สินค้าจีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 26 Sep 2021 12:17:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Unicharm ชูจุดขาย Made in Japan เเข่งสินค้าจีน เพิ่มยอดส่งออกตลาดเอเชีย-ไทย เท่าตัว https://positioningmag.com/1353420 Sun, 26 Sep 2021 09:56:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1353420 ‘Unicharm’ เดินเกมเเข่งสินค้าจีน ชูจุดขาย ‘Made in Japan’ ปรับยอดส่งออกหน้ากากอนามัย เพิ่มเป็นเท่าตัว ภายในปี 2023 รับความต้องการในเอเชียพุ่ง จับกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในไทย อินโดฯ เเละเวียดนาม

Nikkei Asia รายงานว่า Unicharm (ยูนิชาร์ม) เเบรนด์ผู้ผลิตของใช้ส่วนบุคคลจากญี่ปุ่น ที่มีสินค้าติดตลาดอย่างหน้ากากอนามัย ผ้าอนามัย เเละผ้าอ้อม ฯลฯ มีเเผนจะเพิ่มการส่งออกเป็นเท่าตัว ไปยังตลาดเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม พร้อมจะขยายตลาดในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีรายได้สูง

ที่ผ่านมา บริษัทจัดจำหน่ายหน้ากากอนามัยรุ่น Cho-Kaiteki และ Cho-Rittai 3D Mask ได้ถึง 1.3 พันล้านชิ้นในปีที่แล้ว เเละมีการวางขายในต่างประเทศประมาณ 10% โดยส่วนใหญ่ผลิตในญี่ปุ่น

สำหรับกลยุทธ์เพื่อชิงตลาดครั้งนี้ Unicharm จะมีการปรับแพ็กเกจใหม่ ขยายโลโก้ Made in Japan ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพื่อชูจุดเเข็งจากชื่อเสียงคุณภาพสินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่น ดีไซน์ให้สวมใส่สบาย เน้นการป้องกันมลพิษเเละโควิด-19 ไปพร้อมๆ กัน

หน้ากากอนามัยของ Unicharm เเพงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาดเอเชียอื่นๆ ถึง 5 เท่า โดยบริษัทมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางสูง ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยในเขตเมือง

ความต้องการสวมใส่หน้ากากที่มีคุณภาพสูงยังมีอยู่มาก แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตามตัวแทนของบริษัทระบุ

ก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด บริษัทพยายามจะทำตลาดหน้ากากอนามัยในต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ เเละตอนนี้ได้ผู้บริโภคก็หันมาสวมหน้ากากอนามัย ด้วยความจำเป็นที่ต้องป้องกันไวรัส

โดยในปีที่แล้ว Unicharm เปิดให้โรงงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นเเละเริ่มติดตั้งเครื่องจักรเเละอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับส่งออกไปต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในตลาดอินโดนีเซียและไทย Unicharm ครองส่วนแบ่งสูงสุดในกลุ่มผ้าอ้อมเด็กเเละผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยของผู้หญิง

ล่าสุด Unicharm ได้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย เป็น 1.4 ล้านล้านเยน หรือเพิ่มอีกกว่า อีก 90% ภายในปี 2030 ซึ่งรายได้จากการส่งออกจะมีสัดส่วนมากถึง 70% ทำให้ต้องเร่งพัฒนาเพื่อเเข่งขันในตลาดนี้ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการชิงตลาดกับสินค้าที่ราคาถูกกว่ากับจีน

โดยแม้ดีมานด์ของหน้ากากอนามัยในทั่วโลกในช่วงโรคระบาดจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เเต่ส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ยังตกอยู่เป็นของสินค้าจากจีน

ข้อมูลของบริษัทวิจัย Euromonitor และหน่วยงานส่งออกของญี่ปุ่น ระบุว่า ปี 2020 ตลาดหน้ากากอนามัยทั่วโลกเติบโต 3 เท่า ส่วนในอาเซียนโตขึ้นถึง 5 เท่า โดยสินค้าจากจีนครองส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเป็น 74% จากเดิม 39%

 

ที่มา : Nikkei Asia 

]]>
1353420
ชาวจีนเเห่ซื้อ ‘เเบรนด์จีน’ หลังกระเเสเเบนสินค้าต่างชาติ กำลังเป็น ‘โอกาสทอง’ ของนักลงทุน https://positioningmag.com/1339941 Wed, 30 Jun 2021 12:16:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1339941 เเบรนด์จีนกำลังได้รับความนิยมจากเหล่านักช้อปในประเทศ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนหมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อผู้บริโภคหันมาอุดหนุนสินค้าท้องถิ่น หลังกระแสต่อต้านแบรนด์ต่างชาติ 

อานิสงส์การช้อปปิ้งออนไลน์ที่พุ่งสูงขึ้น หลังผู้คนต้องถูกจำกัดการเดินทางในช่วงโรคระบาด อีคอมเมิร์ซที่สะดวกสบายเเละการขนส่งที่รวดเร็ว มีส่วนกระตุ้นความต้องการของแบรนด์ท้องถิ่นด้วย

นักศึกษาชาวจีนวัย 19 ปี ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า “เมื่อคุณลองใช้ จะพบว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นนั้น ดีพอๆ กับผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ” โดยเธอเลือกใช้อายแชโดว์ของ Carslan และรองเท้าผ้าใบของ Feiyue ทานขนม Bestore Co และมีเครื่องใช้ในบ้านที่ซื้อจาก Miniso

Maia Active เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสปอร์ตเเวร์ของจีน ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทลงทุนใหญ่อย่าง Sequoia Capital ระบุว่า สินค้าของแบรนด์ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงเอเชียโดยเฉพาะ ทำให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในพื้นที่มากกว่าแบรนด์จากตะวันตก

จากความต้องการที่มากขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้ปีนี้นักลงทุนเลือกทุ่มเงินให้กับแบรนด์ที่เจาะผู้บริโภคในท้องถิ่น

ตามรายงานของ Cygnus Equity ชี้ให้เห็นว่า บริษัทผู้ผลิตสินค้าสำหรับผู้บริโภคในจีน สามารถระดมทุนได้มากถึง 6.97 หมื่นล้านหยวน (ราว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากนักลงทุนในตลาดแรก (Primary Market) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า

โดยแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับความงาม อาหาร และเครื่องดื่ม เป็นที่นิยมมากที่สุด ขณะที่แบรนด์ Hot Pot (หม้อไฟ) และราเมน ก็กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก

ปัจจุบันมีแบรนด์จีนมากถึง 200 แบรนด์ กำลังมองหาเงินทุนใหม่จากนักลงทุน Ming Jin หุ้นส่วนผู้จัดการของ Cygnus กล่าว

Genki Forest แบรนด์น้ำอัดลมที่ได้รับการสนับสนุนจาก Sequoia กล่าวว่าบริษัทมีมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ หลังการระดมทุนในเดือนเม.. ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่า 18 เดือนก่อนหน้านี้ถึงสิบเท่า

การระดมทุนในจีน ดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ของโลกอย่าง LVMH เจ้าของเเบรนด์ Louis Vuitton และ Temasek จากสิงคโปร์

จีนเป็นตลาดที่ง่ายที่สุดในการสร้างยอดขายจากศูนย์ให้ไปเป้าหมาย 100 ล้านหยวนนักลงทุนคนหนึ่งบอกกับ Reuters

ช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีน ‘JD.Com’ ในเดือนนี้ พบว่า ยอดขายของแบรนด์จีนเติบโตขึ้นถึง 4% เมื่อเทียบกับแบรนด์ต่างประเทศ เเละการเติบโตของจำนวนลูกค้าก็สูงกว่าแบรนด์ต่างประเทศถึง 16%

Chris Mulliken จากบริษัทที่ปรึกษา EY ให้ความเห็นว่า ความชาตินิยมเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เเบรนด์ท้องถิ่นในจีนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รวมถึงความภูมิใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจากโควิด-19 ขณะที่ประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศยังต้องต่อสู้กับอัตราการติดเชื้อที่สูง

บวกกับกระแสการต่อต้านฝ้ายซินเจียงจากแบรนด์ใหญ่ฝั่งตะวันตก อย่าง H&M , Nike และ Adidas ที่มีความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนของเเรงงานก็ทำให้ลูกค้าชาวจีนไม่พอใจกับคำกล่าวหา ก็มีส่วนทำให้ชาวจีนบางส่วนตอบโต้ด้วยการหันไปซื้อของจากเเบรนด์ในประเทศมากขึ้น

 

ที่มา : Reuters 

]]>
1339941
เปิด 10 กลยุทธ์ “หัวเว่ย” ดันแบรนด์จีนชิงตลาดนอกเแดนมังกร https://positioningmag.com/1150768 Mon, 18 Dec 2017 09:28:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1150768 ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายปีที่ผ่านมา “สินค้าจีน” ตีตลาดไปแล้วทั่วโลก และมีหลายแบรนด์ที่ “ผงาด” อยู่ “แนวหน้า” หนึ่งในนั้นคือสินค้าเทคโนโลยี “สมาร์ทโฟน” มียี่ห้อ “HUAWEI” หรือ หัวเว่ย ที่ก้าวเป็นเบอร์ 2 ของโลก ไล่หลังเบอร์ 1 อย่างซัมซุง และแซง iPhone ได้ช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา มือถือมีส่วนแบ่งทางการตลาดในโลก 11.3% ขึ้นจาก 9.9% มีรายได้ทั่วโลก 75,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนในประเทศไทยครึ่งปีแรก มีรายได้เชิงมูลค่าเติบโต 400% ยอดขายเชิงปริมาณของมือถือโต 720% หรือราว 7 เท่าตัว มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10.7% จาก 1.2% ภายในปี 2563 HUAWEI ตั้งเป้าเป็นเบอร์ ให้ได้ การจะไปถึงตรงนั้น Positioning พาไปดูโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนหัวเว่ย (HUAWEI Manufacturing Center) ที่เมืองตงก่วน (Dongguan) ตลอดจนสำนักงานใหญ่หัวเว่ย (HUAWEI HQ) ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

1. โรงงานที่เมืองตงก่วน มีกำลังการผลิตสมาร์ทโฟนระดับ Hi-end จำนวน 1.3 ล้านเครื่องต่อเดือน

2. ใน ไลน์การผลิตสมาร์ทโฟน จะใช้คน 26 คน ผลิตสินค้าได้ 2,600 เครื่องต่อวัน

3. กระบวนการผลิตสมาร์ทโฟนในส่วนที่ประกอบตัวเครื่อง ยังใช้แรงงานคนแทนเครื่องจักร เนื่องจากการทำงานที่ซับซ้อนบางอย่าง คนมีประสิทธิภาพกว่าเครื่องจักร เช่นเดียวกับการทดสอบคุณภาพเครื่องครั้งสุดท้าย (Final Test) ทั้งระบบเสียง หน้าจอ จะใช้คนดำเนินการ

4. การทดสอบสมาร์ทโฟน จะเกิดขึ้น ส่วน ได้แก่

  • 4.1 ส่วนที่เป็น Testing Lab เมื่อดีไซน์ผลิตภัณฑ์แล้วจะต้องทดสอบคุณภาพ ความคงของเครื่องรอบด้าน เช่น การตกกระแทก (Drop Test) ทุกมุมความสูง เมตร เฉลี่ย 1,000 ครั้ง และสูงสุดจนกว่าเครื่องจะมีปัญหา, การทดสอบ Adapter เฉลี่ย 10,000 ครั้ง และขั้นสูงเพื่อเก็บสถิติระยะเวลานานแค่ไหนจนกว่ามือถือจะพัง 
  • 4.2 การทดสอบในกระบวนการผลิตสินค้าจริง
Testing lab หัวเว่ยที่สำนักงานใหญ่ เมืองเซินเจิ้น

วิดีโอการตกกระแทกสมาร์ทโฟนความสูง เมตร จำนวน 1,000 ครั้ง

5. เทรนด์ของสมาร์ทโฟนในอนาคต หัวเว่ย มองเป็นยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI สำหรับผู้บริโภคทุกคน 

6. เทคโนโลยี AI จะกลายเป็นเสมือนผู้ช่วยของผู้บริโภคในอนาคตมากขึ้น และนำไปสู่การ “ลดช่องว่าง” ระหว่างความเป็นมืออาชีพในหลายด้าน เช่น ผู้ที่เล่นกีฬาเก่ง แต่ถ่ายรูปไม่สวย AI จะทำหน้าที่คำนวณ โฟกัสการถ่ายรูป การกำหนดชัตเตอร์สปีด รูรับแสง (F) และอีกหลายอย่างแทนคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. ด้านการทำตลาดสมาร์ทโฟน บริษัทจะเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถาม Why หรือทำไม มากขึ้น เพื่อให้แบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้สูงสุด จากที่ผ่านมาแบรนด์จะเริ่มจากการขายอะไร What และสินค้ามีดียังไง How นับเป็นการมองจากมุมผู้บริโภคกลับเข้ามายังแบรนด์ หรือ Outside in มากกว่า Inside out

8. ความเชื่อเรื่องสินค้าแบรนด์จากจีน ไม่พรีเมี่ยม นวัตกรรมยังไม่เทียบเท่าฝั่งตะวันตก หน้าที่ของหัวเว่ยคือการส่งมอบสินค้าและบริการ ตลอดจนประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น สุดท้ายให้ “สินค้าป็นตัวตัดสินใจเอง” และปัจจุบันแบรนด์จีนจำนวนมากพิสูจน์ว่ามียอดขายเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนการยอมรับจากตลาดและผู้บริโภคดีขึ้น

Huawei Industry Solutions Exhibition Briefing Center ณ สำนักงานใหญ่

9. บริษัทมีการจดสิทธิบัตรแผนการพัฒนาสินค้าและบริการไว้ 62,000 แบบทั่วโลก เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

Enterprise ICT Solutions Exhibition Hall ณ สำนักงานใหญ่หัวเว่ย

10. หัวเว่ย เน้นกลยุทธ์ผนึกพันธมิตรเพื่อชนะในการเสริมแกร่งให้ธุรกิจ เช่น PORSCHE DESIGN กล้อง Leica ผลิตสินค้าตอบสนองความต้องการผู้บริโภคและทำให้เหนือคู่แข่ง หวัง Win-Win-Win 3 ฝ่ายร่วมกัน ได้แก่ บริษัท, พันธมิตร คู่ค้า และสุดท้ายผู้บริโภค

]]> 1150768