คมชัดลึก – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 08 Apr 2020 06:47:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ปิดฉาก 18 ปี “คมชัดลึก” ตีพิมพ์ฉบับสุดท้าย เลิกจ้างพนักงาน ชดเชย 10 เดือน https://positioningmag.com/1272235 Wed, 08 Apr 2020 06:25:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272235 ปิดตำนาน 18 ปี “คมชัดลึก” นสพ.เครือเนชั่นกรุ๊ป ตีพิมพ์ฉบับสุดท้ายวันนี้ ระบุพิษ COVID-19 แผงหนังสือปิด คนอ่านไม่กล้าซื้อ ทรานส์ฟอร์มเร็วกว่าเป้าหมาย พบเลิกจ้างพนักงานจ่ายชดเชย 10 เดือน เหลือ “กรุงเทพธุรกิจ” ฉบับเดียว

ไปต่อไม่ไหว

หลังจากข่าวลือสะพัดถึงการปิดตัวของหนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” ในเครือเนชั่น พร้อมกับมีการผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่ ปรับลดเงินเดือนพนักงาน จนถึงตอนนี้คมชัดลึกได้อำลาแผงเป้นที่เรียบร้อย

ในวันนี้หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ปีที่ 19 ฉบับที่ 6605 ลงวันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563 ได้ตีพิมพ์ประกาศยุติการพิมพ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ระบุว่า

“เรียน ท่านผู้อ่านทุกท่าน

กองบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ขอเรียนให้ทราบว่า เราจะยุติการพิมพ์ นสพ.คมชัดลึก ซึ่งฉบับวันที่ 8 เมษายน 2563 เป็นฉบับสุดท้าย

เป็นที่ทราบดีว่า ในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารได้เปลี่ยนแปลงไป สื่อสิ่งพิมพ์ได้รับความนิยมน้อยลง ประชาชนหันไปบริโภคข่าวสารผ่านสื่อดิจิทัล สื่อทางเลือกและสื่อโซเชียลแทน

ดังนั้น ด้วยพฤติกรรมดังกล่าวทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นสื่อหลักได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากธุรกิจโฆษณาได้เปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ต้นทุนในการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น ขณะที่รายได้จากโฆษณาถูกแบ่งถูกแชร์ไปยังสื่ออื่น

นสพ.คมชัดลึก ก็เช่นเดียวกัน เราได้รับทราบความเปลี่ยนแปลงนี้มาเป็นเวลานาน เราจึงให้กองบรรณาธิการคมชัดลึกเป็นองค์กรนำร่องในการทรานส์ฟอร์มไปสู่สื่อดิจิทัล โดยเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะทรานส์ฟอร์มสื่อกระดาษ หรือออฟไลน์ไปสู่สื่อดิจิทัล หรือออนไลน์ 100% ภายในกลางปีนี้ ซึ่งกระบวนการทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย

ปัจจุบัน คมชัดลึก ออนไลน์ ได้รับความนิยมจากนักบริโภคข่าวสารที่เข้าไปในเว็บและผ่านช่องทางโซเชียลฯ เดือนละประมาณ 23 ล้านเพจวิว เราจึงได้วางแผนในการพัฒนาเพื่อการทรานส์ฟอร์ม นสพ.คมชัดลึก ไปสู่ คมชัดลึก ออนไลน์ แบบเต็มรูปแบบ

แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่นอกเหนือจากการวางแผน และเป็นสถานการณ์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนอ่าน และธุรกิจโฆษณา เดิมคนอ่านหนังสือพิมพ์น้อยลงเรื่อยๆ แต่เมื่อโควิดเข้ามา ทำให้แผงหนังสือปิด คนอ่านไม่กล้าเดินไปซื้อหนังสือ นี่คือตัวเร่งอีกปัจจัยหนึ่ง โดยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะจบลงเมื่อไหร่

แน่นอนว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำใหเราตัดสินใจที่จะทรานส์ฟอร์ม นสพ.คมชัดลึก ไปสู่ คมชัดลึกออนไลน์และสื่อดิจิทัลในเครือเร็วกว่าเป้าหมายที่เรากำหนดไว้

กองบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก เราได้รับใช้คนอ่านมา 19 ปี วันนี้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่สื่อที่ทันสมัยกว่าเดิม เนื้อหารวดเร็ว ครบถ้วน ยังคงไว้ซึ่งความเป็นคมชัดลึกที่ “ลึกกว่าข่าว” อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่เพิ่มเติมคือ เราจะเสิร์ฟข่าวด่วนข่าวร้อนไปถึงมือทุกท่านตลอดเวลา หวังว่า คุณผู้อ่านทุกท่านพร้อมที่จะเดินไปกับเราในรูปโฉมของสื่อดิจิทัลเต็มรูปแบบ”

ย้อนรอย 18 ปี คมชัดลึก

สำหรับหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เป็นหนังสือพิมพ์ข่าวทั่วไปภาษาไทยในเครือเนชั่น กรุ๊ป ยุคที่นายสุทธิชัย หยุ่น เป็นบรรณาธิการอำนวยการ ตีพิมพ์ฉบับปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2544 หรือเมื่อ 18 ปีก่อน หลังจากที่ขยายธุรกิจสถานีข่าว 24 ชั่วโมง เนชั่นแชนแนล ร่วมกับโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก “ยูบีซี” ช่อง 8 เมื่อปี 2543

โดยชื่อของคมชัดลึก มาจากรายการสนทนาข่าว (นิวส์ทอล์ก) ที่มี นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกร ในหนังสือกรรมกรข่าวที่นายสรยุทธเป็นผู้เขียน ระบุว่า เดิมจะตั้งชื่อรายการว่า “ชัดลึก” มาจากการโฟกัสภาพ “ชัดตื้น” และ “ชัดลึก” แต่นายสุทธิชัยเสนอให้เพิ่มคำว่า “คม” นำหน้า จึงกลายเป็นที่มาของชื่อรายการในปัจจุบัน และนำไปตั้งชื่อหนังสือพิมพ์ภาษาไทย

ระหว่างนั้น คมชัดลึกเปิดตัวด้วยโฆษณาโทรทัศน์ ที่ใช้เด็กขายหนังสือพิมพ์เป็นตัวเดินเรื่อง พร้อมจัดโปรโมชันชิงโชคโดยตัดคูปองหน้า 2 แจกรถปิกอัพ จักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้านพร้อมที่ดิน รวมกว่า 20 ล้านบาท อีกทั้งมีการแจกผงซักฟอกเปา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ทำให้หนังสือพิมพ์คมชัดลึกมียอดขายเป็นอันดับ 3 รองจากไทยรัฐ และ เดลินิวส์ในเวลาอันรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมพิเศษ “คมชัดลึก อวอร์ด” งานประกาศรางวัลในวงการบันเทิง เพื่อหารายได้หล่อเลี้ยงองค์กร โดยจัดมาเป็นระยะเวลา 16 ปี ครั้งล่าสุดผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา

ดิจิทัลเข้าดิสรัปต์กลุ่มเนชั่น

แต่ในช่วงที่วงการสื่อมวลชนถูกดิจิทัลดิสรัปชัน ผู้บริหารเครือเนชั่นกรุ๊ปชุดก่อน มีแผนที่จะปิดหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน หลังจากปิดตัวนิตยสาร “เนชั่นสุดสัปดาห์” ไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2560 แต่สุดท้ายแก้ปัญหาด้วยการควบรวมฉบับวันเสาร์-อาทิตย์รวมกัน นับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2560 เป็นต้นมา

เมื่อกลุ่ม ฉาย บุนนาค” เข้ามาบริหารงานเครือเนชั่นกรุ๊ป แทนกลุ่ม นายสุทธิชัย หยุ่น ที่ประกาศยุติบทบาทในเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2561 ได้พิจารณาถึงการปิดสิ่งพิมพ์ในเครือ พบว่า หนังสือพิมพ์คมชัดลึกมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า มีการปรับตัวให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และคอนเทนต์สามารถสร้างรายได้ในแพลตฟอร์มนิวมีเดียได้ง่าย

สุดท้ายจึงตัดสินใจยุติการพิมพ์ “หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น (The Nation)” ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ไปเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2562 แล้วหันมาทำเว็บไซต์ Nation Thailand แทน เนื่องจากเห็นว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ขาดทุนเฉลี่ยปีละ 30 ล้านบาท อีกทั้งการขายส่วนใหญ่เป็นไปในรูปแบบ B2B เน้นกลุ่มลูกค้าโรงแรม โรงพยาบาล และสายการบิน ที่ขายในราคาต่ำกว่าราคาปก ตกฉบับละ 8 บาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 นายฉายประกาศมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจนำมาตรการไปปรับใช้ ตั้งแต่ปรับลดเงินเดือน ลางานโดยไม่รับค่าจ้าง ยกเลิกสวัสดิการ ค่าตอบแทนอื่น และเปิดโอกาสให้ใช้ดุลพินิจเลิกจ้างพนักงานได้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

กระทั่งวันที่ 4 เม.ย. บริษัท คมชัดลึก มีเดีย จำกัด ทำหนังสือเลิกจ้างถึงพนักงาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 และบริษัทยินดีจ่ายค่าชดเชยจากการเลิกจ้างตามกฎหมายจำนวน 10 เดือน โดยพนักงานจะต้องยอมรับเงื่อนไข โดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ และจะไม่ฟ้องดำเนินคดีกับบริษัทและผู้เกี่ยวข้อง โดยพบว่ามีทั้งหนังสือพิมพ์คมชัดลึก คมชัดลึกออนไลน์ และ เนชั่นสุดสัปดาห์ออนไลน์

เครือเนชั่นกรุ๊ปในยุคนายฉาย ยังเหลือสื่อสิ่งพิมพ์เพียงฉบับเดียว ได้แก่ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่มี นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร เป็นบรรณาธิการบริหาร ไม่นับรวมหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ที่แยกการบริหารต่างหาก แต่ได้ทำงานร่วมกันกับเครือเนชั่นกรุ๊ป เช่น การจัดรายการโทรทัศน์ห้องข่าวเศรษฐกิจทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี เป็นต้น

Source

]]>
1272235
พิษโซเชียลกระทบสิ่งพิมพ์ “คมชัดลึก” รัดเข็มขัด ควบรวมฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ https://positioningmag.com/1134991 Thu, 03 Aug 2017 06:29:02 +0000 http://positioningmag.com/?p=1134991 นสพ.คมชัดลึก ตัดสินใจปรับตัวโดยควบรวมฉบับวันเสาร์-อาทิตย์เข้าด้วยกัน มีผล 5 ส.ค.นี้ หลังสื่อโซเชียลกระทบสิ่งพิมพ์ ก่อนหน้านี้ปิดตัวเนชั่นสุดสัปดาห์ 

วันนี้ (3 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ได้ตัดสินใจปรับตัวโดยเริ่มจากควบรวมฉบับวันเสาร์-อาทิตย์รวมกัน โดยจะเริ่มตั้งแต่ฉบับวันเสาร์ที่ 5 ส.ค. เป็นต้นไป หลังก่อนหน้านี้ ได้ยุติการผลิตนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ นิตยสารวิเคราะห์ข่าวรายสัปดาห์ ที่พิมพ์โดยบริษัทเดียวกันไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า พฤติกรรมผู้อ่านเปลี่ยนแปลงไป มีการเสพข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ส่งผลกระทบต่อตลาดอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ซบเซา สวนทางกับต้นทุนการผลิตโดยภาพรวมสูงขึ้น

โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึกได้ตีพิมพ์ “จากคมชัดลึกถึงท่านผู้อ่าน” ลงวันที่ 2 ส.ค. ระบุว่า “16 ตุลาคม 2544 “คม ชัด ลึก” ถือกำเนิดขึ้นบนแผงหนังสือพิมพ์รายวัน ตลอดระยะเวลาร่วม 16 ปี ที่สื่อสิ่งพิมพ์เล่มนี้ยืนหยัดอยู่ได้ ก็ด้วยแรงสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นจากท่านผู้อ่านที่มอบความเชื่อถือ ความไว้วางใจ ให้พวกเราได้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ในจริยธรรมเต็มความสามารถ

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นที่ข่าวสารทุกวันนี้ได้ขยายกว้างไกลออกไปเท่าที่ปลายนิ้วสัมผัสของผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียจะนำพา ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ เปรียบดังสึนามิ ที่ถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งระบบ อันเป็นพลวัต ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหนีหายไปได้ นอกจากการปรับตัว

ความเปลี่ยนแปลงล่าสุด ที่เราปรารถนาว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เริ่มจากหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ฉบับวางจำหน่าย ตีพิมพ์ฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 5-6 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป

ทั้งหมดนั้น เรามั่นใจว่าจะสามารถหยัดยืนอยู่ เพื่อนำเสนอนานาสาระอันทรงคุณค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตลอดร่วม 16 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าในเชิงธุรกิจ จำเป็นต้องกระชับพื้นที่ เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ หากแต่ทุกเรื่องราวนับจากนี้ เราเชื่อว่า จะเสริมเติมเต็มให้แก่ท่านผู้อ่านที่ให้ความเมตตากับเราเสมอมามากยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กระแสข่าวการปิดตัวหนังสือพิมพ์คมชัดลึก เกิดขึ้นในแวดวงวิชาชีพสื่อมาโดยตลอด โดยจะลดพนักงานในส่วนของหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ลงจาก 54 คน เหลือ 24 คน และลดพนักงานทั้งเครือจาก 543 คน ให้เหลือ 300 คน รวมทั้งจะขายช่อง NOW26 ให้กับกลุ่มบริษัท บีทีเอส

แต่ข่าวลือดังกล่าว ได้รับการปฏิเสธทั้งจากพนักงาน รวมทั้งผู้บริหารในเครือเนชั่น อย่าง นายเทพชัย หย่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเนชั่น กรุ๊ป ที่กล่าวในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ว่า บริษัทฯ ไม่มีแผนที่จะปิดหนังสือพิมพ์คมชัดลึก แต่จะปรับเปลี่ยนการหารายได้จากสื่อสิ่งพิมพ์เดิมไปสู่เว็บไซต์และออนไลน์ ส่วนช่อง NOW26 อยู่ระหว่างหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนเพื่อลดภาระ

ทั้งนี้ เครือเนชั่น กรุ๊ป ยังมีหนังสือพิมพ์อีก 2 ฉบับ ได้แก่ หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษ เดอะเนชั่น และ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจรายวัน ส่วนสื่ออื่นๆ ในเครือเนชั่นได้มีการปิดตัวและปรับลดขนาดองค์กรลง เช่น ปิดตัววิทยุเนชั่น เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. หลังออกอากาศมานานถึง 26 ปี หรือการลดเวลารายการข่าวช่อง NOW26 ลง โดยไม่มีรายการข่าวในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นต้น 


ที่มา : manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000078921

]]>
1134991