วิชา พูลวรลักษณ์ King of Entertainment & Lifestyle

ในทำเนียบผู้นำในธุรกิจโรงหนังเมืองไทย “วิชา พูลวรลักษณ์” ยังคงจัดเป็น 1 ในนักบริหารที่ทรงอิทธิพลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์สร้างอาณาจักรโรงหนังเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ให้ผงาดจนถึงวันนี้ ล้วนเป็นบทพิสูจน์อันทรงคุณค่าในตัวเขาต่อวงการบันเทิงเป็นอย่างดี

วิชา เป็นเจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับสูง ที่เชี่ยวชาญทั้งงานบริหารจัดการควบคู่กับงานกลยุทธ์ตลาด ซึ่งน้อยคนนักในระดับผู้บริหารเดียวกับเขาจะมี จุดนี้เองทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ธรรมดาๆ ที่ใช้เวลาไม่นานเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ มาสู่ “ไลฟ์สไตล์ เอนเตอร์เทนเมนต์” อย่างสมบูรณ์ นั่นมาจาก “วิชั่น” ที่เขาเรียนรู้และพยายามสร้างสรรค์ไอเดียใหม่มาใส่ในธุรกิจ เพื่อก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Innovative Business Model” อันเป็นแกนคิดที่เขายึดถือมาตลอด

การขับเคลื่อนธุรกิจพันล้านของเมเจอร์แต่ละก้าวมักสั่นสะเทือนต่อวงการแทบทุกครั้ง ตั้งแต่ควบรวมกิจการโรงหนัง อีจีวี ซึ่งในขณะนี้จัดเป็นคู่แข่งเบอร์สองมาเป็นส่วนหนึ่งของเมเจอร์, การเข้าถือหุ้นในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อาทิ แคลิฟฟอร์เนียร์ ว้าว เพื่อขยายไลน์ไปสู่ธุรกิจฟิตเนส, ธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ, ถือหุ้นในสยามฟิวเจอร์เพื่อทำโครงการ Lifestyle&Entertainment Shopping Center ทั้งหมด เพราะเขาต้องการต่อยอดธุรกิจโรงหนังธรรมดาไปสู่ ธุรกิจ Entertainment Lifestyle ครบวงจร สะท้อนการเข้าถึงและตีโจทย์ธุรกิจได้อย่างแหลมคม หรือนัยหนึ่ง เพื่อปลดล็อกธุรกิจโรงหนังที่นับวันยิ่งอิ่มตัวตามภาวะตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง

แม้กระทั่งในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อย่างการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งไทยและต่างประเทศ วิชาก็ไม่ปล่อยให้พลาด เขาได้ก่อตั้งบริษัท เมเจอร์ซีเนพิคเจอร์ ขึ้นมาทำเพื่อทำการตลาดให้กับโปรดักส์หนังเด่นสะท้อนการเข้าถึงธุรกิจบันเทิงอย่างเบ็ดเสร็จ

ล่าสุดปีที่ผ่านมา วิชาก็สร้างแรงสะเทือนให้กับวงการอีกครั้ง คราวนี้เขาเลือกธุรกิจฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง McDonald’s มาอยู่ใต้ร่มของกลุ่มเมเจอร์ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว พร้อมกับการเปิดตัวร้านแมคโดนัลด์รูปโฉมใหม่ที่สาขาเอสพลานาด ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นนักบริหารสไตล์นวัตกรรม ที่นิยมชมชอบการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม อันเป็นตัวตนของวิชา ที่กำลังสร้างให้ลูกค้าและคู่แข่งในตลาดฟาสต์ฟู้ดได้ประจักษ์ว่า “เขาทำได้”แม้จะมาจากต่างธุรกิจก็ตาม

นอกจากนี้ กับการขยายสาขาและแตกแบรนด์โรงภาพยนตร์ “เอสพลานาด” ซึ่งจัดเป็นแบรนด์ที่ 4 น้องใหม่ แต่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการตอบรับจากลูกค้าได้ไม่แพ้สาขาสยามพารากอน อีกแบรนด์หนึ่งที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ความสำเร็จทั้งสองแบรนด์นี้

ประกอบกับรายได้ของกลุ่มโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ส่วนใหญ่มากจากสาขาหลัก ที่มีลักษณะแบบเดี่ยวๆ อาทิ สาขารัชโยธิน รังสิต ปิ่นเกล้า สุขุมวิท เป็นต้น รวมถึงการทำกำไรได้สูงกว่าสาขาที่เปิดในห้างสรรพสินค้า กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วิชาประกาศปัดฝุ่นกลยุทธ์ “สแตนอะโลน รีเทิร์น” อีกครั้ง สำหรับการขยายธุรกิจในอนาคตอีก 2 ปีข้างหน้า

โมเดลธุรกิจนี้ แม้จะเป็นของดั้งเดิมมาเมื่อครั้งเริ่มต้นทำธุรกิจเมื่อ 10 ปีก่อน แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง ยังสะท้อนถึง “ความลุ่มลึก” ในโจทย์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างดี รวมถึงการเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

แม้ด้านหนึ่งอาจสวนทางบ้างกับโมเดลปัจจุบัน ที่มุ่งสู่ธุรกิจแบบ Lifestyle Entertainment ครบวงจร ที่มีตั้งแต่โรงหนัง คาราโอเกะ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ โบว์ลิ่ง ก็ตาม แต่โมเดลนี้ก็มีจุดอ่อน เพราะจำเป็นต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ดังนั้นการขยายสาขาแบบ Stand Alone น่าจะตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างเหมาะสม ภายใต้ข้อจำกัด ปัจจัยทางธุรกิจที่ยังตีกรอบอยู่

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่วันนี้ “วิชา พูลวรลักษณ์” ยังเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่นับวันยิ่งทวีอิทธิพลต่อวงการธุรกิจโรงหนัง และความบันเทิงอย่างหาตัวจับยากอย่างยิ่ง…

จุดแข็ง
– นักบริหารที่เก่งทั้งด้านการเงินและกลยุทธ์ตลาด
– แนวคิดทำธุรกิจแบบนวัตกรรม ไอเดียแปลกใหม่

จุดอ่อน
– ทำธุรกิจแบบผูกขาด เบ็ดเสร็จ
– ผู้นำ ชอบการเปลี่ยนแปลงสูง

Profile

Name : วิชา พูลวรลักษณ์
Birth Date : 18 มกราคม 2506
Education :
– ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
– ปริญญาโท MBA Finance จาก Sandiago University, USA