แม้จะไม่ใช่ ปีที่ดีนักสำหรับ บะหมี่สำเร็จรูปมาม่า เมื่อต้อง ต้องเผชิญกับความท้าทายจากอัตราเติบโตยอดขายบะหมี่สำเร็จรูปมาม่าตกต่ำมากที่สุดในรอบ 40 กว่าปี อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
“คนที่มีกำลังซื้อก็ไม่มีอารมณ์จะใช้เงิน ส่วนคนที่รายได้น้อยก็ยิ่งกระทบมาก จากปกติยอดขายมาม่าจะเติบโต 5-6 % ทุกปี แต่ปีทีแล้ว (2557) กลับเติบโตแค่ 1% ยอมรับเลยบว่าต่ำที่สุดที่เคยทำมากว่า 40 ปี” เวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) บอกถึงช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุด
แต่เวลานี้ มีสัญญาณบวกมาให้ผู้บริหารของสหพัฒนฯ ได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะความเชื่อมั่นที่มีต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มี “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตประธานกรมการ บริษัทสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ที่เพิ่งลาออกไปหมาดๆ เพื่อเข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลเศรษฐกิจ และได้เร่งแก้ปัญหาให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
“มือเศรษฐกิจทีมนี้เขามือโปร ผมมั่นใจว่าเดินทางมาถูกทาง นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังซื้อระดับบน และระดับชุมชน ซึ่งถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ” เวทิต บอกกับสื่อ
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังเป็นปีที่มาม่าจึงต้องออกแรงจัดหนักกว่าทุกปี งัดเอาแคมเปญเด็ดๆ ที่คาดว่าจะโดนใจผู้บริโภค ด้วยงบการตลาดทั้งปี 200 ล้านบาท ทั้งการเลือกเอาดาราระดับซุปตาร์อย่าง อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ มาสร้างความฮือฮาให้กับตลาดมาแล้ว ตามต่อด้วยโปรโมชั่นชิงโชค “มาม่า อร่อยรถ แจกรีโว่ทุกเดือนแจกทองทุกวัน เพื่อ มากระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง มาม่าคาดว่าอย่างน้อยก็น่าจะเติบโตไปได้ 4%
เวทิต บอกว่า ที่จริงแล้วแคมเปญชิงโชคทองมาม่าจัดทุกปี แต่เว้นไป 2 ปี เพื่อปรับเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์การตลาดอื่นๆ เช่น การทำโฆษณาเพื่อสร้างแบรนด์ ตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป แต่มาปีนี้เมื่อสภาพเศรษฐกิจซบเซา จึงต้องใช้โปรโมชั่นชิงโชคออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อใหม่ๆ และเป็นทั้งรอยัลตี้โปรแกรม ให้กับลูกค้าเก่าที่สะสมซองมาม่าไว้อยู่แล้วได้มีโอกาสชิงโชคด้วยเช่นกัน
ในขณะที่ภาพรวมของบะหมี่สำเร็จรูป 6 เดือนแรก ของปี 2558 มีอัตราเติบโต 1.1% ส่วนมาม่า อัตราเติบโต 3% สูงกว่าตลาด คาดว่าทั้งปีมาม่าจะเติบโต 4% โดยในส่วนของมาม่าคัพเติบโตร้อยละ 7.7 แต่ชนิดมาม่าชนิดซองทรงตัว
สำหรับยอดขายของบะหมี่สำเร็จรูปมาม่าในช่วงครึ่งปีของปีนี้ ( มกราคม- มิถุนายน 2558) ทำไปได้ 3,900 ล้านบาท คาดว่า ยอดขายทั้งปีจะทำได้ 7,500 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาด 53% โดยยอดขายมาจากมาม่าชนิดซอง 76% และมาม่าชนิดคัพ 24%