ซิโนเเวค – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 21 Nov 2021 07:56:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เเคนาดา อนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด ‘ซิโนฟาร์ม-ซิโนแวค-โควาซิน’ เดินทางเข้าประเทศได้ https://positioningmag.com/1363133 Sun, 21 Nov 2021 03:21:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1363133 เเคนาดาอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของ ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม เเละโควาซิน เดินทางเข้าประเทศได้ ตั้งแต่วันที่ 30 .. เป็นต้นไป

โดยเป็นการขยายจากปัจจุบันที่ทางการแคนาดาได้ให้การรับรองเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และแอสตร้าเซเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนที่แคนาดาใช้ฉีดให้ประชาชนในประเทศ

โดยกระทรวงสาธารณสุขของแคนาดา ยังระบุด้วยว่า พลเมืองแคนาดา, ผู้อยู่อาศัยถาวร และผู้ขึ้นทะเบียนภายใต้กฎหมายชนพื้นเมือง รวมไปถึงเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่ร่วมเดินทางเเละบุคคลที่มีข้อห้ามทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีน ที่เดินทางออกนอกประเทศ ทั้งทางบกหรือทางอากาศ ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการตรวจโควิด-19 เเบบ RT-PCR เมื่อเดินทางกลับประเทศอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ..นี้เช่นกัน

นอกจากนี้ นับตั้งแต่วันที่ 15 .. 2565 เป็นต้นไป ผู้เดินทางบางกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกเว้นจากข้อกำหนดในการเข้าประเทศนั้น จะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่แคนาดาได้เมื่อพวกเขาฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโดสแล้ว

โดยกลุ่มนี้รวมไปถึงผู้ที่เดินทางเพื่อไปพบกับครอบครัว นักศึกษาต่างชาติ นักกีฬาอาชีพและสมัครเล่น ผู้มีใบอนุญาตทำงานถูกกฎหมาย และพนักงานบริการที่จำเป็นด้านอื่นๆ อย่าง คนขับรถบรรทุก เป็นต้น

Jean-Yves Duclos รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของแคนาดา กล่าวว่า แคนาดากำลังเดินหน้าสู่การเปิดพรมแดนทางเศรษฐกิจและสังคมที่กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังการกระจายวัคซีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ปัจจุบันแคนาดามียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมราว 1.7 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิต 2.9 หมื่นราย

 

ที่มา : business-standard , canada.ca 

]]>
1363133
วัคซีน ‘Sinovac’ ของจีน ขายดีมากกว่า 1 พันล้านโดส นักลงทุนฟันกำไรครึ่งปีแรก เกือบ 6 เท่า https://positioningmag.com/1349578 Wed, 01 Sep 2021 07:17:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1349578 เหล่านักลงทุนในบริษัท ‘Sinovac Biotech’ ทำกำไรในครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่ต้องมีการ ‘ฉีดวัคซีน’ ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า วัคซีนป้องกันโควิด ชนิดเชื้อตาย ที่รู้จักในชื่อ ‘CoronaVac’ ที่สร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้านโดส ช่วยให้ Sino Biopharmaceutical ซึ่งถือหุ้น 15% ในบริษัทย่อยของ Sinovac Biotech ทำกำไร 8,480 ล้านหยวน (ราว 4.2 หมื่นล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2021 

โดยจำนวนนี้ เป็นส่วนบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้า เเละลงทุนใน Sinovac สัดส่วนถึง 6,910 ล้านหยวน (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) จากกำไรทั้งหมด

รายได้ของบริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติจีนรายนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายได้มหาศาลที่ Sinovac ได้มาจากการจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิดไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

โดย Sinovac ซึ่งหุ้นถูกระงับการซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq ตั้งแต่ต้นปี 2019 ยังไม่รายงานผลประกอบการในปี 2021 ส่วน Sino Biopharmaceutical ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดในบริษัทที่เข้าไปลงทุน

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ Sino Biopharmaceutical พุ่งขึ้น 1.7% ในวันนี้ (1 ..)

สำหรับ Sino Biopharmaceutical เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของจีน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีเครือเจริญโภคภัณฑ์บริษัทใหญ่ในไทย เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยใน Sino Biopharmaceutical

มาตรการรณรงค์เพื่อฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กลายเป็นความจำเป็นของทุกประเทศทั่วโลกเช่นนี้นั้นไม่เคยมีมาก่อนส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ทำกำไรได้มหาศาล

ยกตัวอย่าง เช่น บริษัท Pfizer ที่ร่วมมือกับ BioNTech สามารถทำยอดขายได้ 7,800 ล้านดอลลาร์ จากการจำหน่ายวัคซีนโควิดชนิด mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูง เเละประเมินว่าจะทำรายได้สูงกว่า 33,500 ล้านดอลลาร์ได้ในปีนี้

ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ‘Sino Biopharm’ เพิ่งเปลี่ยนจากการลงทุนในบริษัทผลิตยาทั่วไป มาลงทุนในบริษัทผลิตยาเพื่อต้านมะเร็ง โดยลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐในบริษัท Sinovac ซึ่งปัจจุบันมูลค่าหุ้น เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

ท่ามกลางความสงสัย เกี่ยวกับประเด็นเรื่องค่าประสิทธิภาพ จากการทดลองระยะสุดท้าย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดตามอาการน้อยกว่าวัคซีนที่พัฒนาในประเทศตะวันตก แต่วัคซีนของ Sinovac ก็ได้รับการอนุมัติใช้ในกว่า 50 ประเทศ เเละได้รับการรับรองใช้จากองค์การอนามัยโลก

ส่วนโครงการ COVAX ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในกระจายวัคซีนให้แก่ประเทศยากจน ก็มีคำสั่งซื้อวัคซีน Sinovac หลายร้อยล้านโดส เเละบริษัทจีนอีกแห่งคือ Sinopharm

 

ที่มา : Bloomberg

]]>
1349578
WHO รับรองใช้วัคซีน ‘ซิโนเเวค’ กรณีฉุกเฉินเเล้ว เเนะใช้กับกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป https://positioningmag.com/1334962 Tue, 01 Jun 2021 16:05:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1334962 WHO ประกาศรับรองใช้วัคซีนซิโนเเวค’ (Sinovac) กรณีฉุกเฉินแล้ว เเนะนำใช้สำหรับกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป

องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ในวันที่ 1 มิ.. 2021 อนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทซิโนแวค ไบโอเทคสำหรับใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน นับเป็นวัคซีนโควิดจากประเทศจีนตัวที่ 2 หลังวัคซีนซิโนฟาร์ม’ (Sinopharm) ผ่านรับรองดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ WHO ยังอนุมัติให้วัคซีนซิโนแวค เข้าร่วมโครงการ COVAX จัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับประเทศยากจนด้วย ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาขาดเเคลนวัคซีน เนื่องจากอินเดียระงับการส่งออก เพราะยอดติดเชื้อในประเทศพุ่งสูงเข้าขั้นวิกฤต

แถลงการณ์ของ WHO ระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระได้แนะนำให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค กับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป โดยให้โดสที่ 2 ห่างจากโดสแรก 2-4 สัปดาห์ และไม่จำกัดอายุของผู้ฉีดวัคซีน เนื่องจากตามข้อมูลชี้ว่า มีแนวโน้มที่วัคซีนซิโนเเวคจะมีผลการป้องกันในผู้สูงอายุ

คณะที่ปรึกษาด้านเทคนิคของ WHO ได้เริ่มประชุมกันเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เเละตัดสินใจอนุมัติเรื่องนี้หลังจากได้ตรวจสอบข้อมูลทางคลินิกล่าสุด เกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการผลิตของบริษัทเเล้ว

ทั้งนี้ วัคซีนซิโนแวค เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย (Inactivated vaccines) ซึ่งผลิตโดยการนำเชื้อไวรัสมาเพาะเลี้ยงแล้วทำให้เชื้อตาย เมื่อนำมาฉีดร่างกายจะตอบสนองแบบธรรมชาติ เพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันต้านเชื้อโควิด ปัจจุบันมีการจัดหาวัคซีนนี้มากกว่า 600 ล้านโดสทั้งในจีนและต่างประเทศ โดยเฉพาะในโซนแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา

สำหรับประสิทธิภาพของซิโนแวคนั้น สามารถป้องกันโรคที่แสดงอาการได้ 51% ป้องกันอาการรุนแรงและอาการป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลได้ 100%

Reuters รายงานว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุมกันโรคขององค์การอนามัยโลก (SAGE) ระบุในเอกสารทบทวนประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคก่อนหน้านี้ว่า จากการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในหลายประเทศ ซิโนแวคมีผลป้องกันโควิด-19 ระหว่าง 51% ถึง 84%

ส่วนกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่าจากการศึกษาบุคลากรทางการแพทย์ 120,000 คนที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค พบว่ามีประสิทธิภาพป้องกันอาการของโรค 94%

โดยวัคซีนป้องกันโควิด-19 -ของซิโนแวค เป็นวัคซีนชนิดที่ 7 ของโลก ที่ผ่านการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก ต่อจาก วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) , วัคซีนแอสตร้าเซนเนกา (AstraZeneca) , วัคซีนโควิชิลด์ที่ผลิตในอินเดีย (Covishield) , วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson), วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) และวัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm)

 

 

ที่มา : Reuters , WHO 

]]>
1334962
ผู้ผลิตวัคซีน อาจโกยรายได้ปีนี้ เกือบ 6 ล้านล้านบาท ‘ซิโนฟาร์ม-ซิโนแวค’ สัดส่วน 25% https://positioningmag.com/1334373 Fri, 28 May 2021 08:30:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1334373 ในปีนี้ บริษัทวิจัยประเมินว่า บรรดาผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของโลก อาจทำรายได้สูงสุดเเตะ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 6 ล้านล้านบาท โดยสองบริษัทจีนอย่าง Sinopharm (ซิโนฟาร์ม) เเละ Sinovac (ซิโนเเวค) โกยสัดส่วนรายได้ไปถึง 25%

Airfinity บริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ รายงานตัวเลขคาดการณ์รายได้จากการจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19’ ของ 9 บริษัทใหญ่ เช่น Pfizer (ไฟเซอร์) เเละ Moderna (โมเดอร์นา) ของสหรัฐฯ Sinovac Biotech และ Sinopharm Group ของจีน

โดยระบุว่า กรณีการผลิตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ผู้ผลิตวัคซีนทั้งหลายจะทำรายได้ราวสูงสุดถึง 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.9 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ สองบริษัทจากประเทศจีน จะมีสัดส่วนรายได้อย่างน้อย 1 ใน 4 (ราว 25%)

เเต่หากเกิดข้อจำกัดด้านการผลิตและปัญหาการขาดแคลน อาจทำให้ตัวเลขรายได้ของปีนี้ ลดลงมาอยู่ที่ 115,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.59 ล้านล้านบาท)

วัคซีนโควิด-19 ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนของรัฐบาลต่างๆ เพื่อฟื้นฟูสังคม และหลีกเลี่ยงต้นทุนทางเศรษฐกิจที่จะเสียหายหลายล้านล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงวัคซีนของประเทศยากจนหลายแห่ง ยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากภาระค่าใช้จ่าย และการกักตุนวัคซีนในประเทศร่ำรวย

Rasmus Bech Hansen ซีอีโอของ Airfinity ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่านี่เป็นตลาดที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวเลขเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่ว่าทุกประเทศจะสามารถจัดหาวัคซีนที่จำเป็นได้ เพราะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อฉีดวัคซีนให้ประชากรทั้งหมด

Photo : Shutterstock

Airfinity ย้ำว่า การคาดการณ์รายได้ ขึ้นอยู่กับราคาและการที่บริษัทต่างๆ จะบรรลุเป้าหมายการผลิตและการจัดส่งหรือไม่ โดยขณะนี้มีบางบริษัทกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่

ปัจจัยเหล่านี้ อาจทำให้จำนวนวัคซีนที่ผลิตได้จริงในปีนี้ น้อยกว่าที่เหล่าผู้ผลิตคาดการณ์ไว้ถึง 42% เเละอาจทำให้รายได้รวม ลดลงเหลือเพียง 97,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

ยกตัวอย่าง เช่น การผลิตวัคซีนของ Novavax (โนวาเเวกซ์) ในสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากกว่า 2,000 ล้านโดสในปีนี้ แต่ทาง Airfinity ประเมินว่าจะสามารถผลิตได้เพียง 400 ล้านโดส

จีนกำลังมีบทบาทสำคัญในการกระจายวัคซีนทั่วโลก หลังคู่เเข่งอย่างอินเดียต้องเจอกับวิกฤตการระบาดขั้นสาหัสทำให้ต้องระงับการส่งออกวัคซีนไปต่างประเทศชั่วคราว

Airfinity ประเมินว่า บริษัทจีนอย่าง Sinovac อาจทำรายได้จากการจำหน่ายวัคซีนมากถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Sinopharm จะทำได้ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขณะนี้ทั้งสองบริษัท ทำรายได้ไปแล้วอย่างน้อยแห่งละ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่ผ่านมา เราเคยมองว่าการส่งออกวัคซีนของจีนเป็นเครื่องมือนโยบาย ทำให้ตัวเลขรายได้ที่เเท้จริงกลับถูกมองข้ามไปจริงๆ เเล้วราคาวัคซีนของจีนไม่ได้ถูกขนาดนั้น” Bech Hansen กล่าวว่า 

(Photo by Andressa Anholete/Getty Images)

ด้านรายได้ของ Pfizer และ Moderna บริษัทวิจัยประเมินว่า อาจทำรายได้ถึง 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ แต่ตัวเลขจริงอาจจะลดลงกว่านั้น

โดย Pfizer เองตั้งเป้าจะจำหน่ายวัคซีนที่ร่วมพัฒนากับ BioNTech ของเยอรมนีได้ราว 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Moderna ตั้งเป้าว่าจะทำรายได้ราว 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับราคาของวัคซีนเเต่ละเจ้า ตามรายงานของ Airfinity ระบุว่า

  • Sinovac และ Sinopharm อยู่ที่โดสละ 12-23 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 375-720 บาท) 
  • Pfizer อยู่ที่โดสละ 12-14.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 375-453 บาท)
  • Moderna อยู่ที่โดสละ 18-32 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 563 – 1,000 บาท)
  • AstraZeneca อยู่ที่โดสละ 3.50-5.25 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 109 – 164 บาท)

ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาการซื้อขายวัคซีนที่เเตกต่างกันทำให้คาดการณ์ตัวเลขยอดขายได้ยาก เนื่องจากผู้ผลิตจะกำหนดราคา ตามระดับรายได้ของประเทศนั้นๆ เช่นกลุ่มลูกค้าประเทศร่ำรวย บริษัทจะขายให้เเพงกว่าประเทศรายได้ต่ำหรือปานกลางนั่นเอง

 

 

ที่มา : Bloomberg

 

]]>
1334373