ราคาขึ้น – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 22 Jun 2020 00:56:36 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ลูกค้าพร้อมเปย์! Gucci ขึ้นราคากระเป๋าหรู 5-9% งัดรายได้ชดเชยช่วง COVID-19 https://positioningmag.com/1284453 Sun, 21 Jun 2020 14:39:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284453 Gucci ปรับขึ้นราคากระเป๋าหรูของแบรนด์ราว 5-9% เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปในช่วง COVID-19 ระบาด ขณะที่ Chanel ประเมินธุรกิจจะหดตัวไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน แม้ว่ายอดขายในจีนจะกลับมาโตเกิน 100%

นักวิเคราะห์จากบริษัท Jefferies รายงานการปรับราคาของ Gucci ว่ามีการปรับราคากระเป๋าดัง 2 รุ่นคือ รุ่น Dionysus และ Zumi ขึ้นประมาณ 5-9% จากการสำรวจราคา 3 ประเทศ ได้แก่ จีน อิตาลี และอังกฤษ โดย Gucci เป็นแบรนด์กระเป๋าหรูรายที่สามแล้วที่ปรับราคาสินค้าขึ้นช่วง COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ตามหลังแบรนด์ Louis Vuitton และ Chanel ที่ปรับไปแล้วก่อนหน้านี้

การปรับราคาขึ้นของ Gucci เป็นการเสี่ยงคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้าเศรษฐีนักช้อปว่าจะกลับมาซื้ออีกครั้ง แม้ว่าราคาจะปรับขึ้นแล้วก็ตาม

“เราไม่แปลกใจเลยที่ Gucci แบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง จะเดินตามโอกาสการขึ้นราคาสินค้าเพื่อลดผลกระทบจากรายได้ที่หดตัวลง เหมือนกับแบรนด์อื่นๆ” Cereda บริษัทนักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งกล่าว

กระเป๋า Gucci Zumi mini (Photo: gucci.com)

ก่อนที่ Gucci จะปรับขึ้นราคาเพียงสองวัน Chanel แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสเพิ่งประเมินว่าโรคระบาด COVID-19 จะส่งผลกระทบตลาดสินค้าลักชัวรีไปอีกอย่างน้อย 18 เดือนไปจนถึง 24 เดือน

“เรามองว่าสภาวะเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจลักชัวรีไปอีกอย่างน้อย 18 เดือน หรืออาจจะมากถึง 24 เดือน” ฟิลิปป์ บลองดัวซ์ ซีเอฟโอของ Chanel กล่าวกับสำนักข่าว Reuters

แม้ว่า 85% ของหน้าร้าน Chanel ทั่วโลกจะกลับมาเปิดทำการได้แล้ว และยอดขายของแบรนด์ในจีนกลับมาโตมากกว่า 100% ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเห็นการฟื้นตัวทั้งในปารีส มิลาน และเบอร์ลิน แต่บลองดัวซ์ยังมองว่า “การดำเนินงานที่แข็งแกร่งเหล่านี้ยังไม่สามารถชดเชยรายได้ธุรกิจระหว่างประเทศได้ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติในแต่ละประเทศที่หายไปมีผลกับธุรกิจดิวตี้ฟรีของเรา และดิวตี้ฟรีคือกลุ่มธุรกิจที่ยังต้องปิดอีกยาวนาน”

ดังนั้น เพื่อตอบสนองการคาดการณ์เชิงลบในอนาคต Chanel มีการตัดงบโฆษณาแล้ว พร้อมลดกำลังการผลิต รวมถึงกำลังพิจารณากิจกรรมการจัดแฟชั่นโชว์ใหม่

สำหรับภาพรวมธุรกิจลักชัวรี Bain & Company ประเมินว่าธุรกิจนี้รวมทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 3.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปีนี้อาจจะได้เห็นการหดตัวสูงสุดถึง 35%

Source

]]>
1284453
Chanel ขึ้นราคากระเป๋าหรู 20% เตรียมโกยเงินนักช้อป ชดเชยรายได้ที่หายไปช่วง COVID-19 https://positioningmag.com/1278736 Fri, 15 May 2020 07:38:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1278736 Chanel แจ้งขึ้นราคากระเป๋าบางรุ่น 5-17% ในสกุลเงินยูโร เหตุต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นจากไวรัส COVID-19 กระทบซัพพลายเชน อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าลักชัวรีชี้ราคาไทยปรับขึ้นมาถึง 20% เมื่อรวมผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน นักวิเคราะห์มองสินค้าแบรนด์หรูวางเป้าขึ้นราคารอนักช้อปที่อัดอั้นจากช่วง COVID-19 ระบาด

สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลจาก Chanel เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทมีการปรับราคากระเป๋าบางรุ่นขึ้น 5-17% (ในสกุลเงินยูโร) โดยกระเป๋าที่จะปรับราคาขึ้นเป็นรุ่นไอคอนของแบรนด์ ได้แก่ 11.12 , 2.55 , Boy, Gabrielle, Chanel 19 และกลุ่มสินค้าเครื่องหนังชิ้นเล็กอื่นๆ

โดยบริษัทชี้แจงว่ามีการปรับขึ้นราคาเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นในช่วงการระบาดของไวรัส COVID-19 มีผลกระทบต่อซัพพลายเชน

หลังจากปรับราคาในสกุลเงินยูโรมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2020 Chanel แจ้งว่าราคาทั่วโลกจะทยอยปรับขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน เพื่อไม่ให้เกิดความแตกต่างด้านราคามากจนเกินไป ส่งผลให้ลูกค้าจีนและเกาหลีใต้แห่ต่อคิวยาวเหยียดหน้าห้างฯ เพื่อรอซื้อกระเป๋า Chanel ก่อนปรับราคา

กระเป๋ารุ่นไอคอน Chanel Classic Flap Bag

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมสินค้าลักชัวรีในไทยพบว่า ราคากระเป๋าเมื่อแปลงเป็นเงินบาทไทยแล้ว ราคาหิ้วจากช็อปในยุโรปและราคาหน้าช็อปไทยนั้นปรับขึ้นมาประมาณ 15-20% สำหรับกระเป๋า Chanel รุ่นสุดฮิตอย่าง Classic Flap Bag ขนาด 10″ จากเดิมราคาหิ้วเคยอยู่ที่ราวๆ 185,000 บาท ขึ้นมาเป็น 220,000 บาท ส่วนหน้าช็อปไทยเคยอยู่ที่ประมาณเกือบ 200,000 บาท ขึ้นมาเป็น 235,000 บาท เมื่อวานนี้

การปรับราคาของกระเป๋า Chanel นั้นเกิดขึ้นเกือบทุกปี ล่าสุดเคยขึ้นราคากระเป๋าบางรุ่นมาแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2019 แต่ที่การปรับรอบนี้น่าตกใจคือสัดส่วนการขึ้นราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าครั้งก่อนๆ

ไม่ได้มีแค่ Chanel ที่ปรับราคาขึ้นช่วงเกิดโรคระบาด แม้แต่ LVMH ก็ปรับราคากระเป๋า Louis Vuitton บางรุ่นขึ้นประมาณ 14% ในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีรายงานว่าร้านเครื่องประดับ Tiffany สาขาในเกาหลีใต้ก็ปรับราคาขึ้นประมาณ 10% เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2020

 

ลูกค้าลักชัวรีรอกลับไปช้อป

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า Chanel รวมถึงแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ เลือกปรับราคาแรงในช่วงนี้ เพื่อเตรียมรับกระแสนักช้อปที่จะกลับมาโหมซื้อสินค้า ชดเชยช่วงที่มีการปิดล็อกดาวน์ประเทศระหว่างการระบาดของไวรัส COVID-19 และเมื่อมองในมุมบริษัท กลยุทธ์การปรับราคาอาจทำให้บริษัทมีผลกำไรรวมทั้งปีที่ดีขึ้น

 

View this post on Instagram

 

A post shared by CHANEL (@chanelofficial) on

สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์การค้า Lotte ในเกาหลีใต้ เปิดเผยกับสำนักข่าว SCMP ว่า สินค้ากลุ่มลักชัวรีทำยอดขายในช่วงวันที่ 1-10 พฤษภาคม 2020 สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 30% สะท้อนภาพกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่รอการกลับไปใช้จ่ายหลังหมดโรคระบาด

อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง ตลาดจีนที่เคยเป็นตลาดหลักของสินค้าลักชัวรีโดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 35% จากยอดขายทั่วโลกในปี 2019 มุมมองของผู้บริโภคชาวจีนอาจเปลี่ยนไปหลังการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ จนชาวจีนมองการเก็บเงินสดสำคัญกว่าการซื้อสินค้าสร้างไลฟ์สไตล์หรือแม้แต่การลงทุนสินทรัพย์

ต้องจับตามองกันอีกครั้งว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคสินค้าลักชัวรีหลังการระบาดจะเปลี่ยนไปหรือไม่!

Source: Reuters, Business Insider, SCMP, New York Post

]]>
1278736
Amazon แบน 3,900 ร้านค้าบนแพลตฟอร์ม เหตุโก่งราคาสินค้าช่วงวิกฤต COVID-19 https://positioningmag.com/1269886 Wed, 25 Mar 2020 07:12:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1269886 Amazon เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 ว่า บริษัทได้ระงับร้านค้า 3,900 ร้านบนแพลตฟอร์ม เนื่องจากร้านค้ามีการโก่งราคาสินค้า โดยวิกฤตไวรัส COVID-19 ทำให้สินค้าบางชนิด เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เธอร์โมมิเตอร์วัดไข้ มีดีมานด์สูงมากจนร้านค้าถือโอกาสขึ้นราคาในระดับที่เป็นการบิดเบือนตลาด

Amazon แบนร้านค้า 3,900 ร้านที่โก่งราคาสินค้า รวมเป็นจำนวนสินค้า 500,000 รายการที่ถูกตัดออกจากระบบ โดย Amazon ไล่ปิดร้านเหล่านี้มาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม

“เรากำลังติดตามดูร้านค้าบนแพลตฟอร์มของเราที่ตั้งราคาไม่เป็นธรรม รวมถึงร้านที่ลงสินค้าโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับไวรัส COVID-19 โดยเรามีระบบอัตโนมัติที่สามารถติดตามและลบสินค้าราคาไม่เป็นธรรมเหล่านี้ได้ รวมถึงเรายังตั้งทีมพิเศษเพื่อตรวจสอบและระบุตัวสินค้าราคาไม่เป็นธรรมซึ่งมีความต้องการสูง เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ” Amazon แจ้งในบล็อก ทั้งนี้ ไม่มีการระบุรายชื่อร้านที่ถูกแบน

“เรายังนำส่งข้อมูลร้านค้าที่เราสงสัยว่ามีการโก่งราคาสินค้าอย่างรุนแรงให้กับอัยการและเจ้าหน้าที่รัฐด้วย”

amazon thermometer price gouging
ตัวอย่างราคาเธอร์โมมิเตอร์วัดไข้ทางหน้าผาก จากปกติขายที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ บางร้านฉวยโอกาสขึ้นราคาไปถึงมากกว่า 500 เหรียญสหรัฐฯ (photo: Business Insider)

ในวันที่ 23 มีนาคม 2020 โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังลงนามคำสั่งห้ามการขึ้นราคาสินค้าและการกักตุนสินค้าที่เป็นเครื่องมือแพทย์ด้วย ซึ่งครอบคลุมถึงหน้ากากอนามัย โดยใครก็ตามที่มีซัพพลายสินค้ามากเกินจำเป็นจะถูกลงโทษตามกฎหมาย

การกวาดล้างร้านค้าฉวยโอกาสของ Amazon เกิดขึ้นเพราะร้านค้าจำนวนมากขึ้นราคาสูงอย่างรุนแรงตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยกตัวอย่างเช่น เทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ทางหน้าผากที่เคยขายราคา 60 เหรียญสหรัฐ พุ่งขึ้นไปถึง 200 เหรียญสหรัฐ หรือบางร้านดันราคาไปถึงมากกว่า 500 เหรียญ!

สำหรับในไทย กรมการค้าภายในมีการออกคำสั่งจำกัดเพดานราคาขายหน้ากากอนามัยไว้ที่ 2.5 บาทต่อชิ้นเช่นกัน และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเบอร์ต้นๆ ในไทยอย่าง Lazada เคยชี้แจงในข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ว่า “เมื่อเราพบว่าผู้ขายกำหนดราคาหน้ากากอนามัยที่สูงเกินสมควร เราจะดำเนินการระงับการจัดจำหน่ายสินค้ารายการนั้น” โดยระบุว่าผู้ซื้อสามารถแจ้งเข้ามาที่ https://www.lazada.co.th/contact/ เพื่อให้แพลตฟอร์มระงับร้านค้านั้นๆ

Source

]]>
1269886
Starbucks ขึ้นราคา 5 บาท! ในรอบ 2 ปีครึ่ง อัดแคมเปญ 1 แถม 1 ปลอบใจลูกค้า https://positioningmag.com/1259511 Mon, 06 Jan 2020 10:17:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259511 เตรียมตังค์เพิ่มก่อนเดินเข้าร้าน วันนี้ Starbucks ประเทศไทยปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม 5 บาททุกรายการยกเว้นเมนูปั่น หลังไม่มีการปรับขึ้นมา 2 ปีครึ่ง ชี้เป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนสินค้า ขณะเดียวกันวันนี้ Starbucks ยังระดมอัดการประชาสัมพันธ์หลายแคมเปญ ทั้งการเปลี่ยนหลอดใหม่เป็นหลอดกระดาษ และแคมเปญตอบคำถามแฟนพันธุ์แท้รับฟรีคูปอง 1 แถม 1

Positioning สอบถามไปยัง Starbucks ประเทศไทย ถึงกระแสการขึ้นราคาเครื่องดื่มและอาหาร ได้รับคำตอบว่า “มีการปรับราคาขึ้นจริงเป็นบางรายการ” เมนูละ 5 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นตามต้นทุนสินค้าและบริการตามปกติ โดย Starbucks ประเทศไทยไม่มีการปรับราคาขึ้นมานาน 2 ปีครึ่ง

จากการตรวจสอบเมนูในร้าน Starbucks โดยตรงพบว่าเครื่องดื่มที่ปรับขึ้นราคาคือเครื่องดื่มร้อนและเย็น ส่วนเมนูปั่นยังราคาคงเดิม และเบเกอรี่ยังคงราคาเดิมเช่นกัน

Starbucks-ขึ้นราคา-01
เมนู Starbucks ณ วันที่ 6 มกราคม 2563
Starbucks-ขึ้นราคา-02
เมนู Starbucks ณ วันที่ 6 มกราคม 2563

ทั้งนี้ วันนี้ (6 มกราคม 2563) ยังเป็นวันดีเดย์ของ Starbucks ในการเปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษทดแทนหลอดพลาสติกด้วย อาจเป็นไปได้ว่า การเปลี่ยนวัสดุคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากปกติแล้วหลอดกระดาษจะมีราคาแพงกว่าหลอดพลาสติกประมาณ 20-30%

ในวันเดียวกัน Starbucks ยังเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ Starbucks Fun Quiz ตอบคำถามออนไลน์ 3 ข้อเพื่อรับคูปองเครื่องดื่ม 1 แถม 1 จำนวน 4 ใบ โดยร่วมกิจกรรมได้ไม่จำกัดระหว่างวันที่ 6-12 มกราคม 2563 แต่สามารถนำคูปองไปใช้ได้เฉพาะเวลา 14.00-24.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างวันที่ 6-24 มกราคม 2563 โดยมีลูกค้าสนใจร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

อ่านเพิ่มเติม

]]>
1259511
คอทองแดง-ชาเขียว กระอัก เมื่อสินค้าตบเท้าขยับราคาขายขึ้น https://positioningmag.com/1143219 Thu, 12 Oct 2017 05:19:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1143219 หลังการปรับโครงสร้างและประกาศพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรสามิต พ.ศ. 2560 เชื่อว่ามีธุรกิจที่ได้รับ “ผลกระทบ” ในเชิงบวกและเชิงลบต่อ “ต้นทุนสินค้าและบริการ” ไม่มากก็น้อย

ที่ผ่านมาอาจได้เห็นกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท “เบียร์” อย่างแบรนด์ “ไฮเนเก้น” ประกาศปรับลดราคาลง ในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยขวดประมาณ 630 มิลลิลิตร ลดลง 1-3 บาทต่อขวด ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มสุราของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ก็มีการปรับขึ้นราคาขายแล้ว โดยเฉพาะช่องทางเอเย่นต์ ยี่ปั๊วซาปั๊ว ขณะที่ฟากบุหรี่นอกได้รับผลกระทบเยอะ แต่ก็ยังไม่มีการประกาศจากบริษัทถึงการปรับ “ราคาขายปลีก” จะว่าเป็นไปในทิศทางอย่างไร

อีกหนึ่งกลุ่มที่กระเทือน เห็นจะเป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเภท “ชาเขียว” ซึ่งเดิมเป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้นการเสียภาษีสรรพสามิต เนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องการช่วยเหลือภาคการเกษตรของไทย แต่เมื่อโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ออกมา รวมถึงการจัดเก็บ “ภาษีความหวาน” ด้วย และถึงแม้จะให้ผู้ประกอบการปรับตัวปรับสูตรลดน้ำตาลในช่วง ปี แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มกลุ่มชาจะต้องเสียภาษีเลยก็คือ “ภาษีสรรพสามิต”

ดังนั้น จึงทำให้มีผู้ประกอบการจ่อขยับราคาขายสินค้าเครื่องดื่มขึ้น โดยล่าสุดที่ประกาศออกมาชัดคือแบรนด์ “ฟูจิชะ” และจะขึ้นราคาถึง บาท จากเดิมราคาขายปลีกชาเขียวอยู่ที่ 25 บาท จะเพิ่มเป็น 30 บาทต่อขวด

ชมพูนุท ตั้งเจริญมั่นคง” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฟูจิ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มฟูจิชะ ให้เหตุผลว่า การปรับขึ้นราคาขายปลีกชาเขียวพร้อมดื่มฟูจิชะเป็น 30 บาท จาก 25 บาท มีสาเหตุจากมาตรการการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตของรัฐบาลโดยตรง จากเดิมกลุ่มเครื่องดื่มชาและกาแฟ เป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับการปรับขึ้นราคาขายปลีกครั้งนี้ จะขึ้นในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย ทั้งภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นฟูจิ ช่องทางโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ ภายใต้ราคาขายเดียวกัน 30 บาท ซึ่งช่องทางเหล่านั้นราคาขายใหม่มีผลตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนบางช่องทาง เช่น กูร์เมต์ มาร์เก็ต ยังเป็นสินค้าสต๊อกเดิม ทำให้ราคาใหม่จะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปรับขึ้นราคาขายปลีกดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการทำตลาดอย่างแน่นอน แต่จะเป็นแค่ระยะแรกหลังการปรับเท่านั้น และผลกระทบก็คงไม่มากนัก เพราะหากมองกลุ่มเป้าหมายที่ดื่มชาเขียวฟูจิชะ จะเป็นตลาดบนที่มีกำลังซื้อ

ชมพูนุท ยังบอกด้วยว่า การปรับขึ้นราคาครั้งนี้ถือเป็นความจำเป็นด้านภาระต้นทุนทางด้านภาษี จึงไม่ได้ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

“บริษัทไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะด้วยต้นทุนของวัตถุดิบ ซึ่งเป็นชาเขียวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีการปรับราคาขึ้นมาตลอดระยะเวลา 12 ปี และทางบริษัทไม่เคยปรับราคาขึ้นเลย จนกระทั่งมีการปรับเรื่องการจัดเก็บภาษีใหม่จากรัฐบาลเราจึงมีความจำเป็นต้องปรับราคาขึ้น”

สิ่งที่น่าจับตาในระยะสั้น คงหนีไม่พ้นผลกระทบด้านยอดขาย ว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร และต้องยอมรับว่าปลายปีคือช่วง “ไฮซีซั่น” ของการจับจ่ายใช้สอยสินค้าทุกๆ รายการ

อีกมุมคือ ขณะนี้ยังไม่เห็นมีผู้ประกอบการเครื่องดื่มชาและกาแฟรายอื่น ประกาศอย่างเป็นทางการถึงนโยบาย “ราคาสินค้า” ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เพราะผู้เล่นในตลาดนี้ล้วนเป็น “รายใหญ่” ไม่ว่าจะเป็นโออิชิ อิชิตัน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในงานแถลงไทยเบฟ เอ็กซ์โป ทางผู้บริหารโออิชิ ให้ข้อมูลว่าบริษัทยังไม่มีแผนในการปรับขึ้นราคาขายสินค้าแต่อย่างใด

]]>
1143219