรูปทรงทางเรขาคณิต โดยมีวัสดุอื่นเป็นส่วนรอง เน้นลวดลายของผืนผิวรอบนอกอาคาร ไม่เน้นเครื่องตกแต่งอื่น นอกจากการจัดช่องว่างหน้าต่างและช่องปิดของกำแพงส่วนยื่นและส่วนเว้าต่างๆ ให้เป็นโครงร่างดั่งงานทัศนศิลป์สมัยใหม่ เช่น Mondrian คุณค่าสถาปัตยกรรมแบบนี้ไม่เพียงแค่ให้ความใส่ใจรูปทรงอาคารเท่านั้น ยังรวมไปถึงความต้องการทางสังคม คุณค่าการมีชีวิตอยู่ร่วมกันด้วย ไม่พึ่งพาเพียงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุกับธรรมชาติเท่านั้น หากยังเสริมสร้างโดยเพิ่มเอกภาพแบบใหม่ระหว่างศิลปะและเรื่องของวิทยาการใหม่ๆ ด้วย
มินิ สแควร์…ที่นี่มีอะไร
ชั้น 1 โชว์รูมรถ, มุมกาแฟ
เป็นส่วนต้อนรับลูกค้า มีเคาน์เตอร์บริการรับรถ 4 เคาน์เตอร์ มีพื้นที่จัดโชว์รถมินิรุ่นใหม่ๆได้มากถึง 6 คัน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกออปชั่นที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีมุมสินค้าไลฟ์สไตล์สุดฮิพ เช่น เสื้อ รถบังคับ ชุดครัว และ มีมุมกาแฟ ทรู คอฟฟี่ มินิ คาเฟ่ ไว้คอยบริการ แบบนั่งชิวๆ จิบกาแฟ กินเค้ก
ชั้น 2 MINI Next
พื้นที่ชั้นสอง ได้ถูกจัดแบ่งให้เป็นโชว์รูมรถมินิมือสองในรุ่นต่างๆ โดยจัดวางโชว์ไว้ได้มากถึง 16 คัน มีมุม Living Room ไว้สำหรับการพักผ่อนส่วนตัว มีแมกกาซีนอินเทรนด์ต่างๆ ไว้คอยบริการ
ชั้น 3 และชั้น 4 ศูนย์บริการซ่อมและคลังอะไหล่
เป็นจุดบริการซ่อมและตรวจสอบสภาพรถด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด สามารถให้บริการได้วันละ 25 คัน โดยลูกค้ามินิที่เข้าใช้บริการ จะนำรถเข้ามาจอดบริเวณชั้นแรก ซึ่งจะมีลิฟต์ยกขึ้นมาที่ศูนย์ นอกจากนี้จะมีพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร ทำเป็นคลังอะไหล่สำหรับรถมินิรุ่นต่างๆ ได้กว่า 1,200 รายการ
ชั้น 5 ที่จอดรถ
ชั้นนี้เป็นพื้นที่จอดรถในร่มสำหรับลูกค้ามินิ สามารถรองรับรถได้มากกว่า 50 คัน
ชั้น 6 ร้านอาหารอิตาเลียน
ชั้นนี้ถูกจัดวางให้เป็น Fuzio Stylish Italian Cusine & Bar ห้องอาหารอิตาเลียนสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก อาหารแนว Fuzio โดยเชฟมือหนึ่งจากอิตาลี โดยลูกค้ามินิสามารถเดินทางมาพบปะสังสรรค์หรือจัดปาร์ตี้ และชมทิวทัศน์กลางเมืองบริเวณชั้นนี้ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ