ไทวัสดุ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 06 Feb 2023 09:08:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดแผนขยายสาขา “เซ็นทรัล รีเทล” ปี 2566 ปูพรม “ท็อปส์” ในไทย “Go!” บุกต่อเวียดนาม https://positioningmag.com/1418030 Mon, 06 Feb 2023 09:05:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418030
  • “เซ็นทรัล รีเทล” (CRC) ประกาศผลประกอบการปี 2565 รายได้เติบโตมากกว่า 20% ผลักดันรายได้จาก Omnichanel สัดส่วนแตะ 18%
  • ปี 2566 เตรียมอัดงบลงทุน 28,000 ล้านบาท ขยายสาขาทุกหมวดธุรกิจทั้งในไทยและเวียดนาม เล็งตลาดเวียดนามสดใส โมเดิร์นเทรดยังโตได้อีก 4 เท่า
  • ครึ่งปีหลังมีเซอร์ไพรส์ เปิดตัวธุรกิจใหม่ในประเทศไทย และจะส่งเข้าสู่ตลาดเวียดนามด้วย โดยเป็นธุรกิจที่ ‘ขยายตัวได้สูง’
  • “ญนน์ โภคทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC สรุปผลการดำเนินงานปี 2565 ทำรายได้เติบโต 20% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ และใช้งบลงทุนไป 18,000-20,000 ล้านบาท

    เซ็นทรัล รีเทล 2566
    “ญนน์ โภคทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC

    สัดส่วนรายได้ 18% ยังมาจากการขายผ่าน Omnichannel ที่เซ็นทรัล รีเทลผลักดันมาตลอดและมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสูง มีการปรับปรุงหลังบ้านใหม่ทั้งหมด

    ญนน์มองว่าตัวเลข 18% เป็นสัดส่วนการขายที่น่าพึงพอใจ สามารถกล่าวได้ว่า CRC ปรับตัวมาเป็นรีเทลแบบ Omnichannel ได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมก้าวสู่อนาคตค้าปลีกที่ผู้บริโภคน่าจะใช้ช่องทางผสมผสานเช่นนี้มากยิ่งขึ้น คาดว่าสัดส่วนจาก Omnichannel จะขึ้นไปถึง 25% ภายใน 5 ปี

    “สิ่งที่เราจะขายไม่ใช่แค่สินค้า แต่ต้องเป็น ‘Total Solutions’ ต้องมีบริการที่ดี และประสบการณ์ที่ดีด้วย ไม่ใช่การฟาดฟันเรื่องราคาเท่านั้น” ญนน์ฉายภาพวิสัยทัศน์การขายแบบ Omnichannel ที่เซ็นทรัล รีเทลกำลังเดินไป

     

    ปี 2566 เตรียมงบลงทุน 28,000 ล้าน รับตลาดฟื้น

    ด้านแผนการลงทุนค้าปลีกแบบ “กายภาพ” ของปี 2566 เซ็นทรัล รีเทล เตรียมงบลงทุนไว้ 28,000 ล้านบาท ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุน 150,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2566-2570)

    งบดังกล่าวจะมีการลงทุนสาขาใหม่ แบ่งตามประเทศและแบรนด์รีเทล ดังนี้

    ประเทศไทย

    • เซ็นทรัล ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ 2 สาขา
    • ไทวัสดุ และ ไทวัสดุ ไฮบริด ฟอร์แมท 10 สาขา
    • ท็อปส์ 15 สาขา

    ประเทศเวียดนาม

    • ศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! รวม 5-7 สาขา
    • ซูเปอร์มาร์เก็ต Tops Market และ Mini go! รวม 8-10 สาขา
    • เหงียนคิม 5 สาขา และรีโนเวตใหม่ 10-12 สาขา

    เม็ดเงินลงทุนแบ่งเป็นในประเทศไทยราว 70-75% และในต่างประเทศ 25-30%

    ปีนี้ “ท็อปส์” จะมีการขยาย 15 สาขาในไทย

    ญนน์ยังแย้มด้วยว่า ครึ่งปีหลังปีนี้ CRC จะมีการเปิดธุรกิจใหม่ที่ ‘ขยายตัวได้สูง’ โดยจะเริ่มเปิดที่ประเทศไทยก่อน และจะส่งเข้าประเทศเวียดนามต่อเนื่อง ขณะนี้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดของธุรกิจใหม่

     

    โอกาสในเวียดนามสดใส โมเดิร์นเทรดโตได้อีก 4 เท่า

    สำหรับตลาดเวียดนามถือเป็นตลาดสำคัญของเซ็นทรัล รีเทลหลังเข้าไปบุกตลาดมานาน 10 ปี ญนน์กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเซ็นทรัลถือเป็นผู้เล่นจากต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจค้าปลีกเวียดนาม โดยมีการเปิดธุรกิจไปแล้ว 41 จังหวัด ครอบคลุม 70% ของตลาด และต้องการจะไปให้ครบ 100%

    กลยุทธ์การบุกเวียดนามของ CRC ใช้กลุ่มฟู้ดเป็นตัวนำทางด้วยแบรนด์ GO! ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้า และปีนี้จะยิ่งแทรกซึมเข้าไปในตลาดท้องถิ่น ด้วยการเปิดแบรนด์ Mini go! เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมทั้งโมเดลลงทุนที่ดินเองหรือจับมือกับแลนด์ลอร์ดเพื่อเปิดสาขา

    แบรนด์ Go!
    Go! Mall ประเทศเวียดนาม

    ญนน์ระบุว่า ตลาดค้าปลีกเวียดนามยังเป็นตลาดของค้าปลีกดั้งเดิม (TT) เป็นส่วนใหญ่ สัดส่วนของโมเดิร์นเทรดยังมีแค่ 5% เท่านั้น ทำให้โอกาสในเวียดนามยังมีอีกสูงมาก เชื่อว่าตลาดจะโตกว่านี้ได้อีกอย่างน้อย 4 เท่า หรือมีโมเดิร์นเทรดเป็นสัดส่วน 20-30% ของตลาดค้าปลีกภายใน 10 ปีข้างหน้า

     

    รายได้รวม “เซ็นทรัล รีเทล” โตต่อ 12-15%

    รายได้ปีก่อนโตพุ่ง 20% แต่ปี 2566 ญนน์มองว่ารายได้เซ็นทรัล รีเทลยังโตได้อีก 12-15% และวางเป้า EBITDA เติบโต 18-20%

    การเติบโตเหล่านี้มาจากเศรษฐกิจไทยที่น่าจะปรับตัวดีขึ้น คาดการณ์จีดีพีไทยจะเติบโตไม่น้อยกว่า 3% ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจค้าปลีกโตได้ 6-8% และปีนี้ไทยยังจะมีการเลือกตั้งด้วยซึ่งปกติมักจะส่งให้เศรษฐกิจเดินสะพัด

    ในขณะที่กลุ่มลูกค้าเซ็นทรัล รีเทลเป็นลูกค้าระดับกลางถึงบนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมาน้อยกว่า และยังมีทำเลที่รับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น ย่านซีบีดีของกรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต, เกาะสมุย ถือเป็นรายได้เพิ่มเติมเข้ามา

    โรบินสันไลฟ์สไตล์ บ้านฉาง หลังปรับปรุงใหม่

    นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทลมีการกระจายตลาดไปในต่างประเทศ คือ เวียดนาม และ อิตาลี (ห้างฯ รีนาเชนเต้) ซึ่งในเวียดนามนั้นเป็นดาวรุ่งทางเศรษฐกิจอยู่แล้ว ส่วนในอิตาลีนั้นค้าปลีกกลุ่มลักชัวรีฟื้นตัวได้ดีมาก

    ภาพรวมปี 2566 จึงน่าจะสดใสสำหรับเซ็นทรัล รีเทล วัดจากเดือนมกราคมปีนี้ ญนน์กล่าวว่าบริษัททำรายได้ได้ตามเป้าที่วางกรอบการเติบโต 12-15% ส่วนหนึ่งมาจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา และมีแรงกระตุ้นจากโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ช่วยดันยอดได้ 2-3%

    “ยุทธศาสตร์ของเราสั้นๆ คือ สิ่งไหนที่เราเป็นเบอร์ 1 เราจะยึดตำแหน่งนั้นต่อไป สิ่งไหนที่เรายังไม่เป็นเบอร์ 1 เราจะต้องทำให้ได้” ญนน์กล่าว

    ]]>
    1418030
    “CRC ไทวัสดุ” โหมบุกตลาด! วางเป้า 10 ปีข้างหน้าโตปีละ 18% ขยายสาขาพรึบชิงมาร์เก็ตแชร์ https://positioningmag.com/1383065 Wed, 27 Apr 2022 08:27:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383065
  • “CRC ไทวัสดุ” กางเป้าหมายบริษัทช่วง 10 ปีข้างหน้าต้องการทำรายได้โตเฉลี่ยปีละ 18% และกำไรโตเฉลี่ยปีละ 30%
  • ปีนี้วางงบลงทุน 7,000 ล้านบาท กระหน่ำขยายสาขาทั้งไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, ออโต้วัน และ โก! ว้าว จากทั้งเครือขณะนี้มี 95 สาขา สิ้นปี 2565 จะเพิ่มเกือบเท่าตัวเป็น 183 สาขา
  • วางแผนลดต้นทุนทำกำไร ติดตั้งโซลาร์รูฟครบทุกสาขา เปลี่ยนมาใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) ครึ่งหนึ่งของฟลีทรถขนส่งทั้งหมด
  • คาดปี 2565 ตลาดวัสดุก่อสร้างกระเตื้อง 2-3% แต่ CRC ไทวัสดุตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 13% จากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
  • ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้านในเครือเซ็นทรัลรีเทลกำลังจะกลับมาโหมตลาดอีกครั้ง หลังผ่อนคันเร่งลงไปในช่วง COVID-19 โดย “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ประกาศเป้าหมายในอนาคต บริษัทต้องการชิงอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ผ่านแผนการการลงทุน พัฒนาธุรกิจ และลดต้นทุนหลายกลยุทธ์

    เป้าหมายในเชิงตัวเลขของซีอาร์ซี ไทวัสดุช่วง 10 ปีต่อจากนี้ คือการทำรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 18% และทำกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 30% จากเมื่อปี 2564 บริษัททำรายได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท เป้าหมายเหล่านี้ถือเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งฟื้นจากโรคระบาด

    “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด

    บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุเริ่มก่อตั้งจากวิสัยทัศน์ของสุทธิสารที่เล็งเห็นโอกาสในตลาดเมื่อปี 2553 เริ่มต้นจากร้าน “ไทวัสดุ” สาขาแรกใน อ.บางบัวทอง ก่อนจะขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมกับแตกแบรนด์ใหม่ๆ ออกมา ได้แก่ “บ้าน แอนด์ บียอนด์” (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บีเอ็นบี โฮม) ขายของตกแต่งบ้านประเภท Soft DIY, “วีฟิกซ์” แผนกบริการงานช่างให้ลูกค้า, “ออโต้วัน” ธุรกิจซ่อมรถ ดูแลรถ และ “โก! ว้าว” (Go! Wow) ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ด ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปี 2564

    สุทธิสารกล่าวว่า เป้าหมายที่วางไว้จะไปถึงได้ด้วย 5 กลยุทธ์ ดังนี้

    1. Thriving ขยายสาขา
    2. Omnichannel ผสมผสานการขายออฟไลน์และออนไลน์ เปิดแอปพลิเคชันไทวัสดุ เพิ่มฟีเจอร์ให้การซื้อชุดครัว หลังคา เหล็ก ทำได้ง่ายขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายออนไลน์ 150%
    3. Supply Chain & Logistics Expansion ขยายคลังสินค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า
    4. Driving Sustainability ทำต่อเนื่องในด้านการสนับสนุน “คน” ทุกกลุ่ม ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ นักศึกษา และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ชุมชนบ้านเกิดพนักงาน
    5. New Market Penetration ชูโรงธุรกิจออโต้วันและโก! ว้าวให้มากขึ้น

     

    สาขารวมโตเกือบเท่าตัวในปีเดียว!

    เจาะกลยุทธ์แต่ละส่วนที่น่าสนใจ ปีนี้ซีอาร์ซี ไทวัสดุเตรียมงบลงทุนถึง 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้กับการซื้อที่ดิน ขยายสาขา รีโนเวตสาขาเดิม และลงทุนด้านเทคโนโลยี

    สุทธิสารกล่าวว่า ถือเป็นการลงทุนที่มากใกล้เคียงกับเมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทยังขยายตัวสูง และเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากช่วง COVID-19 ปี 2564 ซึ่งบริษัทใช้งบลงทุนไปเพียง 2,000 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังการลงทุน

    CRC ไทวัสดุ

    การขยายสาขาปี 2565 นี้จะเกิดขึ้นในทุกๆ แบรนด์ภายในเครือ โดยรวมทั้งเครือ ณ สิ้นปี 2564 มี 92 สาขา จนถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 183 สาขา โดยแบ่งได้ดังนี้

    • ไทวัสดุ จาก 59 สาขา เพิ่มเป็น 70 สาขา
    • บีเอ็นบี โฮม จาก 6 สาขา เพิ่มเป็น 13 สาขา
    • ออโต้วัน จาก 12 สาขา เพิ่มเป็น 30 สาขา
    • โก! ว้าว จาก 15 สาขา เพิ่มเป็น 70 สาขา
    CRC ไทวัสดุ
    ร้านไทวัสดุแบบมาตรฐาน ใช้พื้นที่ประมาณ 18 ไร่

    สำหรับกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง จะเน้นการเปิด ไทวัสดุโมเดลมาตรฐาน (ร้านใหญ่สีแดง) และจะปรับเซกเมนต์ภายในร้าน ขยายส่วนขายเฟอร์นิเจอร์จาก 200-300 ตร.ม. เป็น 600 ตร.ม. พร้อมกับเปิดแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า และมีโซนพลาซ่าร้านอาหาร-ช้อปปิ้งมากขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้าได้หลากหลาย

    นอกจากนี้จะเพิ่มสาขาที่เป็น โมเดลไฮบริดซึ่งรวมไทวัสดุกับบีเอ็นบี โฮมไว้ในสาขาเดียว เพราะพิสูจน์แล้วจากสาขาแรกที่ศรีสมาน หลังเปิดในปี 2564 ทำยอดขายได้ดีกว่าสาขาปกติ พบว่าโมเดลนี้ ‘เวิร์ก’

    CRC ไทวัสดุ
    โมเดลใหม่แบบไฮบริด รวมร้านไทวัสดุกับบีเอ็นบี โฮม เปิดสาขาแรกที่ศรีสมาน

    ส่วน บีเอ็นบี โฮม ที่รีแบรนด์มาจากบ้าน แอนด์ บียอนด์ จะเปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้เข้าใกล้คนเมืองมากกว่าเดิม มีการเปิดใกล้ๆ หรืออยู่ในศูนย์การค้ามากขึ้น เช่น เซ็นทรัล ราชพฤกษ์ ซึ่งจะก่อสร้างบนที่ดินเดิมของบ้าน แอนด์ บียอนด์ ต่อไปสาขานี้จะรีแบรนด์เป็นบีเอ็นบี โฮม และเข้าไปเป็นร้านค้าภายในศูนย์ฯ แทน

    ขณะที่การขยายร้าน ออโต้วัน จะยังคงเกาะไปกับไทวัสดุ จากแนวคิดเดิมที่ร้านซ่อมรถเกิดขึ้นเพื่อ ‘utilize’ ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเห็นโอกาสจาก ‘รถช่าง’ ที่เข้าออกร้านบ่อย

    ปิดท้ายกับน้องใหม่ร้าน โก! ว้าว ปีนี้จะเน้นการออกไปเปิดสาขาสแตนด์อะโลนนอกห้างฯ เพื่อทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ๆ (ขณะนี้สาขาเกือบทั้งหมดอยู่ในศูนย์การค้าหรือบีเอ็นบี โฮม)

     

    ขยาย DC + เปลี่ยนมาใช้รถบรรทุก EV

    สุทธิสารกล่าวต่อถึงการขยายคลังสินค้า อ.วังน้อย จ.อยุธยา จากพื้นที่ 120 ไร่ บริษัทยังใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้จะขยายคลังต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายสาขา และการขายออนไลน์ที่สินค้าหลายชิ้นจะส่งออกจากคลังโดยตรง

    เตรียมปรับมาใช้รถบรรทุก EV ลดค่าพลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน

    อีกส่วนที่สำคัญคือการเปลี่ยนมาใช้ “รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า” (EV) จากปัจจุบันฟลีทขนส่งของไทวัสดุมีกว่า 100 คัน เดือนพฤษภาคมนี้จะปรับมาใช้ EV นำร่อง 6 คัน และปี 2566 จะปรับไปใช้ EV เป็น ‘ครึ่งหนึ่ง’ ของฟลีทรถบรรทุกทั้งหมด รวมถึงการติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาทุกสาขา จะปรับให้ครบทั้งหมดภายในปี 2566

    สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนให้บริษัท เพราะการใช้รถ EV จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 50% ของค่าพลังงานในการขนส่ง และการใช้โซลาร์รูฟช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 50% เช่นกัน เป็นคีย์หลักในการไปสู่เป้าหมายการทำกำไรเพิ่ม

     

    สรุป: ชิงมาร์เก็ตแชร์จากการเปิดสาขา

    การเติบโตของตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้างปี 2565 ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท สุทธิสารคาดว่าจะโตราว 2-3% แต่ CRC ไทวัสดุ ต้องการโตไม่ต่ำกว่า 13% โตมากกว่าตลาดจากการระดมเปิดสาขาดังกล่าวซึ่งจะช่วยให้ดึงมาร์เก็ตแชร์ได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการปรับโมเดล ปรับสินค้าขายให้ครอบคลุมสินค้าหลากหลาย หรือรวมสองแบรนด์ไว้ด้วยกัน มีทั้งวัสดุก่อสร้าง แต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ครบจบในที่เดียว

    ส่วนผลกระทบระยะสั้นจากปัจจัยลบที่ยังเรื้อรัง เช่น ฟลีทเรือขนส่งที่ยังมีปัญหา บริษัทได้แก้ปัญหาล่วงหน้าแล้วด้วยการสั่งสินค้านำเข้ามากักตุน ขณะที่ปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างพาเหรดกันขึ้นราคา สินค้าบางตัวที่มีราคาตลาด เช่น เหล็ก ปูน บริษัทไม่สามารถตรึงราคาได้ แต่สินค้าประเภทอื่นจะพยายามตรึงไว้อีก 90 วันเป็นอย่างน้อย เช่น สินค้ากลุ่มโคมไฟ ก๊อกน้ำ เครื่องมือช่าง

    “เลี่ยงไม่ได้ที่สินค้าจะราคาขึ้น แต่เราจะพยายามตรึงให้นานที่สุด เพราะถ้าราคาแพงขึ้น เราก็จะขายไม่ได้เหมือนกัน” สุทธิสารกล่าว

    ]]>
    1383065
    ถึงคิว “เครื่องกรองน้ำ” ภูมิปัญญาแม่การะเกด บิ๊กโมเดิร์นเทรดไวปานสายฟ้าแลบ โหนกระแสขายของทันทีนะออเจ้า https://positioningmag.com/1161716 Thu, 15 Mar 2018 01:00:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161716 หลังจาก ละครบุพเพสันนิวาส สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ “มะม่วง น้ำปลาหวาน” และ “หมูกระทะ” กลายเป็นเมนูสุดแซ่บในละคร พาเอาบรรดาแอดมินเพจแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งบาร์บีคิวพลาซ่า เซเว่นอีเลฟเว่น แม้แต่แบรนด์ข้ามชาติอย่างประกันภัย AIA สายการบิน แอร์เอเชีย หรือแม้แต่ช้อปปี้ อีคอมเมิร์ซต้องรีบโหนกระแส งัด “เรียลไทม์ มาร์เก็ตติ้ง” มาใช้กันแบบปัจจุบันทันด่วนกัน

    มาสัปดาห์นี้ อิทธิฤทธิ์ ออเจ้า ยังร้อนแรง เมื่อละครบุพเพสันนิวาสออกอากาศ เมื่อวันที่ 14 มี.เป็นตอนนางเอกการะเกด สั่งช่างจีนทำเครื่องกรองน้ำแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน คือทำเป็นรูปกรวยดินเผา แล้วสั่งบ่าวไพร่หานุ่น ทราย กรวด มากรองน้ำคลอง

    ทันทีทันใด กลุ่มโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างก็ไม่รอช้า โฮมโปร ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เช่นเดียวกับไทวัสดุในเครือเซ็นทรัลฉกกระแสไวปานสายฟ้าแลบอัพไทม์ไลน์อัดโฆษณาขายเครื่องกรองน้ำแบบไม่ต้องพึ่งบ่าวไพร่เจ๋งฝุด ๆ

    ส่วนช่อง 3 เอง จากที่ขายโฆษณาล่วงหน้าไปได้เพียง 70% ของเวลาโฆษณาทั้งหมด แต่พอบุพเพสันนิวาสออกอากาศเพียงตอนแรก กระแสก็มา ทำให้โฆษณาติดต่อเข้ามา จนทำให้โฆษณาแน่นเอียดทุกเบรก ทุกจอ.

    อ่านประกอบ

    ]]>
    1161716
    โรบินสัน-ไทวัสดุ ประกาศปิดสาขาวันที่ 26 ตุลาคมนี้ https://positioningmag.com/1143040 Wed, 11 Oct 2017 05:50:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1143040 ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และไทวัสดุ ห้างค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป ได้ร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยการประกาศปิดสาขาในวันที่ 26 ตุลาคม 2560ซึ่งเป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อให้พนักงานในเครือมีโอกาสร่วมถวายความอาลัย

    โดยที่โรบินสันได้ร่วมถวายอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ใน 2 วัน  วันที่ 13 ตุลาคม 2560 เป็นพิธีบำเพ็ญกุศล ครบรอบ 1  ปี วันสวรรคต  ในช่วงเวลาเวลา 8.00  . มีพิธีทำบุญตักบาตร พระภิกษุ สามเณร  จำนวน  29 รูป และเวลา 15.52 ร่วมตั้งจิตสงบนิ่ง ถวายอาลัย เป็นเวลา 89  วินาที

    ส่วนในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้ประกาศปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 . เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้าโรบินสัทั้งหมดน 25 สาขา และ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ 19 สาขา เพื่อให้พนักงาน ในสังกัดสำนักงานใหญ่และสาขา กว่า 6,000 คน ได้มีโอกาสเข้าร่วมถวายอาลัย พร้อมเปิดให้บริการตามปกติ ในวันที่  27  ตุลาคม 2560  ตามเวลาดำเนินการของแต่ละสาขา

    สำหรับ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ประกอบไปด้วยไทวัสดุ โฮมเวิร์ค และบ้านแอนด์บียอนด์ ห้างค้าปลีกจำหน่ายวัสดุตกแต่งบ้าน ประกาศปิดสาขาทั่วประเทศในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ตั้งแต่เวลา 14.00 . เช่นกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีตั้งแต่เปิดให้บริการมา เพื่อให้พนักงานจำนวนกว่า 5,000 คน ได้มีโอกาสร่วมแสดงความจงรักภักดี

    ]]>
    1143040