กูเกิล เผยแผนปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการผุดบริษัทใหม่ชื่อ “Alphabet” ดำเนินการอิสระแยกจากกูเกิล โดยทางบริษัทกูเกิลจะเก็บธุรกิจที่สร้างชื่อมาอย่างเสิร์ชเอนจิน แอปพลิเคชันต่างๆ บริการยูทิวบ์ และแพลตฟอร์มแอนดรอยด์เอาไว้กับกูเกิล ส่วนธุรกิจใหม่ เช่น ธุรกิจสมาร์ทโฮมที่มาจากการควบรวมกิจการของ Nest, ธุรกิจโดรน และงานด้านการวิจัยและการลงทุน จะถูกย้ายไปดำเนินการภายใต้บริษัท Alphabet แทน ผู้ก่อตั้งกูเกิลอย่าง แลรี่ เพจ (Larry Pag) กล่าวว่า นี่จะเป็นการแบ่งโครงสร้างอย่างง่ายๆ สำหรับธุรกิจที่เริ่มมีความหลากหลายในตัวสูง “ด้วยโครงสร้างบริษัทใหม่นี้เราจะสามารถพุ่งความสนใจให้แก่สิ่งที่เรามีภายในกูเกิลได้มากขึ้น แน่นอนว่า การดำเนินงานของบริษัทเราเป็นไปด้วยดี แต่เราคิดว่าควรจะมีการแบ่งประเภท และจัดระบบใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม” “จุดสำคัญก็คือ บริษัท Alphabet จะดำเนินงานได้โดยอิสระแยกจากกูเกิล และพัฒนาผลงานภายใต้แบรนด์ของพวกเขาเอง” ทั้งนี้ มร.เพจ จะขึ้นแท่นซีอีโอที่บริษัทใหม่อย่าง Alphabet ส่วนรองประธานอาวุโสของกูเกิลอย่าง Sundar Pichai จะเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นซีอีโอของกูเกิลแทน...
ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) คือ บุคคลที่ถูกประกาศว่าจะรับหน้าที่ซีอีโอกูเกิล (Google) ต่อจากผู้ก่อตั้งอย่างแลร์รี่ เพจ (Larry Page) ชายอินเดียคนนี้ทำงานใต้ชายคากูเกิลมานานกว่า 11 ปี บนผลงานที่สร้างอิทธิพลยิ่งใหญ่ให้กับกูเกิลมาตลอด ผู้นำกูเกิลคนใหม่เกิดในรัฐทมิฬนาฑู ก่อนจะย้ายเข้ามาศึกษาในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1993 พิชัยเป็นศิษย์เก่าของทั้งมหาวิทยาลัย Stanford และ Wharton School of Business ก่อนจะเข้าร่วมงานกับกูเกิลในปี 2004 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บริการจีเมล (Gmail) แจ้งเกิด ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา พิชัยมีส่วนร่วมกับบริการที่กลายเป็นเส้นเลือดหลักของกูเกิล หากไม่นับบริการชุดเครื่องมือกูเกิล “กูเกิลทูลบาร์ (Google Toolbar)” ซึ่งไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก ซีอีโอกูเกิลคนใหม่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเบราว์เซอร์ “โครม...
“เวลานี้ตลาดค้าปลีกมีการแข่งขันกันสูงมาก การทำตลาดครั้งเดียวแล้วโปรไปถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย จะคลุมเครือเกินไปแล้ว และส่วนใหญ่ผู้บริโภคทุกคนชอบเรื่องราคา ทุกรายจะไปมุ่งแข่งกันเรื่องของราคากันเป็นหลัก แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องหันมาทำตลาดด้วย Insight ของผู้บริโภคว่าชอบอะไร และเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรงจะได้ผลมากกว่า” วรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจออนไลน์ เทสโก้ โลตัส
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ได้มีโอกาสเห็นวงการ “สตาร์ทอัพ” ของเมืองไทยตื่นตัวขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสาเหตุหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่มากขึ้น ทำให้คนสนใจเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้นเช่นกัน รวมไปถึงไอเดียของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการอยากมีธุรกิจเป็นของตนเองด้วย
ในอดีตนั้น กว่าที่สตาร์ทอัพแห่งหนึ่งจะก้าวขึ้นมาได้ อาจจะเหนื่อย ละต้องใช้เงินทุนมหาศาลเป็นอย่างมาก แต่ในยุคปัจจุบันนั้นมีโครงการที่คอยสนับสนุนมากมาย เหมือนเป็นน้ำมันที่คอยจุดเชื้อเพลิงให้ก่อร่างสร้างตัวมีประกายไฟขึ้นมา ดั่งโครงการ “AIS The StartUp 2015” ปีนี้ได้จัดเป็นปีที่ 5 แล้ว
สำหรับโครงการนี้เป็นเสมือนเวทีเปิดโอกาสให้ผู้มีแนวคิดหรือผลิตภัณฑ์ในมือพร้อมที่จะต่อยอดทางธุรกิจ ร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขัน เพื่อพัฒนาและนำผลงานออกสู่ตลาดจริง ซึ่งเอไอเอสไม่ใช่แค่สานฝันให้กับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่เท่านั้น แต่มอบความสำเร็จให้มากกว่าด้วยการมาร่วมเป็น “ดิจิตอลพาร์ทเนอร์” กับเอไอเอสอีกด้วย
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มีกลุ่มสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการกว่า 1,000 รายการ และได้ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบตลาด จนออกให้บริการแล้ว เช่น ทีม ShopSpot, Infographic Thailand,...
จุดประกายความดีงาม ในข้ามคืนไปแล้วกับ
“The Waiters’ Mom พนักงานร้านอาหารก็มีแม่" : Bar B Q Plaza
หลังจากปล่อยคลิปนี้สู่โลกออนไลน์เพียง 2 วัน ผู้คนก็กล่าวขานกันอย่างไม่หยุดหย่อน
ถึงความดีงามเล็กๆที่เกิดขึ้นของเรื่องราวในคลิป จนกลายเป็นปรากฏการณ์ในสังคมไทย
พร้อมขึ้นอันดับ Top Hit Youtube ในข้ามคืน ด้วย 2 ล้านกว่า views กับเวลาเพียง 2 วัน!?!
[youtube https://www.youtube.com/watch?v=WK5NYCekCVM?wmode=opaque&autohide=0]
คลิปวิดิโอง่ายๆที่เริ่มต้นเพียงการตั้ง ‘คำถาม’ ธรรมดาๆ
เรื่องราวจากภาพเหตุการณ์จริงที่เป็นการตั้งกล้องและเก็บบรรยากาศ
นำไปสู่ความรู้สึกมากมายอย่างไม่ทันตั้งตัว...
งานนี้ไม่ได้ให้เพียงความซึ้งระหว่างแม่ลูก แบบหนังโฆษณาตามเทศกาล
แต่ยังสามารถจุดประเด็นใหม่ ในเรื่องการเห็นความสำคัญของเพื่อนมนุษย์อย่างเท่าเทียม ได้อย่างแยบยล...
ล่าสุด มีข่าวเพิ่มเติมว่าคลิปนี้ได้กระจายกระแสไปยังต่างประเทศแล้วอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับกระแสของผู้คนที่บอกต่อๆกันว่า ควรดูคลิปนี้ คนเดียว จะ ‘ดีที่สุด’ :)
สื่ออเมริกันฟันธง 9 กันยายนนี้ จะไม่ได้เป็นเพียงวันเปิดตัวไอโฟน-ไอแพดรุ่นใหม่ “iPhone 6s และ iPad Pro” แต่จะมีสินค้าอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้กับทีวีอย่าง Apple TV ร่วมด้วย ถือเป็นข่าวกระแสแรงในสัปดาห์ก่อนการจัดงานวันที่ 13 สิงหาคมนี้ของซัมซุง ซึ่งคาดว่าจะเป็นงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหญ่อย่าง Note 5 และ S6 Edge Plus แหล่งข่าวของสำนักข่าวออนไลน์ “บัซฟีด (Buzzfeed)” ยืนยันว่า แอปเปิลวางกำหนดการจัดงานเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่แล้วในวันพุธที่ 9 กันยายนนี้ โดย Buzzfeed เชื่อว่า เนื้อหาในงานจะมีความคล้ายคลึงกับการจัดงานในปีที่แล้ว ซึ่งแอปเปิลเทพื้นที่ให้ความสำคัญต่อไอโฟนรุ่นใหม่เต็มที่ ไอโฟนรุ่นใหม่ซึ่งถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า iPhone 6s นั้นคาดว่าจะมาพร้อมกับหน้าจอที่ตอบสนองแรงกดต่างกัน หรือฟอร์ซทัชดิสเพลย์ (Force...
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร ได้เผยผลสำรวจพฤติกรรมคนไทยกับการซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ผลสำรวจพบว่า ผู้ที่เคยซื้อสินค้า/บริการทางออนไลน์ในรอบ 6 เดือน โดยส่วนใหญ่ จะซื้อสินค้า/บริการที่มีมูลค่าไม่เกินครั้งละ 1,000 บาท ยกเว้นกลุ่มสินค้าประเภทการเงิน/การลงทุนและการซื้อแพคเกจเดินทาง/ท่องเที่ยว โดยกลุ่มสินค้าที่มีการซื้อไม่เกิน 1,000 บาท มากเป็นอันดับที่ 1 ได้แก่ การซื้อบริการดาวน์โหลดริงโทน/ เพลง/ ภาพยนตร์/ละคร/เกมออนไลน์ คิดเป็น 78.8% อันดับที่ 2 เป็นสินค้าอัญมณี/เครื่องประดับ คิดเป็น 57.0% ส่วนอันดับที่ 3 และ อันดับที่ 4 มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยอันดับที่ 3 เป็นสินค้าเพื่อความบันเทิง...
เมื่อต้องเจอศึกจากร้านอาหารจานด่วนทั้งแบรนด์เก่าและแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด ทำเอา เคเอฟซี ธุรกิจเชนร้านอาหารในไทยมานาน ต้องประกาศความมั่นใจในการทำธุรกิจในไทย ด้วยอัดฉีดงบ 1.8 พันล้านพัฒนาบริการ และเตรียมเปิดตัว พันธมิตรใหม่ ขยาย 130 สาขา ต้นปีหน้า แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไปเคเอฟซี ประจำประเทศไทย บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เคเอฟซีมีความเชื่อมั่นในการเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทั้งนี้แบรนด์เคเอฟซียังมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้น 7 % และเคเอฟซีกำลังพัฒนานวัตกรรมและการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ” กลยุทธ์แรก คือ ในปี 2015 เคเอฟซีใช้งบลงทุนกว่า 1.8 พันล้านบาท ในการพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า...
วันนี้โลกเราเดินทางมาถึงยุคทองของการสอดแนมแอบดูที่แสนสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ เพราะสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ชาวออนไลน์พร้อมใจเปิดเผยวิถีชีวิตของตัวเองอย่างเต็มใจ จนใครๆ ก็หันมาสอดแนมเรื่องราวของ “คนที่อยากแอบดู” ชนิดไม่ต้องแอบให้เสียเวลาอีกต่อไป ความสะดวกสบายนี้ทำให้วงการโซเชียลสปายขยายตัวงอกงามสู่หลายวงการ ขณะนี้นักเรียนสามารถแอบดูคุณครูผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ครูสามารถแอบดูเพื่อนบ้านด้วยการพิมพ์ชื่อแสนง่าย เพื่อนบ้านสามารถแอบดูนายจ้างผ่านการคลิกไม่กี่ครั้ง รวมถึงนายจ้างที่สามารถแอบดูลูกน้องได้ทั้งกรณีก่อน และหลังรับเข้าทำงาน ห่วงโซ่ของการแอบดูไม่จบเพียงเท่านี้ แต่ยังลุกลามไปถึงระดับประเทศ ตำรวจสามารถแอบดูโจร รัฐบาลสามารถแอบดูผู้ก่อการร้าย รวมถึงเจ้าพ่อผู้สร้างโซเชียลมีเดียเองที่สามารถแอบดูพวกเราผู้ใช้งานได้ทุกคน สถานการณ์ล่าสุดในวงการโซเชียลสปายขณะนี้ยังไม่หยุดนิ่ง หลายประเทศตื่นตัวประกาศเตือนประชาชน และลงมือเริ่มโครงการสร้างโซเชียลมีเดียของตัวเองเพื่อความมั่นคงของประเทศ ท่ามกลางนักพัฒนาที่ยังคงสร้างนานาเครื่องมือสำหรับการแอบดูต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะในรูปแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย และไม่มีใครรู้ เตือนครูระวังถูกนักเรียนสอดแนม คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ หรืออีเซฟตี้ คอมมิชชัน (e-Safety Commission) ของออสเตรเลีย ประกาศเตือนให้คุณครูทั่วประเทศปิดกั้น...






