ทัวร์จีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 15 Mar 2023 13:46:37 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อัปเดตพฤติกรรม ‘นักท่องเที่ยวจีน’ หลังโควิดเน้นท่องเที่ยวเชิง ‘ธรรมชาติ’ ต้องการความเป็นส่วนตัว https://positioningmag.com/1423365 Wed, 15 Mar 2023 11:06:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423365 หลังจาก จีน ผ่อนคลายนโยบายควบคุมการระบาดของ COVID-19 มากขึ้น สิ่งที่ประชาชนชาวจีนโหยหาที่สุดคงไม่พ้น การเที่ยว หลังจากต้องอยู่แต่ในประเทศนาน 3 ปี อย่างไรก็ตาม การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนจากนี้ก็ไม่เหมือนเดิม แต่เน้นที่การท่องเที่ยวกับธรรมชาติมากขึ้นและเดินทางเป็นครอบครัว

เน้นสัมผัสธรรมชาติและไปเป็นครอบครัว

ตามข้อมูลของ สถาบันวิจัยการท่องเที่ยวขาออกของจีน ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีนที่เปลี่ยนไปว่า เมืองสำคัญ ๆ ในยุโรป เช่น เวนิส ปารีส และมาดริด ไม่ใช่ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวจีนอีกต่อไป

โดยหลังจากที่เดินทางไปต่างประเทศไม่ได้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนจากเน้นไปแลนด์มาร์กท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ไปสู่ ​​การท่องเที่ยวสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้นและเน้นกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น เช่น การตั้งแคมป์ นอกจากนี้ ยังเน้นการเดินทางเป็น ครอบครัว

“ในช่วง 3 ปีของการปิดประเทศ ทุกคนต้องเดินทางในประเทศ รวมถึงคนรวยด้วย ซึ่งช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ นี่จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ Wolfgang Georg Arlt ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ COTRI กล่าว

ภาพจาก Shutterstock

ยังใช้บริการกรุ๊ปทัวร์แต่ไปแบบกรุ๊ปเล็ก

นักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่ (55%) ยังเลือกจองการเดินทางต่างประเทศ ผ่านบริษัททัวร์ แต่การท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ ๆ แบบเดิมจะลดน้อยลง เพราะ คนจีนต้องการความเป็นส่วนตัวและความเป็นอิสระมากขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวแบบ private group ซึ่งเริ่มได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีนตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด จะยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก

เนื่องจากการแพร่ระบาด บริษัททัวร์หลายแห่งได้ปิดตัวลงหรือลดความจุลง นี่ถือเป็นโอกาสสำหรับน้องใหม่ที่กำลังเข้ามาในตลาดทัวร์ แต่ต้องสร้างความแตกต่างโดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวอย่างที่ระบุไปในข้างต้น ว่านักท่องเที่ยวจีนไม่ได้สนใจจะไปที่แลนด์มาร์กสำคัญ ๆ อีกต่อไป เขาต้องการความแตกต่าง และเขาไม่อยากไปที่ท่องเที่ยวซ้ำ ๆ ซึ่งจะยิ่งช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนหน้าใหม่

“ทัวร์แบบกลุ่มจะยังคงเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขา แต่เขาอยากไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แลนด์มาร์กสำคัญ ๆ อีกต่อไป เช่น นักท่องเที่ยวชาวจีนอายุน้อยอาจชอบไปร้านกาแฟท้องถิ่นที่พวกเขาเห็นในโซเชียลมีเดียมากกว่า” ไซเมียน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาองค์กรของ Fliggy กล่าว

Photo : Shutterstock

ต้องสู้กับท่องเที่ยวภายในประเทศ

ในปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศเกือบ 170 ล้านครั้ง ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน และจากการศึกษาของเว็บไซต์ Ctrip.com แพลตฟอร์มจองการเดินทางของจีนพบว่า เฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก มีการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศทะลุ 127.5 พันล้านดอลลาร์

ส่วนในปี 2566 นี้ คาดว่าการเดินทางออกนอกประเทศของจีนจะฟื้นตัวประมาณ 2 ใน 3 เมื่อเทียบกับปี 2562 หรือมีการข้ามพรมแดนจากจีนประมาณ 110 ล้านครั้ง อย่างไรก็ตาม การเดินทางในช่วงต้นปียังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากสายการบินที่ปิดไปนานทำให้ยังไม่มีความพร้อม โดยเฉพาะในส่วนของ นักบิน ส่งผลให้ในช่วงวัน 6-12 ก.พ. มีเที่ยวบินระหว่างประเทศจากจีนเติบโตเพียง 9% เมื่อเทียบกับปี 2562

อย่างไรก็ตาม ในจีนเองก็พยายามจะดึงให้คนจีนท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้มีการปรับปรุงคุณภาพและข้อเสนอที่หลากหลายของการเดินทางภายในประเทศ ดังนั้น การแข่งขันไม่ได้อยู่แค่กับประเทศอื่น ๆ แต่ต้องแข่งขันกับตลาดในประเทศด้วย โดยกลุ่มโรงแรม Accor ประมาณการว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนราว 3 ใน 4 จะยังคงอยู่ในประเทศ เพราะขีดความสามารถในการเดินทางระหว่างประเทศยังไม่อยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2019

ปัจจุบัน ประเทศไทยถือเป็นปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวจีน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์มีนักท่องเที่ยวชาวจีนราว 180,000 คน และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวจีนมากถึง 15 ล้านคน หรือประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด

Source

]]>
1423365
‘กรุงเทพ-ภูเก็ต’ ติด Top 5 ปลายทางที่ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ ไปมากที่สุดช่วง ‘ตรุษจีน’ https://positioningmag.com/1416947 Fri, 27 Jan 2023 04:45:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1416947 นับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จีนได้ยกเลิกข้อบังคับที่ให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องเข้ารับการกักตัว หลังจากที่ช่วงสิ้นปี 2565 ทางการได้ลดมาตรการควบคุมโควิดภายในประเทศเกือบทั้งหมด และแน่นอนว่า Top 10 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนอยากไปก็คือ ประเทศไทย

ซึ่งในช่วงวัน ตรุษจีน หรือ วันปีใหม่จีน ซึ่งคนจีนจะหยุดยาวประมาณ 7-15 วันเลยทีเดียว โดยทางเว็บไซต์ Trip.com ก็ได้เก็บข้อมูล การจองเที่ยวบิน บนแพลตฟอร์มในช่วง 4 วันแรกของวันตรุษจีน โดยพบว่า 5 ปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมากที่สุดในช่วงตรุษจีน ได้แก่

  • ฮ่องกง
  • มาเก๊า
  • กรุงเทพมหานคร
  • สิงคโปร์
  • ภูเก็ต

ที่น่าสนใจคือ ปลายทางอย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็น Top 10 ปลายทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับไม่ได้ติด Top 5 ในช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดชั่วคราวสำหรับผู้เดินทางจากจีน ซึ่งรวมถึงการจำกัดวีซ่าและการกักตัวบุคคลที่ติดเชื้อโควิด ต่างจากสิงคโปร์และประเทศไทยที่ยกเลิกแผนการกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด

ส่อง 10 ประเทศที่ ‘ชาวจีน’ ค้นหามากที่สุดหลังรัฐบาล ‘เปิดประเทศ’ ยกเลิกมาตรการกักตัว

ทั้งนี้ Trip.com ยังได้เปิดเผยว่า การจองเที่ยวบินสำหรับการเดินทางจากแผ่นดินใหญ่ไปยังจุดหมายปลายทางในต่างประเทศในช่วง 4 วันแรกของวันหยุดได้ เพิ่มขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

Source

]]>
1416947
ส่อง 10 ประเทศที่ ‘ชาวจีน’ ค้นหามากที่สุดหลังรัฐบาล ‘เปิดประเทศ’ ยกเลิกมาตรการกักตัว https://positioningmag.com/1414080 Tue, 27 Dec 2022 06:55:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414080 เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี ของการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดในการสกัดกั้น COVID-19 นับตั้งแต่การปิดพรมแดนไปจนถึงการล็อกดาวน์บ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน แต่ในเดือนนี้จีนตัดสินเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน โดยลดมาตรการควบคุมโควิดภายในประเทศเกือบทั้งหมด และล่าสุด ได้ยกเลิกข้อบังคับที่ให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องเข้ารับการกักตัว โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

ภายในครึ่งชั่วโมงหลังจีนประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายซึ่งเป็นสัญญาณถึงการเปิดประเทศเต็มรู้แบบเพราะไม่ต้องกักตัวอีกต่อไป แต่นักเดินทางที่เดินทางเข้าสู่จีนจะยังคงต้องทำการตรวจเชื้อแบบ PCR ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทางเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

ส่งผลให้การ ค้นหาท่องเที่ยวต่างประเทศพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี ตามรายงานของ Trip.com Group ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประชาชนชาวจีนต่างเร่งวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงหยุดยาวปลายเดือนมกราคม เริ่มตั้งแต่วันที่ 21-27 มกราคม โดยช่วงเวลสดังกล่าวถือเป็นช่วงหยุดยาวที่สุดของจีน

สำหรับจุดหมายปลายทางนอกประเทศที่ชาวจีนให้ความสนใจ 10 จุดหมาย ได้แก่

  • ญี่ปุ่น
  • ไทย
  • เกาหลีใต้
  • สหรัฐอเมริกา
  • สิงคโปร์
  • มาเลเซีย
  • ออสเตรเลีย
  • สหราชอาณาจักร
  • มาเก๊า
  • ฮ่องกง

จะเห็นว่า ไทย ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของชาวจีน โดยก่อนที่จะเกิดการระบาดใหญ่ของ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนถึง 10.99 ล้านคน (อ้างอิงตัวเลขปี 2562) คิดเป็น 27.63% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด สร้างรายได้ 5.43 แสนล้านบาท และในปีหน้า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย เป็นจำนวนกว่า 18 ล้านคน และจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท

คงต้องรอดูว่าเมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถเดินทางได้ จะช่วยให้สร้างเม็ดเงินให้การท่องเที่ยวไทยได้เหมือนกับก่อนช่วง COVID-19 ระบาดหรือไม่

]]>
1414080
ไม่ให้อินเดียแซงนาน! ผลสำรวจชี้คน ‘จีน’ 62% พร้อมเที่ยวต่างประเทศ ขอแค่ยกเลิก Zero Covid https://positioningmag.com/1390398 Tue, 28 Jun 2022 09:18:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1390398 ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เปิดเผยถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลพบว่า นักท่องเที่ยว อินเดีย ขึ้นแท่นเที่ยวไทยมากที่สุด ด้วยจำนวนถึง 161,131 คน ตามด้วย มาเลเซีย (137,969 คน) ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ สหราชอาณาจักร ตามด้วย สิงคโปร์ และ เยอรมนี แน่นอนว่าที่ไร้ชื่อแชมป์เก่าอย่าง จีน ไม่ใช่เพราะไม่อยากมา แต่จากมาตรการ Zero Covid ที่ทำให้การเดินทางข้ามประเทศยังไม่สะดวกนัก

72% ของคนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพร้อมท่องเที่ยว

Booking.com ได้เผยผลรายงานจาก ดัชนีความเชื่อมั่นการเดินทาง (Booking.com Travel Confidence Index) ซึ่งเป็นการรวมผลสำรวจข้อมูลความคิดเห็นของผู้เดินทางจำนวน 11,000 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครอบคลุม 11 ประเทศสำคัญ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี นิวซีแลนด์ ไต้หวัน และเวียดนาม

จากผลสำรวจพบว่า พวกเขาอยากจะกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง โดย 76% ตั้งใจที่จะ ออกเดินทางในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดย 46% ให้เหตุผลว่าที่อยากเดินทางท่องเที่ยวเป็นเพราะ ต้องการหลีกหนีจากความเบื่อหน่ายในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่าย (38%) และ ความปลอดภัย (37%) ถือเป็น 2 ปัจจัยสำคัญที่เลือกพิจารณาเมื่อต้องวางแผนการเดินทางครั้งใหม่ โดยเฉพาะ ความกลัวที่จะต้องกักตัว และ กลัวว่าจะต้องติดอยู่ประเทศปลายทาง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงฉับพลันของมาตรการเดินทางเข้าประเทศ

อินเดียพร้อมเที่ยวสุดใน 11 ประเทศ

อินเดียถือเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นในการเดินทางมากที่สุด (86%) ดังนั้น อาจไม่น่าแปลกใจที่คนอินเดียจะขึ้นแท่นอันดับ 1 นักท่องเที่ยวของไทยในตอนนี้ (161,131 คน) โดยคนอินเดียส่วนใหญ่ต้องการท่องเที่ยวพร้อมกับ ครอบครัว (58%) ตามด้วย คู่รัก (46%) และ เพื่อน (39%)

ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้คนอินเดียอยากออกเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่

  • มีความมั่นใจในเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย (25%)
  • พักเหนื่อยจากการทำงาน (23%)
  • หาประสบการณ์ใหม่ ๆ (22%)
  • มีส่วนลดที่น่าสนใจ (20%)
  • ต้องการนำเรื่องราวการท่องเที่ยวไปแชร์ในโซเชียลมีเดีย (9%)

นักท่องเที่ยวจีน 62% พร้อมเที่ยวต่างประเทศ

โดยจากข้อมูลพบว่า 89% ของผู้เดินทางชาวจีนเผยว่า แม้ตั้งใจวางแผนที่จะออกเดินทางอีกครั้ง แต่แผนการเดินทางดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นในปีถัดไป (2023) และด้วยนโยบาย Zero Covid ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีน เกือบ 3 ใน 10 คน วางแผนที่จะเดินทางภายในประเทศก่อน และมีถึง 68% ตั้งใจที่จะท่องเที่ยวประมาณ 3 ทริปภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม 62% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีน ตั้งใจจะเดินทาง ท่องเที่ยวต่างประเทศทันที ถ้าประเทศจีน ยกเลิกนโยบาย Zero Covid ทั้งนี้ ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนตั้งใจจะไปเที่ยวสูงสุด ได้แก่

  • ญี่ปุ่น/เกาหลีใต้ (43%)
  • ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (28%)
  • ประเทศในแถบโอเชียเนีย (19%)

ไทยเน้นเที่ยวในประเทศก่อน

สำหรับประเทศไทย 70% ของผู้เดินทางชาวไทย พร้อมจะออกเดินทางในปีต่อไป โดยสาเหตุสำคัญในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย (76%) คือ “การไปพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตและเติมพลังใจ” โดย การใช้เวลาพักผ่อนใกล้ชิดกับธรรมชาติ คือ สิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่กำลังมองหา และ 66% ของผู้เดินทางชาวไทยพร้อมที่จะยอมรับข้อจำกัดหรืออุปสรรคที่อาจทำให้การเดินทางต้องหยุดชะงักได้

และแม้ว่าตอนนี้ทั่วโลกจะสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้แล้ว แต่เกือบ 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวไทย ยังคงให้ความสำคัญกับ การเที่ยวในประเทศเป็นหลัก โดย 74% เลือกการ ขับรถด้วยตัวเอง รองลงมาคือเครื่องบิน (18%) และระบบขนส่งสาธารณะ (8%) ประเภทของทริปท่องเที่ยวในประเทศที่คนไทยสนใจมากที่สุด ได้แก่ เที่ยวทะเล (65%) ตามด้วยการ สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น (62%) และ การขับรถเที่ยว หรือ โรดทริป (45%)

ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เทรนด์มาแรง

ในแง่ความยั่งยืน ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 4 จาก 11 ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่ง 63% ของคนไทยมีความตั้งใจที่จะท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้นเมื่อเทียบกับแนวโน้มโดยรวมของตลาด (52%) โดยพวกเขากล่าวว่ายินดีที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน นอกจากนี้ 57% ของคนไทยเข้าใจและยอมรับได้หากจะมีตัวเลือกที่พักให้เลือกน้อยลง ตราบใดที่ตัวเลือกที่พักเหล่านั้นมีนโยบายที่สนับสนุนความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ยังมีข้อกังวลหลายประการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้แก่ ค่าใช้จ่ายที่สูงในการเข้าถึงการเดินทางแบบยั่งยืน (66%) ข้อจำกัดในการเข้าถึงตัวเลือกการเดินทางแบบยั่งยืนในขณะออกเดินทาง (60%) และตัวเลือกด้านการเดินทางแบบยั่งยืนยังขาดความชัดเจน (59%)

]]>
1390398
โจทย์ใหญ่ธุรกิจท่องเที่ยว เปิดประเทศเเต่ขาดลูกค้าชาวจีน เเถมใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่  https://positioningmag.com/1360457 Thu, 04 Nov 2021 16:45:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1360457 หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงไทย เริ่มทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลก เป็นความหวังใหม่ของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักมานานนับปี เเต่ยังคงมีอุปสรรคใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การหายไปของนักท่องเที่ยวจีน

ก่อนเกิดวิกฤตโควิด ประเทศจีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวขาออกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เเต่ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินมาตรการเข้มงวดตามเเนวทางควบคุมการติดเชื้อให้เป็นศูนย์ โดยยังคงจำกัดเที่ยวบินระหว่างประเทศไว้ที่ 2% ของจำนวนเที่ยวบินโดยรวมก่อนเกิดโรคระบาด และยังไม่ได้ผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี

นั่นทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก ต้องหายไปถึง 255,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.5 ล้านล้านบาท) ต่อปี เหล่าผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวต้องปรับตัวครั้งใหญ่ พยายามเพื่อหารายได้อื่นมาทดเเทน

ผู้ประกอบการอย่างลากูน่า ภูเก็ตในไทย ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า รีสอร์ททั้ง 5 แห่งของบริษัท ต้องเปลี่ยนไปเน้นกลุ่มลูกค้าที่มาจากยุโรป สหรัฐอเมริกาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อชดเชยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เคยมีสัดส่วนกว่า 25%-30% ก่อนเกิดวิกฤตโรคระบาด

เราก็ยังไม่ได้ทำการตลาดหรือทุ่มโปรโมตในประเทศจีนมากนัก เพราะรู้สึกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวจีนยังไม่มาในตอนนี้” Ravi Chandran เอ็มดีของลากูน่า ภูเก็ต ประเทศไทย กล่าว

เศรษฐกิจไทยพึ่งพาธุรกิจภาคท่องเที่ยวอย่างมาก ทำให้ต้องรับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ครั้งนี้อย่างมหาศาล โดยคิดเป็นเงินกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.7 ล้านล้านบาทต่อปี

โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนนั้นถือเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายในไทย ‘สูงกว่าค่าเฉลี่ย’ ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

ในปีนี้ ประเทศไทยหวังว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ราว 180,000 คน คิดเป็นส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยมาไทยถึง 40 ล้านคนในปี 2019

ผู้เชี่ยวชาญหลายคน วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจีนน่าจะคงมาตรการที่เข้มงวดต่าง ๆ ไว้ เช่น การกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศนานถึง 3 สัปดาห์ ไปจนถึงไตรมาส 2 ของปีหน้าเป็นอย่างน้อย และอาจจะค่อย ๆ เปิดพรมแดนไปทีละประเทศ

Photo : Shutterstock

หาตลาดใหม่ ระหว่างรอนักท่องเที่ยวจีน 

Liz Ortiguera ผู้บริหารระดับสูงของ Pacific Asia Travel Association (PATA) กล่าวว่าประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ต้องหาตลาดใหม่ๆ เรียนรู้วิธีทำการตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มีวัฒนธรรมแตกต่างกัน

เธอยกตัวอย่างถึงมัลดีฟส์’ ที่ประสบความสำเร็จในการฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงโควิดระบาด โดยใช้วิธีโปรโมตตัวเองอย่างมาก ตามงานแสดงสินค้าและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียและอินเดีย ให้มาพักผ่อนในรีสอร์ทหรูได้มากขึ้น ทดเเทนกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเคยเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่มาเยือนมัลดีฟส์ก่อนเกิดโรคระบาด จะยังไม่กลับมาในเร็ววันนี้

ForwardKeys บริษัทสำรวจข้อมูลการเดินทาง คาดว่า จะต้องรอจนถึงปี 2025 กว่าที่ตลาดท่องเที่ยวขาออกของจีนจะฟื้นตัวเท่าระดับก่อนเกิดโรคระบาด ทำให้สายการบินต้องประเมินเส้นทางใหม่อีกครั้ง

โดยข้อมูลระบุว่า 38% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนใช้บริการสายการบินต่างประเทศในปี 2019 แม้ว่าสิงคโปร์ ไทย และอินโดนีเซียจะค่อยๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศเเล้ว แต่การบินไทยและสายการบินการูดาของอินโดนีเซีย ก็มีการปรับโครงสร้างบริษัทให้เล็กลงเพื่อความอยู่รอดในช่วงโควิด ท่ามกลางปัญหาขาดนักท่องเที่ยวจีน

ใกล้หมดยุค ‘ทัวร์จีน’ กรุ๊ปใหญ่ 

ถึงอนาคตทางการจีนจะผ่อนคลายข้อกำหนดการออกนอกประเทศเเล้ว เเต่ผลสำรวจก็สะท้อนให้เห็นอีกมุมว่า ชาวจีนหลายคนยังลังเลที่จะเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากความกลัวโควิด-19 เเละสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ อย่างเกาะไหหลำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของฮ่องกงและเกาหลีใต้ในอนาคต

หญิงชาวจีน วัย 29 ปีผู้ซึ่งเคยเดินทางไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหราชอาณาจักรก่อนการระบาดใหญ่ให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นอยากเดินทางระหว่างประเทศในตอนนี้มากนัก เพราะประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนได้น้อย

เทรนด์การเที่ยวชมธรรมชาติยังคงอยู่ในกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวจีน กิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เริ่มได้รับความนิยม เพราะผู้คนอยากหลีกเลี่ยงที่เเออัด

ตลาดจะเปลี่ยนไป คนจีนที่เดินทางในปี 2022 จะแตกต่างจากคนจีนที่เดินทางในปี 2019” ซีอีโอของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวขาออกของจีนกล่าว

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จะต้องปรับตัวตามความเปลี่ยนเเปลงใหม่ โดยความนิยมการเดินทางจะเป็นไปในรูปแบบกลุ่มเล็กๆ สำหรับคนที่สนิทกัน เเทนที่จะเป็นการจัดกรุ๊ปทัวร์กลุ่มใหญ่ ๆ เหมือนในอดีต

 

ที่มา : Reuters

]]>
1360457