จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์อาซาฮี ระบุว่า ชาวญี่ปุ่นผู้ตอบแบบสำรวจราว 1 ใน 3 ไม่เห็นด้วยกับการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกที่ปิดฉากลงเมื่อวานนี้ ขณะที่ 60% บอกว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ซูงะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป
เหล่านี้ส่งสัญญาณให้เห็นว่า การแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพนั้นล้มเหลวในเรื่องการ ‘เพิ่มเรตติ้ง’ ให้กับผู้นำญี่ปุ่น ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศที่พุ่งสูงขึ้นทะลุ 1 ล้านคน
สถานการณ์เช่นนี้ มีผลกระทบต่อ ‘ความหวัง’ ของพรรครัฐบาล ที่กำลังจะเตรียมตัวจะลงสนามแข่งเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
โดยผลสำรวจ ระบุว่า ความนิยมของนายกฯ ซูงะ ร่วงแตะ 28% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ารับตำแหน่งในเดือนก.ย. ปีก่อน
ผู้ตอบแบบสำรวจราว 56% บอกว่าการจัดโตเกียวโอลิมปิกได้ก็เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ขณะที่อีก 32% มองว่าเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
การกระจายฉีดวัคซีนที่ล่าช้า เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความนิยมของนายกฯ ซูงะถดถอยลงเรื่อยๆ ประกอบกับการเเพร่ระบาดระลอกใหม่ จากไวรัสกลายพันธุ์ ‘สายพันธุ์เดลตา’ ที่ติดต่อกันได้ง่ายเเละรุนเเรง ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ได้บดบังกระเเสการแข่งขันโอลิมปิก
อย่างไรก็ตาม ฝั่งนายกฯ ซูงะและคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ปฏิเสธมาตลอดว่าการจัดโอลิมปิกครั้งนี้ ไม่ได้มีส่วนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมียอดสะสมผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 1 ล้านราย ซึ่งระบาดอย่างหนักในกรุงโตเกียว และเริ่มแพร่ระบาดไปยังเมืองอื่นๆ โดยรัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายให้ผู้ที่มีอาการป่วยโควิดขั้นรุนแรง ถึงจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้เท่านั้น ขณะที่ประชากรกว่า 70% ของประเทศกำลังอยู่ภายใต้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
]]>
จากรายงานของสื่อท้องถิ่นอย่าง Nikkei ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ วางเเผนจะเปิดศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนป่องกันโควิด-19 แก่ประชาชนที่อาศัยเเละทำงานในกรุงโตเกียวและเมืองโอซาก้า
โดยศูนย์วัคซีนฯ ที่กำลังจะเปิดให้บริการในกรุงโตเกียวนั้น คาดว่าจะให้บริการได้เร็วที่สุดภายในภายในต้นเดือนพ.ค.นี้ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้สูงสุดประมาณ 10,000 คนต่อวัน
นอกจากนี้ กองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) จะสนับสนุนด้านบุคลากรการแพทย์ มาช่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 ในศูนย์ดังกล่าวด้วย
ทางการญี่ปุ่นกำลังพยายามสกัดการเเพร่ระบาดของไวรัสโตโรนาที่กลับมารุนเเรงอีกครั้ง โดยรัฐบาลกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึง ‘ความล่าช้า’ ในการกระจายวัคซีน ซึ่งส่วนใหญ่มีจัดการผ่านหน่วยงานเทศบาล
รายงานของ Reuters ระบุว่า ญี่ปุ่นเพิ่งเริ่มฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุในเดือนนี้ เเละขณะนี้มีพลเมืองที่ได้รับวัคซีนครบแล้วเพียง 1% ของประชากรทั้งประเทศที่มีอยู่เกือบ 126 ล้านคน เเละอีกเพียง 3 เดือนก็จะถึงวันเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวด้วย
รัฐบาลคาดว่าจะมีวัคซีนเพียงพอฉีดให้กับ ‘ทุกคนที่มีสิทธิ์’ ภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ หลังได้เจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่อย่าง Pfizer เพื่อสั่งวัคซีนเพิ่มเติม
รายงานข่าวระบุว่า ญี่ปุ่นจะได้รับวัคซีนจาก Pfizer จำนวน 144 ล้านโดส และจาก Moderna อีกราว 50 ล้านโดส คาดว่าจะเพียงพอสำหรับฉีดให้กับประชาชนราว 110 ล้านคนในญี่ปุ่นที่อายุ 16 ปีขึ้นไป
ล่าสุดญี่ปุ่นมียอดผู้ติดเชื้อสะสมราว 5.5 เเสนคน มียอดเสียชีวิต 9,760 คน โดยพื้นที่ในโตเกียว โอซาก้า เกียวโต และเฮียวโงะ เริ่มใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 3 ในวันนี้ไปจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม รวม 17 วัน ซึ่งมีมาตรการสั่งปิดร้านอาหารที่เสิร์ฟแอลกอฮอล์ ร้านคาราโอเกะเเละโรงภาพยนตร์เป็นการชั่วคราว
ส่วนห้างสรรพสินค้า ยังสามารถเปิดได้เฉพาะส่วนขายอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่รถโดยสารสาธารณะจะปิดให้บริการเร็วขึ้นในวันทำงาน และมีการปรับลดเที่ยวบริการในช่วงวันหยุด
]]>
ฮิโรฟูมิ โยชิมูระ ผู้ว่าการจังหวัดโอซาก้า กล่าวว่าจะร้องขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินในจังหวัดโอซาก้า หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดโอซาก้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีมากกว่า 1,000 คน ต่อเนื่องกัน 6 วัน ส่วนในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน ซึ่งปกติจะมีผลตรวจน้อยหลังจากหยุดสุดสัปดาห์ ก็ยังมีผู้ติดเชื้อมากถึง 719 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของจังหวัดโอซาก้าสำหรับวันจันทร์
ระบบการรักษาพยาบาลในจังหวัดโอซาก้ากำลังรับภาระหนักอย่างยิ่ง เตียงผู้ป่วยกำลังจะเต็มล้น จนต้องขอให้จังหวัดชิงะซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันช่วยรับผู้ป่วย ส่งเจ้าหน้าที่พยาบาล และให้การสนับสนุนอื่น ๆ
จังหวัดรอบข้างโอซาก้า คือ เกียวโต นารา โกเบ ก็มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้คนเดินทางข้ามพื้นที่กันอยู่เป็นประจำ
ทางด้านกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ก็บอกว่าจะเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งใหม่เช่นกัน กรุงโตเกียวยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 405 คนในวันจันทร์ที่ 19 เมษายน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 99 คน และเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือนที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันจันทร์สูงกว่า 400 คน
ผู้ว่าการกรุงโตเกียวแสดงความกังวลที่ผู้คนวัยหนุ่มสาวจำนวนมากยังคงออกไปในย่านที่พลุกพล่าน 42% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงโตเกียวเป็นผู้คนในช่วงอายุ 20-29 ปี และ 30-39 ปี
ทางการจังหวัดโอซาก้าจะประชุมเพื่อยื่นขอต่อรัฐบาลให้ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันที่ 20 เม.ย. ส่วนกรุงโตเกียวจะสรุปเรื่องนี้ในวันที่ 22 เม.ย.
ทั้ง 2 จังหวัดจะขอให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิมในการประกาศภาวะฉุกเฉินรอบนี้ คือ ให้ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก สถานบันเทิง ปิดทำการทั้งหมด มาตรการนี้แตกต่างจากภาวะฉุกเฉินครั้งก่อนหน้า และ “มาตรการควบคุมพิเศษ” ที่ใช้ในขณะนี้ ที่ให้ธุรกิจต่าง ๆ ลดเวลาทำการ ปิดในเวลา 20.00-21.00 น.
จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในญี่ปุ่นขณะนี้มากเป็นประวัติการณ์ยิ่งกว่าครั้งใด ผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มวันละกว่า 3,000 คน แต่มีผู้เสียชีวิตที่เคยน้อย ขณะนี้มีถึงวันละราว 30 คน และที่สำคัญคือ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นไวรัสกลายพันธุ์แบบอังกฤษ ที่แพร่ระบาดง่ายกว่าเดิมราว 1.7 เท่าตัว
หากรัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 นี่จะเป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกมีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ปีที่แล้ว ส่วนครั้งที่ 2 มีขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปีนี้
]]>สถานการณ์โรคระบาดใหญ่ทำให้การแข่งขันโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ถูกเลื่อนออกมา 1 ปี เป็นช่วงวันที่ 23 ก.ค. – 8 ส.ค. ปีนี้ ตามมาด้วยการแข่งขันพาราลิมปิกระหว่างวันที่ 24 ส.ค. – 5 ก.ย. ซึ่งก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ระบุว่า รัฐบาลและคณะผู้จัดการแข่งขันจะร่วมหารือและตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องผู้ชมภายในสิ้นเดือน มี.ค.
ล่าสุด แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า การเปิดประเทศเพื่อต้อนรับผู้ชมกีฬาจากต่างชาติยังเป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ เนื่องจากคนญี่ปุ่นยังหวาดกลัวว่าสถานการณ์โรคระบาดจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในหลายๆ ประเทศ
สำนักข่าวเกียวโดซึ่งออกมาแพลมเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวระบุด้วยว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 มี.ค. ก็จะถูกจัดแบบไม่มีผู้เข้าชมเช่นกัน
“คณะผู้จัดการแข่งขันได้ตัดสินใจแล้วว่า พิธีวิ่งคบเพลิงซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดฟูกูชิมะ จำเป็นจะต้องจัดแบบปิด และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญบางคนเข้าร่วมงานเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดการรวมคนหมู่มากในช่วงโรคระบาด” สำนักข่าวเกียวโดอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
คณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิก ระบุว่า การตัดสินใจจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สถานการณ์ COVID-19 ทั้งในญี่ปุ่น และต่างประเทศ รวมถึงมาตรการควบคุมโรคและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
จากตัวเลขคาดการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ธ.ค. ระบุว่า ยอดขายตั๋วเข้าชมจะสร้างรายได้ให้แก่คณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกได้ประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12% ของงบประมาณที่ใช้ และจากการแข่งขันในอดีตที่ผ่านมา พบว่า ยอดขายตั๋วในประเทศเจ้าภาพเองคิดเป็นสัดส่วน 70-80%
ผลสำรวจล่าสุดของหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุน พบว่า ชาวญี่ปุ่น 77% ไม่ต้องการให้รัฐบาลเปิดรับชาวต่างชาติเข้าชมการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เชื้อ COVID-19 กลับมาระบาดหนักซ้ำอีก โดยมีเพียง 18% เท่านั้นที่สนับสนุน
ผลสำรวจยังพบด้วยว่า คนญี่ปุ่น 48% ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีผู้ชมภายในสนามแข่งขัน ทว่า ผู้ที่สนับสนุนก็มีจำนวนใกล้เคียงกัน คืออยู่ที่ 45%
]]>จากข้อจำกัดด้านบุคลากรและทรัพยากรของโรงพยาบาลรัฐในญี่ปุ่น ทำให้มีการตรวจหา COVID-19 เเบบ Polymerase Chain Reaction (PCR) ทำได้เพียง 4 หมื่นครั้งต่อวัน ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร เเละต้องตรวจเฉพาะผู้ที่มีอาการบ่งชี้หรือมีโอกาสติดเชื้อสูง
เหล่านี้ทำให้ประชาชนต้องหันไปพึ่งพาคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงซื้อชุดตรวจ PCR ด้วยตนเอง
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเเห่ง ‘ตู้ขายของอัตโนมัติ’ หรือ Vending Machine โดยมีติดตั้งอยู่ทั่วประเทศถึง 4.1 ล้านเครื่อง
‘Lake Town Takenoko’ โรงพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูก มองเห็นโอกาสนี้จึงวางขายชุดตรวจ COVID-19 แบบ PCR ตามตู้ขายของอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปตรวจที่คลินิกที่มีผู้คนหนาแน่นหรือต้องรอการนัดหมาย
It is perhaps the world capital of vending machines and now Japan's many automated vendors have a new product to offer: virus testing kits https://t.co/XRshxTEdpU pic.twitter.com/qrI42XpQgk
— Reuters (@Reuters) March 8, 2021
โดยตู้ขายของอัตโนมัติเเต่ละเครื่องจะมี ชุดตรวจ COVID-19 ประมาณ 60 ชุด วางขายในราคา 4,500 เยน (ราว 1,200 บาท) ภายในชุดตรวจ จะมีอุปกรณ์ ‘เก็บตัวอย่างน้ำลาย’ พร้อมคำเเนะนำเเละวิธีใช้อย่างละเอียด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที
เมื่อผู้ซื้อทำตามขั้นตอนเก็บตัวอย่างเรียบร้อยเเล้ว ให้นำตัวอย่างน้ำลายใส่ไปในบรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้ พร้อมระบุอีเมลของตัวเอง ส่งชุดตรวจไปให้โรงพยาบาลทางไปรษณีย์ เเละจะรู้ผลทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง หลังชุดจรวจมาถึงโรงพยาบาลเเล้ว
โดยหลังจากเริ่มวางขาย 7 เครื่องทั่วกรุงโตเกียว ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน ในช่วงเเรกมีบางเครื่องถึงต้องนำชุดตรวจมาเติมถึง 2 ครั้งต่อวัน จากนั้นความต้องการของตลาดก็ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อลดลง
ล่าสุด ยอดผู้ป่วยใหม่ในกรุงโตเกียวมีจำนวนเฉลี่ยราว 250 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ลดลงมากเมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือนมกราคม ที่มีมากกว่า 2,000 ราย
นอกจากการวางขายชุดตรวจ COVID-19 แบบ PCR ตามตู้ขายของอัตโนมัติเเล้ว ญี่ปุ่นยังเพิ่มการเข้าถึงการตรวจของประชาชน โดยให้มีการวางขายตามร้านขายยาทั่วไปหรือสั่งซื้อได้ทางออนไลน์
ที่มา : Reuters , Japantimes
]]>บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลโตเกียววางแผนที่จะให้ภูมิคุ้มกันโรค COVID-19 แก่ประชาชนจำนวน 50 ล้านคนที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมไปถึงผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่การแพทย์ภายในเมษายนนี้ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์โยชิอูริของญี่ปุ่นโดยอ้างจากแหล่งข่าวหลายปาก
ทั้งนี้ญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเปิดการแจกวัคซีน COVID-19 แก่คนทั่วไปได้อย่างเร็วสุดในพฤษภาคมนี้โดยขึ้นอยู่กับจำนวนโดสวัคซีนที่มี
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อบลูมเบิร์กได้ติดต่อกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นกลับไม่ได้รับการยืนยันในรายงานนี้ โดยหัวหน้าเลขาคณะครม.ญี่ปุ่นคนใหม่ คัตซึโนบุ คาโต (Katsunobu Kato) แถลงวันพุธที่ 20 ม.ค. ว่า รัฐบาลนายกรัฐมนตรี โยชิฮิเดะ ซูงะ ไม่สามารถประกาศกำหนดการได้ก่อนที่ญี่ปุ่นจะอนุมัติวัคซีน
ทาโร คาโน (Taro Kono) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากซูงะให้เป็นรัฐมนตรีดูแลการแจกจ่ายวัคซีน COVID-19 ของญี่ปุ่นกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “พวกหนังสือพิมพ์ต่างรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวรัฐบาลแต่พวกเขาเหล่านี้ไม่พบอะไรและเป็นแค่การคาดหวัง คงจะดีกว่าหากไม่เชื่อถือคนเหล่านี้”
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์โยมิอุระได้รายงานถึงการคาดการณ์เบื้องต้นถึงญี่ปุ่นที่ในเวลานี้ กำลังเผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์ใหญ่ของการติดเชื้อนั้นจะทำการแจกจ่ายวัคซีนได้อย่างไร
ซูงะได้เคยกล่าวว่าเขาตั้งเป้าที่จะให้ภูมิคุ้มกันแก่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปลายกุมภาพันธ์ โดยจะเริ่มให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์เป็นอันดับแรก
ทั้งนี้ โตเกียวได้ออกมายืนยันก่อนหน้าว่าการแจกจ่ายวัคซีน COVID-19 ไม่ใช่เงื่อนไขสำหรับการจัดแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ซึ่งมีกำหนดที่จะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคมหลังจากเลื่อนออกไป 1 ปีก่อนหน้า แต่ทว่าการเกิดเคสเพิ่มขึ้น และการพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เป็นที่คาดเดาถึงความพร้อมของญี่ปุ่นในการที่จะจัดงานโอลิมปิกได้ตามแผน
]]>รายงานระบุว่าขณะนี้ยอดผู้ป่วยโรค COVID-19 ในกรุงโตเกียวรวมอยู่ที่ 12,691 ราย โดยมากกว่า 50% ของผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการยืนยันผลในเดือนนี้ ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าเชื้อไวรัสจะยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องในโตเกียว
โคอิเกะระบุว่า ยอดผู้ป่วยรายวันล่าสุดในโตเกียวสูงทะลุ 400 รายเป็นครั้งแรก หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลง รัฐบาลมหานครโตเกียวจะต้องพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองหลวง เพื่อสามารถดำเนินมาตรการควบคุมไวรัสได้อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น
โคอิเกะเผยว่าฤดูร้อนในโตเกียวปีนี้จะไม่เหมือนที่อื่นๆ โดยชาวโตเกียวที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดฤดูร้อน จำเป็นต้องเตรียมพร้อมป้องกันตนเองตลอดเวลา พร้อมเสริมว่ารัฐบาลมหานครโตเกียวอาจบังคับใช้ข้อจำกัดใหม่ ซึ่งครอบคลุมถึงการงดเว้นการเดินทางข้ามจังหวัดและการหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 30 ก.ค. รัฐบาลมหานครโตเกียวเรียกร้องให้บาร์ ร้านอาหาร และร้านคาราโอเกะ ปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 ส.ค. จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรค COVID-19 รวม 35,461 ราย ซึ่งนับรวมผู้ป่วยจากเรือสำราญที่ถูกกักกันในเมืองโยโกฮามาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ราว 700 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 1,020 ราย
]]>การเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ยูริโกะ โคอิเกะ ชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 4 ปี ด้วยคะแนนสูงถึงกว่า 3 ล้าน 6 แสนคะแนน ทิ้งห่างผู้สมัครคนอื่นแบบขาดลอย และยังทำสถิติได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียว หลังจากนายนาโอกิ อิโนเสะ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ ด้วยคะแนนเสียงกว่า 4 ล้าน 3 แสนคะแนนเมื่อปี 2012
ชาวกรุงโตเกียวออกมาใช้สิทธิ์ 55% น้อยกว่าเมื่อครั้งที่แล้วเล็กน้อย การเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ในระหว่างการระบาดของ COVID-19 ทำให้โคอิเกะงดเว้นการปราศรัยหาเสียงในสถานที่สาธารณะ โดยใช้การปราศัยผ่านทางออนไลน์แทน
โคอิเกะ เคยเป็นอดีตรัฐมนตรีของพรรค LDP ที่เป็นรัฐบาลญี่ปุ่น แต่เมื่อ 4 ปีก่อน เธอได้ลาออกมาเล่นการเมืองท้องถิ่น และเอาชนะผู้สมัครจากพรรค LDP อดีตต้นสังกัดของเธอได้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เธอได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั้งกลุ่มที่สนับสนุนพรรครัฐบาล และกลุ่มอิสระ ประชาชนส่วนใหญ่ให้คะแนนเธอในการรับมือวิกฤตโควิด ได้ดีกว่ารัฐบาลของนายชินโซ อาเบะ
กรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อโควิดรายวันสูงกว่า 100 คนต่อเนื่อง 4 วันแล้ว ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียวเพิ่มขึ้นเป็น 6,765 คน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นยังยืนกรานว่า “นี่ไม่ใช่การระบาดระลอก 2 “ และยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการฉุกเฉินแต่อย่างใด
โคอิเกะ กล่าวหลังได้รับเลือกตั้งว่า เธอจะจัดตั้งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ แบบเดียวกับ CDC ของสหรัฐฯ ในแบบของกรุงโตเกียว และยอมรับเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า “ต้องเตรียมรับมือการระบาดระลอก 2”
นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ว่า ประชาชน 36% เห็นว่าควรยกเลิกโตเกียวโอลิมปิก 17% เห็นว่าควรเลื่อนออกไปอีก มีเพียง 27% ที่เห็นว่าควรจัดงานตามกำหนดการเดิมในปีหน้า
แต่โคอิเกะระบุว่า จะยังเดินหน้าจัดโตเกียวโอลิมปิก แต่จะเจรจากับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC เพื่อผนวกรวมกิจกรรมต่าง ๆ และลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนกรุงโตเกียว ที่ต้องใช้เงินภาษีเพื่อจัดงานนี้
ประชาชนชาวกรุงโตเกียวเร่งรัดให้โคอิเกะมีมาตรการรับมือโ COVID-19 ระลอก 2 โดยด่วน ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง นางโคอิเกะมีท่าที “วางเฉย” เนื่องจากเกรงจะกระทบกับการสนับสนุนของธุรกิจและคะแนนเสียงของประชาชน แต่เมื่อเธอได้ครองอำนาจอีกครั้งแล้ว ขณะนี้ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการรักษาชีวิตประชาชน
]]>ศูนย์ตรวจ COVID-19 ดังกล่าว จะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะและนาริตะ และท่าอากาศยานนานาชาติคันไซในเมืองโอซาก้า เพื่อรองรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเปิดทำการได้อย่างเร็วที่สุดภายในฤดูร้อนนี้
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีศูนย์กักกันโรคในสนามบิน ที่สามารถตรวจหาเชื้อแบบ Polymerase Chain Reaction (PCR) ได้เฉลี่ยราว 1,000 ตัวอย่างต่อวัน ซึ่งต้องรอผลตรวจประมาณ 1-2 วัน เเต่ศูนย์ตรวจเเห่งใหม่ที่กำลังจะสร้างนี้ จะเพิ่มจำนวนการตรวจ PCR เป็นมากกว่า 4,000 ตัวอย่างต่อวัน โดยหน่วยงานสาธารณสุขญี่ปุ่น หวังว่าจะช่วยร่นเวลาการตรวจเชื้อให้เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ด้วยการใช้วิธีการใหม่
ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าว่าศูนย์ตรวจเชื้อในเมืองใหญ่เหล่านี้ จะขยายไปตรวจเชื้อให้กับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลกำลังพิจารณาออกใบรับรองให้แก่ผู้ที่มีผลตรวจเชื้อเป็นลบด้วย
ญี่ปุ่น ออกมาตรการจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้มาตั้งแต่เดือนก.พ. เพื่อสกัดการระบาดของ COVID-19 เเละยังคงเดินหน้าควบคุมพรมแดนกับหลายประเทศ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้เพิ่มอีก 18 ประเทศ เช่น แอลจีเรีย คิวบา และอิรัก เข้าไปในรายชื่อประเทศที่ถูกแบนการเดินทาง ทำให้จำนวนรวมเพิ่มเป็น 129 ประเทศ
จากข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีชาวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นเพียง 1,700 คน น้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ และลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 99.9%
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังเจรจากับหลายประเทศเพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทางร่วมกัน สำหรับนักธุรกิจที่ปลอดเชื้อ และมีการระบุแผนการเดินทางให้ชัดเจนในระหว่างที่พำนักในญี่ปุ่น โดยคาดว่าประเทศที่ญี่ปุ่นจะคลายล็อกให้นั้น มีไทยและออสเตรเลีย ขณะที่แหล่งข่าวทางการทูต เปิดเผยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลอาจเริ่มเจรจากับไต้หวันและบรูไน ภายในเดือนนี้ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเมื่อปลายเดือนที่เเล้ว มีการเดินทางจากญี่ปุ่นไปเวียดนามบางส่วน ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ
ที่มา : japantimes
]]>
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ออกคำสั่งยกเลิกครอบคลุม 39 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ เว้นแต่กรุงโตเกียว และเมืองโอซาก้า ยังคงใช้มาตรการประกาศภาวะฉุกเฉินต่อไปจนกว่าจะสามารถควบคุม COVID-19 ได้
“ในขณะที่การควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุดด้วยการกระทำที่เสมือนว่าไวรัสกำลังอยู่รอบตัวเรา และเราในเวลานี้จะกลับคืนสู่ชีวิตการทำงานตามปกติและการใช้ชีวิตประจำวัน” อาเบะแถลง
รอยเตอร์รายงานว่า 39 จังหวัดที่ถูกสั่งยกเลิกคิดเป็นสัดส่วนประชากร 54% ของทั้งหมดทั่วประเทศ ขณะที่ภูมิภาคกรุงโตเกียวคิดเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจทั้งหมด
รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานถึงตัวเลขผู้ป่วยที่ลดลง 20% ในระยะเวลา 9 วันที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 7 พ.ค. อยู่ที่ 4,449 และที่กรุงโตเกียวมีเคส COVID-19 ตกลงไปเหลือแค่ 10 คนในวันที่ 13 พ.ค.
ทำให้ตอนนี้ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 16,049 คน เสียชีวิต 678 คน
]]>