เวียนนา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 27 Jun 2024 14:33:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จัดอันดับ 10 “เมืองน่าอยู่” ที่สุดในโลกปี 2024 “เวียนนา” คว้าแชมป์ต่อเนื่อง “โอซาก้า” ติดที่ 9 https://positioningmag.com/1480096 Thu, 27 Jun 2024 10:14:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1480096 EIU เปิดผลสำรวจดัชนี “เมืองน่าอยู่” ที่สุดในโลกปี 2024 “เวียนนา” เมืองหลวงออสเตรียยังคว้าแชมป์ต่อเนื่อง “โอซาก้า” ติดอันดับ 9 ปีนี้หลายเมืองในเอเชียแปซิฟิก เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์, โฮจิมินห์ ซิตี้ ทำคะแนนดีขึ้นมาก ขณะที่ยุโรปตะวันตกคะแนนร่วงเพราะปัญหาการประท้วง แคนาดาออสเตรเลียเผชิญปัญหาราคาบ้านพุ่งทะยาน

การสำรวจ ดัชนี “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก (Global Livability Index) โดย EIU (The Economist Intelligence Unit) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยสำรวจใน 173 เมืองทั่วโลก และคำนวณจากปัจจัย 5 หัวข้อหลัก ได้แก่

  • เสถียรภาพและความมั่นคงในชีวิตเช่น อัตราอาชญากรรม, ความเสี่ยงจากสงคราม, ความขัดแย้งทางการทหาร
  • สาธารณสุขเช่น ระบบสาธารณสุขของรัฐ, ระบบสาธารณสุขเอกชน, การเข้าถึงยาผ่านร้านขายยา
  • วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเช่น ภูมิอากาศ, อัตราการคอร์รัปชัน, ข้อบังคับทางสังคมหรือศาสนา, การเข้าถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬา, อาหารและเครื่องดื่ม
  • การศึกษาเช่น ระบบการศึกษาของรัฐ, ระบบการศึกษาของเอกชน
  • โครงสร้างพื้นฐานเช่น คุณภาพของถนน, คุณภาพขนส่งมวลชน, คุณภาพบ้านพักอาศัย, คุณภาพประปา ไฟฟ้า และโทรคมนาคม

จากปัจจัยดังกล่าวที่ EIU ได้ประเมิน 10 อันดับแรก “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก ปี 2024 ได้แก่

อันดับ 1 เวียนนา ประเทศออสเตรีย
อันดับ 2 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
อันดับ 3 ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 4 เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 5 (ร่วม) คัลการี ประเทศแคนาดา
อันดับ 5 (ร่วม) เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 7 (ร่วม) ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 7 (ร่วม) แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
อันดับ 9 (ร่วม) โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
อันดับ 9 (ร่วม) โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

Photo : Shutterstock

ปัญหา “ประท้วง” ดึงคะแนนยุโรปตะวันตก

ไฮไลต์จาก EIU ปีนี้พบว่า ภาพรวมภูมิภาคที่เมืองโดยเฉลี่ยน่าอยู่ที่สุดในโลกยังคงเป็น “ยุโรปตะวันตก” อย่างไรก็ตาม มีหลายเมืองที่เริ่มเสียคะแนนเพราะปัญหาด้านเสถียรภาพ การประท้วงจำนวนมากดึงคะแนนในเยอรมนี ไอร์แลนด์ และเบลเยียมลงมามาก มีถึง 3 เมืองในเยอรมนีที่อันดับร่วงลงแรง ได้แก่ มิวนิค ฮัมบูร์ก และสตุ๊ตการ์ต

ขณะที่ภูมิภาคที่น่าอยู่รองลงมาคือ “อเมริกาเหนือ” แต่มีบางเมืองชั้นนำที่เสียคะแนนเพราะปัญหา “ราคาบ้าน” พุ่งทะยานขึ้นจนเอื้อมถึงยาก เช่น โตรอนโต แคนาดา ซึ่งปัญหาเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเมืองหลักในออสเตรเลีย คือ ซิดนีย์ และ เมลเบิร์น ด้วย ทำให้ทั้งสองเมืองอันดับตกลงมาแม้ว่าจะยังติดอยู่ในระดับ Top 10

 

ฮ่องกง-สิงคโปร์-โฮจิมินห์ ซิตี้ ทำอันดับพุ่งขึ้น

ด้านกลุ่มเมืองที่ทำคะแนนดีขึ้นและอันดับพุ่งขึ้นสูงมากที่สุดในรอบนี้ต้องจับตาทวีปเอเชียแปซิฟิก โดยมีเมืองที่มาแรงที่สุดคือ “ฮ่องกง” ปีนี้อยู่ในอันดับ 50 ของโลก ปรับขึ้นมาถึง 11 อันดับ ซึ่งเกิดจากการกลับมาควบคุมเสถียรภาพทางการเมืองได้ และสาธารณสุขที่ดีขึ้นหลังผ่านโควิด-19

Hong Kong skyline cityscape downtown skyscrapers over Victoria Harbour in the evening with junk tourist ferry boat on sunset with dramatic sky. Hong Kong, China

ขณะที่ “สิงคโปร์” ก็ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 26 ปรับขึ้นมา 8 อันดับ รวมถึง “โฮจิมินห์ ซิตี้” ของเวียดนามก็ขึ้นมาอยู่อันดับ 133 ของโลก ปรับขึ้นมาทีเดียว 7 อันดับ ทั้งสองมีจุดร่วมคือการปรับระบบสาธารณสุขและการศึกษาให้ดีขึ้น

ส่วนเมืองที่ทำอันดับตกต่ำร่วงลงแรงที่สุดหนีไม่พ้น “เทล อาวีฟ” เมืองหลวงของอิสราเอล จากการทำสงครามทำให้ความน่าอยู่ของเมืองตกไปอยู่อันดับ 112 ร่วงลงทีเดียว 20 อันดับ

สรุปของ EIU ระบุว่า ปีนี้ค่าเฉลี่ยเมืองน่าอยู่ทั่วโลกอยู่ที่ 76.1 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ปรับดีขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อยเท่านั้น เพราะทั่วโลกได้รับผลกระทบด้านภูมิรัฐศาสตร์ และหลายเมืองเกิดการประท้วง รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจยังทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาบ้านพุ่งสูงในหลายเมือง ซึ่งคาดว่าน่าจะทำให้ความน่าอยู่ของเมืองไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้

Source

]]>
1480096
“เวียนนา” คว้าสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ “Expat” ขณะที่ “กรุงเทพฯ” อยู่ในอันดับ 124 https://positioningmag.com/1455959 Sat, 16 Dec 2023 12:30:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455959 “Mercer” บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกจัดสำรวจ “สุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ Expat” โดยเก็บข้อมูลจาก 241 เมืองทั่วโลก ปี 2023 เมืองคว้าแชมป์ ได้แก่ “เวียนนา” ประเทศออสเตรีย ขณะที่ “กรุงเทพฯ” อยู่กลางตารางในอันดับ 124

Mercer จัดทำรายงาน “Quality of Living” สำรวจความเห็นจากพนักงานที่ถูกส่งไปประจำในต่างประเทศทั่วโลก หรือที่เราเรียกกันว่า “Expat” เพื่อจัดลำดับว่าเมืองใดที่ถือว่ามีคุณภาพชีวิตดีที่สุดและแย่ที่สุดสำหรับการส่งพนักงาน (และครอบครัว) ไปทำงานและอยู่อาศัย

ปัจจัยที่ Mercer ใช้ในการสำรวจประกอบด้วยหลายด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐานของเมือง, ระบบสาธารณสุข, ระบบการศึกษา, สภาพแวดล้อมทางสังคมวัฒนธรรม และความมั่นคงทางการเมือง

จาก 241 เมืองที่สำรวจในปี 2023 นี้ ปรากฏว่า “เวียนนา” เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย คือสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดี ด้วยมาตรฐานการอยู่อาศัยสูง พร้อมด้วยสิ่งแวดล้อมที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับสูงสุด

10 อันดับสุดยอดเมืองคุณภาพชีวิตดีสำหรับ Expat

อันดับ 1 เวียนนา ประเทศออสเตรีย

อันดับ 2 ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อันดับ 3 โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

อันดับ 4 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

อันดับ 5 เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

อันดับ 6 แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

อันดับ 7 มิวนิค ประเทศเยอรมนี

อันดับ 8 แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

อันดับ 9 ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

อันดับ 10 ดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี

เห็นได้ว่าใน 10 อันดับแรก มีถึง 7 เมืองที่อยู่ในภูมิภาคยุโรป และมี 2 เมืองที่มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ภูมิภาคอเมริกามีติดมาเพียง 1 เมืองเท่านั้น

โอ๊คแลนด์ เมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดสำหรับ Expat ในเอเชียแปซิฟิก

ส่วนท้ายตาราง 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 239 บังกี เมืองหลวงของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อันดับ 240 เมืองแบกแดด ประเทศอิรัก และ อันดับ 241 เมืองคาร์ทูม ประเทศซูดาน

ด้านประเทศไทยเรานั้นมี 1 เมืองที่ได้รับการสำรวจคือ “กรุงเทพฯ” คุณภาพชีวิตติดอยู่ในอันดับ 124 ส่วนค่าครองชีพติดอันดับ 113 ของโลก

 

“กัวลาลัมเปอร์” มาแรง คุณภาพชีวิตดี-ค่าครองชีพต่ำ

อย่างไรก็ตาม Mercer เข้าใจดีว่าคุณภาพชีวิตที่ดีในเมืองส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับค่าครองชีพที่สูงด้วยเช่นกัน แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางเมืองที่ถือว่า “คุณภาพชีวิตดีแต่มาพร้อมกับค่าครองชีพต่ำ”

ที่น่าสนใจ เช่น “โอ๊คแลนด์” ประเทศนิวซีแลนด์ คุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับ 3 ของโลก แต่ค่าครองชีพถือเป็นอันดับ 122 ของโลก หรือ “มอนทรีอัล” ประเทศแคนาดา คุณภาพชีวิตอยู่ในอันดับ 20 แต่ค่าครองชีพเป็นอันดับ 124

(Photo : Shutterstock)

ในกลุ่มข้อมูลนี้มีประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ติดโผ คือ “กัวลาลัมเปอร์” ประเทศมาเลเซีย เป็นเมืองคุณภาพชีวิตดีอันดับ 86 และค่าครองชีพถูกมองว่าต่ำถึงอันดับ 203 ของโลก

การจัดข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตกับค่าครองชีพนี้ Mercer ต้องการชี้ให้เห็นว่า บางครั้งบริษัทที่ต้องการขยายฐานธุรกิจไปยังต่างประเทศและส่งพนักงานไปประจำ รวมถึงกลุ่มดิจิทัล โนแมด/อาชีพที่ทำงานจากที่ใดก็ได้ในโลก ก็ต้องชั่งน้ำหนักทั้งคุณภาพชีวิตและค่าครองชีพที่เหมาะสมสอดคล้องกันด้วย

Source

]]>
1455959
หอมกลิ่นความเจริญ! 10 อันดับแรก “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก ปี 2023 https://positioningmag.com/1435446 Mon, 26 Jun 2023 09:19:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435446 Economist Intelligence Unit (EIU) เปิดผลสำรวจดัชนี “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดยเมือง 10 อันดับแรกในลิสต์นี้กระจายอยู่ใน 7 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรปและเอเชียแปซิฟิก ส่วนแชมป์อันดับ 1 ตกเป็นของ “เวียนนา” ประเทศออสเตรีย

การสำรวจ ดัชนี “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก (Global Livability Index) โดย EIU นั้นจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับปี 2023 นี้ถือเป็นปีที่ทั่วโลกฟื้นตัวจากโรคระบาดโดยสมบูรณ์แล้ว และมีการยกเลิกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไปเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ค่าเฉลี่ยความน่าอยู่ของทุกทวีปทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น

การจัดทำดัชนีเมืองน่าอยู่นี้ สำรวจใน 173 เมืองทั่วโลก และคำนวณจากปัจจัย 5 หัวข้อหลัก ได้แก่

  • เสถียรภาพและความมั่นคงในชีวิต เช่น อัตราอาชญากรรม, ความเสี่ยงจากสงคราม, ความขัดแย้งทางการทหาร
  • สาธารณสุข เช่น ระบบสาธารณสุขของรัฐ, ระบบสาธารณสุขเอกชน, การเข้าถึงยาผ่านร้านขายยา
  • วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น ภูมิอากาศ, อัตราการคอร์รัปชัน, ข้อบังคับทางสังคมหรือศาสนา, การเข้าถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมและกีฬา, อาหารและเครื่องดื่ม
  • การศึกษา เช่น ระบบการศึกษาของรัฐ, ระบบการศึกษาของเอกชน
  • โครงสร้างพื้นฐาน เช่น คุณภาพของถนน, คุณภาพขนส่งมวลชน, คุณภาพบ้านพักอาศัย, คุณภาพประปา ไฟฟ้า และโทรคมนาคม

จากปัจจัยดังกล่าวที่ EIU ได้ประเมิน 10 อันดับแรก “เมืองน่าอยู่” มากที่สุดในโลก ปี 2023 จึงได้แก่

อันดับ 1 เวียนนา ประเทศออสเตรีย
อันดับ 2 โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
อันดับ 3 เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 4 ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
อันดับ 5 แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
อันดับ 6 ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 7 คัลการี ประเทศแคนาดา
อันดับ 8 เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
อันดับ 9 โทรอนโต ประเทศแคนาดา
อันดับ 10 (ร่วม) โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และ โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์

กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรียนั้นเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยมากจากการมีปัจจัยที่ดีในทุกด้าน ทำให้เวียนนาเป็นเมืองน่าอยู่มากที่สุดในโลกถึง 8 ครั้ง จากการสำรวจ 10 ครั้งหลังสุด สิ่งเดียวที่เรียกได้ว่าเป็นข้อเสียของเวียนนาคือ ไม่มีสถานที่จัดงานแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ในเมือง

ออสเตรเลีย
หลายเมืองในออสเตรเลียทำคะแนนได้ดีขึ้นมากในดัชนีความน่าอยู่ของเมือง (Photo : Shutterstock)

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ปีนี้เมืองในกลุ่มเอเชียแปซิฟิกทำคะแนนได้ดีขึ้นมาก ทั้งเมืองในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ขยับดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเมลเบิร์น ซิดนีย์ เพิร์ธ โอ๊กแลนด์ หรือเวลลิงตัน รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเมืองที่ทำคะแนนได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย, ฮานอย ประเทศเวียดนาม, จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

ขณะที่บางเมืองในยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือร่วงลงจากอันดับบนๆ ของตาราง เช่น แฟรงก์เฟิร์ต, ประเทศเยอรมนี และ อัมสเตอร์ดัม, ประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมไปถึงหลายเมืองในสหราชอาณาจักร เช่น เอดินเบอห์ระ, แมนเชสเตอร์, ลอนดอน รวมไปถึงเมืองในสหรัฐฯ เช่น ลอสแอนเจลิส, ซานดิเอโก เนื่องจากการปรับปรุงพัฒนาเมืองไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่เมืองในเอเชียแปซิฟิกทำได้ดีขึ้นจนแซงหน้าไป

สำหรับเมืองที่อยู่ท้ายตารางในอันดับ 173 คือกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ขณะที่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน อยู่ในอันดับ 165 จากไฟสงครามที่ยังไม่สิ้นสุด

Source

]]>
1435446
‘เวียนนา’ ขึ้นแท่นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก กรุงเทพมหานคร อันดับที่ 98 https://positioningmag.com/1183272 Tue, 14 Aug 2018 08:14:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1183272 ภาพจาก : http://travel.catdumb.com/

กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ถูกยกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (world’s most liveable city) จากการจัดอันดับประจำปี ล้มแชมป์เก่าอย่างเมลเบิร์นที่รั้งตำแหน่งนี้มาถึง 7 ปีซ้อน 

นับเป็นครั้งแรกที่เมืองใหญ่ของยุโรปซิวแชมป์เมืองน่าอยู่ ตามผลการจัดอันดับรายปีของ The Economist Intelligence Unit (EIU) ซึ่งเก็บข้อมูลจาก 140 เมืองทั่วโลก โดยให้คะแนนจาก 0 ถึง 100 ตามเกณฑ์ต่างๆ เช่น มาตรฐานการครองชีพ, สถิติอาชญากรรม, การคมนาคมขนส่ง, การศึกษา, ระบบสาธารณสุข รวมไปถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ

เวียนนาได้คะแนน 99.1 ซึ่งถือว่าเกือบจะสมบูรณ์ไร้ที่ติ แซงหน้านครเมลเบิร์นของออสเตรเลียซึ่งตกไปอยู่อันดับที่ 2 ด้วยคะแนน 98.4 ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ นครโอซากาของญี่ปุ่น

ออสเตรเลียและแคนาดามีเมืองที่ติด 10 อันดับแรกอยู่ถึง 6 เมืองด้วยกัน ได้แก่ เมลเบิร์น (2), ซิดนีย์ (5), แอดิเลด (10), แคลการี (4), แวนคูเวอร์ (6) และโทรอนโต (7)

นักวิจัยชี้ว่า เมืองที่ได้คะแนนสูงสุดมักเป็นเมืองขนาดกลางที่อยู่ในประเทศร่ำรวย และประชากรไม่หนาแน่นมากนัก ซึ่งช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้มีโอกาสทำกิจกรรมสันทนาการโดยไม่นำไปสู่อาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น หรือปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ

6 เมืองของออสเตรเลียและแคนาดาซึ่งติดอันดับ Top 10 ล้วนมีประชากรอยู่ระหว่าง 3.2-4 คนต่อตารางกิโลเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก 58 คนต่อตารางกิโลเมตร

โอซากา (3) และโตเกียวซึ่งติดอันดับ 7 ร่วมกับโทรอนโตถือเป็นข้อยกเว้นสำหรับกฎนี้ เพราะมีประชากรหนาแน่นถึง 347 คนต่อตารางกิโลเมตร แต่ก็มีระบบขนส่งสาธารณะและมาตรฐานการครองชีพที่ดีมาเป็นตัวชดเชย

กรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์กรั้งอันดับ 9 ด้วยคะแนน 96.8 และเป็นเพียง 1 ใน 2 เมืองของยุโรปที่ติด 10 อันดับแรกในปีนี้

นักวิจัยระบุว่า เมืองหลวงที่เป็นศูนย์กลางการเงินอย่างปารีส (19), ลอนดอน (48) และนิวยอร์ก (57) มักตกเป็นเหยื่อความสำเร็จของตัวเองทั้งในด้านปัญหาอาชญากรรมและสาธารณูปโภคที่ไม่เพียงพอ

สำหรับ 5 เมืองที่ได้คะแนนเป็นที่โหล่ท้ายตาราง ได้แก่ ดามัสกัส ตามมาด้วยธากา, ลากอส, การาจี, พอร์ตมอร์สบี

สิงคโปร์รั้งเมืองน่าอยู่อันดับที่ 37 ของโลก และยังคงเป็นแชมป์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทำคะแนนด้านการพัฒนาระบบสาธารณสุขได้สูงถึง 100% ตามมาด้วยกรุงกัวลาลัมเปอร์ (78) และกรุงเทพมหานคร (98).

Source

]]>
1183272