ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล พิธีกรสุดฮอต

“พิธีกรหน้าใหม่” ที่ฮอตที่สุดในเวลานี้ คงไม่มีใครเกิน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ หม่อมปลื้ม ด้วยภาพพิธีกรหนุ่มฝีปากกล้า แบบไม่กลัวใคร แถมพ่วงด้วยดีกรีศึกษาดี และชาติตระกูลสูง ชื่นชมทุนนิยมเสรี แต่ใช้ชีวิตแบบติดดิน แม้บุคลิกเหล่านี้จะสร้างให้เขาโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่เขาก็อยู่ระหว่างการเรียนรู้กับบริบทของสังคมไทย

ทุกวันนี้ “หม่อมปลื้ม” เริ่มกิจวัตรประจำวันที่ตี 2 ตื่นมาทำธุระและเปิดเว็บเช็กข่าวถึงตี 3 ออกจากบ้านไปถึงช่องสามเตรียมตัวและขับเคี่ยวกับสรยุทธใน “เรื่องเล่าเช้านี้” ตามด้วยการวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจทางช่อง 5, แล้ว Phone-in ข่าวภาษาอังกฤษทางเครือข่ายสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย, บ่ายก็โยกไปออก “วิพากษ์หุ้น” ทางช่องเก้า, ก่อนจะจบภารกิจหนักหน่วงทั้งวันด้วยรายการที่สร้างชื่อให้กับเขาเป็นที่แรกๆ คือข่าวทีวี “Newsline” ภาคภาษาอังกฤษทางช่องสิบเอ็ด

เป็นภารกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนมานี้ อันเป็นผลมาจากบุคลิกของการพิธีกรฝีปากกล้า ที่สร้างให้เขาโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

พื้นฐานคนข่าวภาษาอังกฤษ…

ณัฏฐกรณ์ เรียนและใช้ชีวิตที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ Grade 7 หรือเทียบเป็นมัธยม 1 ของไทย จากนั้นไปต่อปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ของ University of Wisconsin-Madison และต่อโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ John Hopkins University

“ผมชอบดูรายการทีวีในอเมริกาตั้งแต่เด็ก ดูทุกอย่าง ข่าวก็ชอบ ที่นั่นทีวีมีอิทธิพลสูงมากกับคนทั้งประเทศ ตั้งแต่ยุคนั้นถึงยุคนี้ อเมริกาเป็นสังคมซึ่งเชิดชูคนที่ออกทีวี ตั้งแต่ดาราจนถึงนักข่าวมีอิทธิพลสูงมาก” ณัฏฐกรณ์เล่าย้อนถึงแรงผลักดันมาสู่เส้นทางคนข่าวทีวี นอกจากนี้หนังสือแนวประวัติศาสตร์ก็เป็นแนวโปรดตั้งแต่วัยเด็ก

“ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเรื่องสงคราม ตั้งแต่เด็กถึงทุกวันนี้ สำหรับผมเรื่องราวมันสนุกยิ่งกว่าดูหนังอีก” และหลังจบปริญญาตรีในปี 2540 ความสนใจของเขาได้สานต่อไปสู่การเข้าเป็นทหารรับใช้ชาติ 2 ปีเต็ม และด้วยความรู้ทักษะด้านภาษา งานส่วนใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจึงทำหน้าที่เป็น ล่าม และเขียนคำแถลงต่างๆ เป็นภาษาต่างประเทศ ณ กรมข่าวทหารบก

หลังจบ 2 ปีแห่งการรับใช้ชาติ ณัฏฐกรณ์ออกมาทำงานเป็นนักข่าวเบื้องหลัง Newsline ทางช่อง 11 อยู่ 2 ปี ก่อนจะบินไปต่อโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ John Hopkins เพียงไม่กี่วันก่อนเหตุการณ์ 9/11 ที่ตึกเวิลด์เทรดถล่ม

“มหาวิทยาลัยที่ผมไปต่อโทมันอยู่ในศูนย์กลางแห่งอำนาจคือกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีนักการเมืองดังๆ มาบรรยายไม่ขาด ช่วงนั้นหลัง 9/11 ยิ่งคึกคัก มีสัมมนาเรื่องนี้แทบทุกวัน วิพากษ์นโยบายรัฐกันดุมาก ผมก็ได้เจอได้คุยได้เปิดโลกทัศน์มาก” ณัฏฐกรณ์เล่าถึงความตื่นเต้นทางวิชาการที่ได้รับ

“ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ ข่าวเศรษฐกิจผมก็สนใจมานาน เรื่องหุ้นก็สนใจ ก็รู้ แต่ผมไม่เล่นนะ สำหรับผมมันค่อนข้างน่าเบื่อ ไร้สาระ เป็นการพนันซะมาก”

จุดยืนคนข่าว…

“วันที่ 19 กันยาผมได้ข่าวมาแล้วว่าจะมีปฏิวัติ ไปอัดเทป Newsline สองทุ่มก่อนจบเทปผมก็ยังพูดถึงให้คนดูฟัง พอผมกลับมานั่งดูช่อง 11 ที่บ้าน เชื่อมั้ยพอผมพูดจบ สัญญาณตัดเข้าทีวีพูลช่อง 5 เหมือนกันทุกช่องเลย” ณัฏฐกรณ์เล่าย้อนอย่างตื่นเต้นถึงการถ่ายทอดกระแสข่าวลือร้อนประจำวันนั้นให้กับผู้ฟังอย่างตรงไปตรงมา แต่หากถามถึงความเห็นส่วนตัวแล้ว คำตอบคือ…

“ทุกวันนี้ผมไม่มีความเห็นความรู้สึกกับข่าวต่างๆ ผมติดตามด้วยความสนใจ อยากรู้ สนุกกับการติดตามวิเคราะห์ว่าฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เป็นอย่างไร และแนวโน้มเป็นอย่างไร แต่ถ้าถามว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผมไม่มีความรู้สึกตรงนั้นแล้ว ผมรู้แต่ว่าเราเป็นแค่คนๆ หนึ่งในโลกในสังคมที่มันเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น เราจะเห็นอย่างไรมันก็เปลี่ยนโลกไม่ได้ หน้าที่คนข่าวเราที่ถูกต้องคือต้องติดตาม ทำความเข้าใจมันอย่างถูกต้อง แล้วถ่ายทอดให้คนดู”

ในวัยเด็ก ณัฏฐกรณ์เคยสนใจอยากเป็นนักการเมืองควบคู่ไปกับอยากเป็นนักข่าว แต่ต่อมาก็ตัดความฝันนี้ทิ้งไปจากการที่ได้ยินเสียงจากคนรู้จักหลายคน “มีแต่คนบอกว่าไม่น่าไปเป็นเลย” ด้วยเหตุผลที่ทำอะไรไม่ได้มากนักในวงการเมือง และ “ไม่สนุก”

“ผมกลัวว่าหากไปทำงานการเมืองแล้วจะเปลี่ยนใจกลับมาทำสื่อก็จะเกิดภาพติดตัวมา ดูเสียความเป็นกลางไป ทำงานข่าวต่อก็ไม่เหมาะแล้ว”

จาก “คนเกือบดัง” สู่คนดัง…

“ผมรำคาญคนเยอะๆ ไม่ชอบออกไปที่คนเยอะๆ ก่อนจะมาจัดเรื่องเล่าเช้านี้ เวลาไปไหนมีคนชอบมามองหน้าผมแล้วก็ ‘คุ้นๆ นะ’ สะกิดเรียกเพื่อนหันมาดูว่าคนนี้ใครหน้าคุ้นๆ นึกไม่ออก คือถ้าผมเป็นคนดังไปเลยยังไม่น่ารำคาญอย่างนี้ ยิ้มทักทายแล้วก็จบ แต่นี่แค่เกือบดัง” ณัฏฐกรณ์เล่าอย่างสนุกสนานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำก่อนจะได้จัด “เรื่องเล่าเช้านี้”

ซึ่งทุกวันนี้หลังจากมาคู่สรยุทธทุกเช้าวันทำงานแล้ว เขาก็ได้กลายเป็นคนดังเต็มตัว ถูกเชิญต้องเดินสายออกทอล์กโชว์ต่างๆ มาแล้วเกือบครบทุกรายการ

เวลาว่างยามค่ำคืนที่มีอยู่น้อยนิดบางวัน ณัฐกรณ์ใช้กับการพักผ่อนและอ่านหนังสือ “ผมเที่ยวมาหมดแล้ว ตั้งแต่เรียนไฮสคูลถึงจบมหาลัย ทุกครั้งที่กลับมาอยู่ไทยก็จะต้องนั่งรถเมล์ไปให้หมด ผมไม่ตอบหรอกว่าไปไหนบ้าง เอาเป็นว่า ผมไปมาหมดแล้ว เบื่อแล้ว”

เมื่อต้องพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ เขาจึงเลือกไปตามร้านสเต๊ก “ผมชอบทานสเต๊กมาก ร้านประจำก็ที่ Madison ในโรงแรมโฟร์ซีซั่น กับร้านใหม่จำชื่อไม่ได้ที่โรงแรม Hilton ที่เปิดใหม่”

“ลูกหม่อมอุ๋ย”…

“ก่อนนี้ถ้ามีใครขอสัมภาษณ์ผมแค่เพราะผมเป็นลูกพ่อ ผมจะไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะถือว่าเขาสนใจพ่อผม ก็ให้ไปคุยกันเอง” ณัฏฐกรณ์บอกอย่างอารมณ์ดีถึงชีวิตของลูกคนดังคนหนึ่ง

“ตั้งแต่เด็กมาพ่อชี้นำผมน้อยมาก ให้อิสระ แค่สอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ไม่ค่อยบังคับอะไร” ณัฏฐกรณ์เอ่ยถึงบิดาที่เป็นอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติและอดีตรัฐมนตรีคลังและรองนายกฯ เศรษฐกิจ คือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล “ทุกวันนี้ผมเจออาทิตย์ละหนเท่านั้น คุยกันทั่วๆ ไป เรื่องข่าวสารเศรษฐกิจก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องส่วนตัวครอบครัวเราเอง”

แม้ว่าภาพที่ปรากฏสู่สายตาคนภายนอกของเขา คือ การเป็นพิธีกรฝีปากกล้า กล้ากล้าวิจารณ์ แบบไม่กลัวใคร เป็นสไตล์ของทุนนิยมเสรี บวกกับพื้นฐานของการคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ผ่านระบอบการศึกษามาอย่างดี มีชาติตระกูล แต่ก็ทำตัวให้ติดดิน ขับรถญี่ปุ่นราคาไม่กี่แสน แทนที่จะเป็นรถยนต์หรูจากยุโรปราคาแพง แต่ยังคงดื่มและกินอย่างหรูหรา เป็นภาพที่ดูขัดแย้งพอสมควร แม้จะทำให้เขาดูโดดเด่น เป็นพิธีกรดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ก็ตาม แต่เขายอมรับกับสื่อมวลชนแล้วว่า เขาต้องลบภาพความก้าวร้าว ความโอหัง และมีวินัยทางสังคมมากขึ้น เพราะบางครั้งความผยองและอหังการ ก็ไม่ได้หมายถึงแบบอย่างที่ดีนัก

Profile

Name : หม่อมหลวง ณัฏฐกรณ์ เทวกุล
Age : 30 ปี
Education : มัธยม “โรงเรียนเล็กๆ ที่สหรัฐอเมริกา”
ปริญญาตรี รัฐศาสตร์ University of Wisconsin
ปริญญาโท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ John Hopkins University
Career Highlights :
– พ.ศ. 2540-2542 ล่ามและผู้ร่างคำแถลง กรมข่าวทหารบก
– พ.ศ. 2542-2544 ผู้สื่อข่าว Newsline ช่อง 11
– พ.ศ. 2546-ปัจจุบัน ผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ Newsline
– พ.ศ. 2547 – 2549 ผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ Thailand Outlook Channel (ASTV) รายการ Insight, รายการ Investment Beat
– ผู้ประกาศข่าวรายการ เที่ยงเศรษฐกิจ ช่อง 5
– ผู้ประกาศข่าวภาษาอังกฤษ วิทยุ F.M.105
– พิธีกรรายการ วิพากษ์หุ้น ช่อง 9
– พิธีกรรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ช่อง 3