ชิปเซ็ต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 07 Apr 2023 06:53:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สูงสุดคืนสู่สามัญ! กำไร Q1/23 “Samsung” หดตัวถึง 96% เหตุ “ชิป” ล้นตลาด ขายไม่ออก https://positioningmag.com/1426730 Fri, 07 Apr 2023 05:12:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1426730 Samsung Electronics รายงาน กำไรจากการดำเนินงาน Q1 ปี 2023 หดตัว 96% หนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เหตุจาก “ชิป” ล้นตลาด เพราะผู้บริโภคกำลังซื้อลดจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

บริษัทผู้ผลิตชิปความจำและโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Samsung Electronics รายงานคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานช่วงไตรมาสแรกปี 2023 ว่า น่าจะตกลงเหลือ 6 แสนล้านวอน (ประมาณ 1.55 หมื่นล้านบาท) จากที่เคยทำได้สูงถึง 14.12 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.65 แสนล้านบาท) ในไตรมาสแรกปี 2022

“ดีมานด์ชิปความจำตกลงอย่างรุนแรง หลังจากสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคชะลอตัวลงและทำให้ความต้องการซื้อของผู้บริโภคช้าลงตาม ลูกค้าจำนวนมากปรับเปลี่ยนการใช้เงินอย่างต่อเนื่อง” บริษัทแถลง

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์อย่าง Refinitiv SmartEstimate คาดว่า Samsung Electronics จะทำกำไรได้ราว 8.73 แสนล้านวอน (ประมาณ 2.26 หมื่นล้านบาท) ทำให้กำไรที่ออกมาจริงๆ นั้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไปมาก

รายได้ของบริษัทเองในไตรมาสล่าสุดก็น่าจะตกลง 19% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้น่าจะเหลือเพียง 63 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.63 ล้านล้านบาท)

รายละเอียดของรายได้และกำไรโดยแยกตามแผนกจะออกมาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งภายในเดือนเมษายนนี้

เมื่อปี 2020-2021 เคยมีช่วงที่การผลิตชิปขาดแคลนจนกระทบซัพพลายเชนสินค้าต่างๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน จนถึงรถยนต์ แต่ขึ้นมาต้นปี 2023 นี้ เราอาจจะได้เห็นสถานการณ์กลับทางกัน ล่าสุด Apple ก็เพิ่งจะสั่งให้ TSMC ซัพพลายเออร์ผู้ผลิตชิป M2 หยุดการผลิตไปก่อน เพราะยอดขาย MacBook M2 ไม่เข้าเป้า

เฉพาะตลาดชิปความจำนั้นเริ่มเห็นสัญญาณราคาตกลง 20% ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปีก่อน และคาดว่าครึ่งปีแรกปี 2023 นี้น่าจะตกลงอีกแบบดับเบิลดิจิต

ผู้ผลิตชิปความจำหลายรายมีการสะสมสต็อกไว้จำนวนมาก มองภาพธุรกิจปีนี้น่าจะไม่ค่อยสดใสนัก เพราะดีมานด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เริ่มชะลอลงแล้ว ตรงข้ามกับช่วงเกิดโรคระบาดใหม่ๆ

นอกจาก Samsung ที่เริ่มเห็นภาพลบในผลกำไร อีกหนึ่งผู้เล่นในตลาดอย่าง Micron Technology เปิดเผยแผนมาแล้วว่า ปีนี้บริษัทจะเริ่มลดตำแหน่งงาน และลดการใช้จ่ายตลอดปี เพื่อลดต้นทุนการผลิต

หลังจากครึ่งปีแรกมีปัจจัยลบมากมายจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ดอกเบี้ยขาขึ้น และความไม่แน่นอนที่เกิดจากสงครามรัสเซียยูเครน ตลาดชิปน่าจะต้องฝากความหวังไว้กับดีมานด์ผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ที่อาจจะปรับตัวดีขึ้น เพราะตลาดจีนเริ่มกลับฟื้นตัวแล้ว เมื่อจีนผ่อนคลายความเข้มงวดนโยบายโควิด-19 และเริ่มเปิดประเทศ 

ที่มา: CNBC, MacRumors, Wall Street Journal

]]>
1426730
Foxconn สนใจเริ่มพัฒนา “รถยนต์ไฟฟ้า” และ “ชิป” ในอินเดีย https://positioningmag.com/1421935 Mon, 06 Mar 2023 12:13:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1421935 หลังจาก Foxconn เริ่มตั้งไลน์ประกอบ iPhone ในอินเดีย ทำให้บริษัทเริ่มสนใจขยายฐานกระจายเสี่ยงออกจากจีนมากขึ้น โดยแผนเข้าสู่ธุรกิจ “รถยนต์ไฟฟ้า” และการผลิต “ชิป” เป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอินเดีย

Foxconn บริษัทซัพพลายเออร์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากไต้หวัน ประกาศเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมาว่า บริษัทมีความสนใจที่จะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในอินเดียเพื่อเริ่มต้นอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น ชิป และ รถยนต์ไฟฟ้า หลังจากที่ประธานกรรมการอย่าง Liu Young เดินทางไปเยี่ยมชมประเทศอินเดียด้วยตนเอง

ก่อนหน้านี้ Apple ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญของ Foxconn เริ่มกระจายฐานการผลิตออกจากจีน เนื่องจากนโยบายด้านโควิด-19 อันเข้มงวด รวมถึงความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย ทำให้ iPhone รุ่นใหม่ๆ ถูกย้ายฐานมาประกอบในอินเดียมากขึ้น จนปัจจุบันการผลิต iPhone ราว 5-7% ย้ายมาอยู่ในอินเดียแล้ว และบริษัท Apple มีแผนจะกระจายออกมาสู่อินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของการผลิตทั้งบริษัท

การเริ่มต้นปักหมุดในอินเดียน่าจะทำให้ Foxconn สนใจขยายฐานต่อในธุรกิจอื่นด้วย โดย Liu Young เปิดการเดินทางหลายวันมาเยี่ยมชมประเทศอินเดียระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2023 จากนั้นมีประกาศแถลงการณ์ว่า

“ทริปการเดินทางของผมในสัปดาห์นี้จะช่วยสนับสนุนความพยายามของ Foxconn ในการสานสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ให้แน่นแฟ้น ได้กลับมาพบกับเพื่อนเก่าและได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ เพื่อหาความร่วมมือในการทำธุรกิจใหม่ เช่น พัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ และพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า” Liu กล่าว

Foxconn นั้นมีแผนอันทะเยอทะยานที่จะหันมาเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงจะพัฒนาชิปเซ็ตออกจำหน่าย

“ด้วยพื้นฐานของการแบ่งปัน ร่วมมือ และเติบโตไปด้วยกัน Foxconn จะสื่อสารอย่างต่อเนื่องกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อพัฒนาโอกาสที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย” Liu กล่าวต่อ

อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ประกาศแผนอันชัดเจนในการลงทุนในอินเดีย

Foxconn จะมีการเพิ่มไลน์ประกอบ iPhone อีกแห่งหนึ่งที่รัฐกรณาฏกะ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย หลังจากซัพพลายเออร์ทั้ง 3 เจ้าคือ Foxconn, Pegatron และ Wistron มีไลน์ผลิตในอินเดียรวมกันแล้ว 3 แห่ง

Source

]]>
1421935
Samsung ตั้งเป้าเป็นผู้นำการผลิต “ชิป” ขนาดเล็กที่สุดในโลกภายใน 5 ปี แข่งกับ TSMC https://positioningmag.com/1403152 Tue, 04 Oct 2022 10:00:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403152 บริษัท Samsung เตรียมเปิดไลน์ผลิต “ชิป” ขนาด 3 นาโนเมตรภายในปีนี้ และจะมุ่งไปสู่การผลิตชิปขนาดเล็กที่สุด 1.4 นาโนเมตรภายในปี 2027 ซึ่งจะเป็นชิปเทคโนโลยีขั้นสูงสุดในโลก เปิดศึกแข่งขันกับ TSMC ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ขณะนี้

Samsung ประกาศในวันที่ 4 ตุลาคม 2022 ว่า บริษัทวางแผนจะผลิตเซมิคอนดักเตอร์โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่สุดในโลกให้ได้ภายใน 5 ปี โดยเป็นชิปเซ็ตขนาดเพียง 1.4 นาโนเมตร

การประกาศนี้ทำให้การแข่งขันระหว่างเจ้าตลาดผู้ผลิตชิปยิ่งร้อนแรงขึ้น ปัจจุบันผู้นำอันดับ 1 ของโลกคือ TSMC แห่งไต้หวัน และ Samsung แห่งเกาหลีใต้ตามมาเป็นอันดับ 2

แผนของบริษัท Samsung ที่จะผลิตเซมิคอนดักเตอร์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมีลำดับดังนี้

  • ผลิตชิปขนาด 3 นาโนเมตร ภายในปี 2022
  • ผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ภายในปี 2025
  • ผลิตชิปขนาด 1.4 นาโนเมตร ภายในปี 2027

ขนาดนาโนเมตรดังกล่าวนั้นหมายถึงขนาดของทรานซิสเตอร์แต่ละชิ้นที่อยู่บนชิป ทำให้ยิ่งทรานซิสเตอร์เล็กลงเท่าไหร่ ก็ยิ่งอัดจำนวนทรานซิสเตอร์ลงไปในชิปเซ็ต 1 ชิ้นได้มากเท่านั้น และยิ่งมีทรานซิสเตอร์มากก็ยิ่งทำให้ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฟนล่าสุดจาก Apple อย่าง iPhone 14 Pro และ Pro Max ใช้ชิปเซ็ตขนาด 4 นาโนเมตรเท่านั้น

การเพิ่มความสามารถในการผลิตชิปให้เล็กลงของ Samsung จึงทำให้มีโอกาสที่จะชิงส่วนแบ่งตลาดมาจาก TSMC ได้มากขึ้น จากปัจจุบัน Samsung มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ 17.3% ขณะที่ TSMC กินตลาดไปถึง 52.9%

แผนของ Samsung ประกาศในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเสี่ยงที่จะถดถอย และจะทำให้ดีมานด์การใช้เซมิคอนดักเตอร์ถดถอยไปด้วย โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกทำยอดขายต่ำลง 3.4% เทียบกับเดือนกรกฎาคม (ข้อมูลจาก สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ)

อย่างไรก็ตาม วิสัยทัศน์ของ Samsung วางเป้าว่า บริษัทจะยังเร่งขยายกำลังการผลิตของชิปขั้นสูงเหล่านี้ให้มากขึ้นเป็น 3 เท่าตัวภายในปี 2027 สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทเชื่อมั่นในดีมานด์อนาคต

การขยายกำลังผลิตเหล่านี้จะมาจากแผนการเพิ่มไลน์ผลิตและการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ของ Samsung ซึ่งรวมถึงที่กำลังสร้างในสหรัฐอเมริกาด้วย โดยมีโรงงานผลิตชิป 2 แห่งของ Samsung ในรัฐเท็กซัสที่กำลังสร้าง

การเพิ่มฐานผลิตชิปในสหรัฐฯ นั้นถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของบริษัท และทางสหรัฐฯ เองก็มีนโยบายดึงผู้ผลิตชิปให้มาตั้งฐานในประเทศมากขึ้นด้วย เพื่อรักษาสมดุลมีแหล่งผลิตชิปในมือมากขึ้น หลังจากทวีปเอเชียกลายเป็นแหล่งผลิตชิปหลักของโลก

แม้ว่า Samsung จะมุ่งเน้นการผลิตชิประดับสูง แต่ธุรกิจหลักเกิน 50% ในปี 2027 ของบริษัทก็น่าจะยังมาจากเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีไม่สูงเท่า เช่น ชิปสำหรับยานยนต์ อุปกรณ์ 5G หรือคอมพิวเตอร์

Source

]]>
1403152
Samsung เตรียมขึ้นราคา “ชิป” อีก 20% เหตุต้นทุนขึ้นจากสงคราม-เงินเฟ้อ https://positioningmag.com/1385368 Sun, 15 May 2022 16:31:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1385368 ข่าวร้ายของผู้บริโภค! ปัญหาซัพพลาย “ชิป” ขาดแคลนยังคงเป็นวิกฤตของอุตสาหกรรมเทค ล่าสุด Samsung ผู้ผลิตชิปอันดับ 2 ของโลก เตรียมขึ้นราคาไมโครชิปอีกราว 20%

รายงานข่าวจาก Bloomberg ระบุว่า ยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ Samsung กำลังเจรจากับลูกค้าหลายรายว่าบริษัทเตรียมจะขึ้นราคาการผลิตชิป โดยคาดว่าจะปรับขึ้น 15-20% เพื่อให้สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุนในการผลิต

รายงานดังกล่าวยังกล่าวอ้างถึงความไม่มั่นคงของแหล่งวัตถุดิบการผลิตที่เป็นเหตุให้ต้นทุนขึ้นราคา ไม่ว่าจะเป็น สงครามรัสเซีย-ยูเครน และ การล็อกดาวน์ในประเทศจีน รวมถึงมีประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่มีผลต่อราคาชิปด้วย

ขณะนี้โฆษกของ Samsung ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็น แต่หากบริษัทมีการขึ้นราคา “ชิป” จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปีก่อน

ยกตัวอย่างบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. (TSMC) บริษัทไต้หวันและเป็นผู้ผลิตชิปมากอันดับ 1 ของโลกได้ขึ้นราคาชิปไปแล้ว 20% ตั้งแต่ปี 2021 ขณะที่บริษัท United Microelectronics Corp. (UMC) บริษัทไต้หวันอีกแห่งและเป็นผู้ผลิตชิปอันดับ 3 ของโลกก็มีแผนจะขึ้นราคาไม่เกิน 10% ภายในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2023

สำหรับบริษัท Samsung มีการลงทุนในธุรกิจชิปเซ็ตครั้งใหญ่ไปเมื่อปีก่อน ใช้งบลงทุน 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.25 ล้านล้านบาท) เพื่อตั้งสายผลิตเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดด้วยเครื่องจักร Extreme Ultraviolet Lithography (EUVL) โดยมีเป้าหมายจะเอาชนะ TSMC ในตลาดผู้ผลิตชิปให้ได้

Source

]]>
1385368
Huawei กุมขมับ “ชิป” ผลิตสมาร์ทโฟนไม่พอ ปีหน้าอาจปิดตำนาน Kirin ในมือถือ https://positioningmag.com/1298399 Wed, 23 Sep 2020 10:37:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1298399 Huawei เครียด “ชิป” ผลิตอุปกรณ์ในโครงข่ายโทรคมนาคมยังมีพอ แต่ที่ใช้สำหรับผลิตสมาร์ทโฟนส่อแววไม่พอ หลังจากสิ้นปีนี้ไป อาจไม่ได้ใช้ชิประดับสูงอย่าง Kirin อีกแล้ว หลังสหรัฐฯ กีดกันไม่ให้ Qualcomm ผู้ผลิตชิปทำการค้าด้วย นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนไปใช้ระบบ Harmony OS แทนในมือถือ Huawei ทุกรุ่น

Huawei Technologies ยักษ์เทคโนโลยีจีน และเหยื่อรายใหญ่รายแรกในสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ เปิดเผยว่าบริษัทมีซัพพลายชิปเพียงพอสำหรับธุรกิจอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคม แต่ไม่เพียงพอสำหรับผลิตโทรศัพท์มือถือ และต้องการจะซื้อซัพพลายใหม่จากบริษัทสหรัฐฯ ทั้งนี้ จะต้องได้รับ “ใบอนุญาต” จากเจ้าหน้าที่รัฐสหรัฐฯ ก่อน ตามกฎหมายใหม่ที่ออกมาเมื่อปี 2019

ความเดิมตอนที่แล้วคือเมื่อปี 2019 สหรัฐฯ มีการออกบัญชีดำที่เรียกว่า Entity List ห้ามมิให้บริษัทอเมริกันทำการค้ากับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ และ Huawei เป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น โดยที่ Huawei ยังต้องพึ่งพาส่วนประกอบและซอฟต์แวร์จากสหรัฐฯ อยู่ ที่สำคัญที่สุดคือ “ชิป” จากบริษัท Qualcomm กับ TSMC และระบบปฏิบัติการ Android

บริษัทกล่าวว่า ยังคงมีการประเมินอยู่ว่าผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะส่งผลแค่ไหน หลังจากได้รับซัพพลายชิปลอตสุดท้ายเข้ามาเติมสต็อกในเดือนกันยายน

“สต็อกชิปเซ็ตสำหรับใช้กับธุรกิจเอนเตอร์ไพรซ์ (หมวดสินค้าที่เกี่ยวกับโครงข่ายโทรคมนาคม) นั้นมีเพียงพอ แต่บริษัทยังมองหาทางแก้ปัญหาชิปเซ็ตสำหรับใช้กับสมาร์ทโฟนอยู่ เนื่องจาก Huawei มีดีมานด์การใช้ชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนหลายร้อยล้านชิ้นทุกปี” Guo Ping กล่าวบนเวที Huawei Connect 2020 งานอีเวนต์ประจำปีของบริษัท

“ชิปเซ็ตของ Qualcomm จะยังใช้กับสมาร์ทโฟนของเรา ถ้าหากพวกเขาได้ใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ Qualcomm เป็นพาร์ตเนอร์ธุรกิจที่ส่งซัพพลายชิปเซ็ตให้เรามานานมากกว่า 1 ทศวรรษ” Ping กล่าว

การบังคับใช้กฎหมาย “แบน” Huawei ออกจากสารบบการค้าของบริษัทเทคฯ อเมริกันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัท Qualcomm และ TSMC ผลิตและส่งชิปให้ไม่ได้ นอกเสียจากจะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐ และการรับรองอนุญาตก็ดูเหมือนจะไม่มีความแน่นอนแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ แถลงการณ์ของ Huawei จะย้ำเสมอว่าบริษัทมีการสต็อกซัพพลายชิปเซ็ตเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม Richard Yu ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ (หมวดสินค้าที่เกี่ยวกับผู้บริโภครายย่อย) ของ Huawei กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เป็น “ความสูญเสียครั้งใหญ่” และบริษัทอาจจะไม่สามารถออกจำหน่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้เทคโนโลยีชิประดับไฮเอนด์ Kirin ได้หลังจากหมดสิ้นปีนี้

ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่า โอกาสที่สหรัฐฯ จะยอมอนุญาตให้ Qualcomm กลับมาส่งชิปให้ Huawei ได้ก็ริบหรี่ “จากความตั้งใจของสหรัฐฯ ที่พยายามกีดกันไม่ให้ Huawei พัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีระดับสูง เช่น 5G ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะยกเลิกการแบนเรื่องชิปโทรศัพท์มือถือในระยะเวลาอันสั้นก็มีน้อยมาก” Arisa Liu นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมผลิตชิปจาก Taiwan Institute of Economic Research กล่าว

ด้านปัญหาซอฟต์แวร์ Huawei กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่า บริษัทกำลังเตรียมตัวปรับระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนทั้งหมดของค่ายมาใช้ Harmony OS ซึ่งเป็นระบบของบริษัทเอง แทนที่ระบบ Android ที่บริษัทเคยใช้มาตลอด

ธุรกิจสมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจกลุ่มคอนซูเมอร์ของ Huawei ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจสัดส่วนใหญ่ที่สุดในบริษัท ธุรกิจกลุ่มนี้สร้างรายได้ 3.65 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วงครึ่งปีแรกปี 2020 และสมาร์ทโฟน Huawei สามารถเอาชนะ Samsung แซงขึ้นเป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลกเรียบร้อยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยคว้าส่วนแบ่งตลาดไป 19% ส่วน Samsung มีส่วนแบ่งตลาด 17%

หลังจาก Huawei เป็นเหยื่อรายแรกในสงครามเทคโนโลยีของจีน-สหรัฐฯ บริษัทอื่นๆ ก็ถูกโจมตีตามมาอีกเป็นพรวน ไม่ว่าจะเป็นบริษัท AI อย่าง Megvii และ SenseTime หรือกลุ่มแอปพลิเคชันดัง เช่น TikTok, WeChat ด้วยข้อกล่าวหาเดียวกันคือ “เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ” เพราะมีการส่งข้อมูลชาวอเมริกันกลับไปให้รัฐบาลจีน โดยที่บริษัทเทคโนโลยีจีนทั้งหมดในลิสต์ถูกแบนต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาเป็นเสียงเดียวกัน

Source

]]>
1298399
‘Nvidia’ ทุ่ม 4 หมื่นล้านเหรียญฯ ซื้อ ARM บริษัทผลิตชิปจาก ‘SoftBank’ https://positioningmag.com/1296993 Mon, 14 Sep 2020 15:25:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1296993 SoftBank ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของญี่ปุ่น จำต้อง ‘ลดหนี้-เพิ่มเงินสด’ เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขาดทุนถึง 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.1 เเสนล้านบาท) เนื่องจากการลงทุนอย่างหนักในธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลก ซึ่งต่างก็ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และก่อนหน้าก็ต้องเจ็บจาก ‘WeWork’ อดีตสตาร์ทดาวรุ่งผู้ให้บริการ Co-Working Space จนต้องทำให้ SoftBank ต้องขายหุ้นบางส่วนใน T-Mobile มูลค่ารวมกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ล่าสุด SoftBank ก็ได้ปิดดีลขาย ‘ARM’ ผู้ผลิตชิปสัญชาติอังกฤษให้กับ ‘Nvidia’ บริษัทผลิตการ์ดจอ (GPU) เกมคอมพิวเตอร์และรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ในมูลค่าสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นดีลเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยดีลนี้จะช่วยให้ Nvidia กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอุปกรณ์เชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, พีซี, หุ่นยนต์และ 5G เนื่องจาก ARM เป็นผู้ผลิตชิปเซ็ตบนสมาร์ทโฟนและพีซีไม่ว่าจะเป็น Apple, Samsung รวมถึง Qualcomm และชิป Snapdragon ต่างถูกออกแบบบนสถาปัตยกรรมของ ARM ทั้งหมด

ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2016 หรือ 4 ปีก่อน SoftBank ได้เทกโอเวอร์ ARM ในมูลค่าสูงถึง 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (9.7 แสนล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการครอบครองบริษัทจากต่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดโดยบริษัทญี่ปุ่นในเวลานั้น และหลังจากที่ SoftBank ปิดดีลดังกล่าวได้ ส่งผลให้หุ้น SoftBank ในโตเกียวเติบโตเกือบ 9%

Source

]]>
1296993