ทำงาน 4 วัน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 31 Jul 2023 05:37:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผลวิจัยเผย ทำงาน 4 วันดีต่อพนักงาน ลดเบิร์นเอาต์ บริษัทมีรายได้เพิ่ม 15% หลังทดลองมา 1 ปี https://positioningmag.com/1439336 Sun, 30 Jul 2023 12:17:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439336 ผลวิจัยได้ชี้ถึงการทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 1 ปีนั้นพบว่าให้ผลดีต่อพนักงาน โดยลดอาการเบิร์นเอาต์ ขณะเดียวกันก็สร้างผลดีให้กับบริษัท ซึ่งเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทมากถึง 15% ด้วย ซึ่งหลายบริษัทเองก็ไม่ต้องการที่จะกลับไปให้พนักงานทำงาน 5 วันแล้วด้วย

ผลวิจัยจาก 4 Day Week Global ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้ออกผลวิจัยชี้ถึงผลดีของการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ หลังจากที่องค์กรดังกล่าวได้เริ่มการทดลองในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นระยะเวลา 12 เดือน และพบข้อดีทั้งในเรื่องของร่างกายและจิดใจของพนักงานเป็นอย่างมาก

ผลวิจัยที่ได้จาก 41 บริษัทพบว่าระยะการทำงานของพนักงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดอยู่น้อยกว่า 33 ชั่วโมงจากเดิมนั้นมากกว่า 38 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งใกล้แตะเป้าหมายที่ 32 ชั่วโมง หรือ 4 วันต่อสัปดาห์ ถ้าหากคิดการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

95% ของพนักงานที่เข้าร่วมนั้นมองว่าอยากให้มีการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์หลังจากนี้ 69% ของจำนวนพนักงานที่ได้เข้าร่วมการทดลองดังกล่าวพบว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ลดปัญหาการเบิร์นเอาต์

ขณะเดียวกันบริษัทที่ได้ทำการทดลองการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์นั้นไม่มีบริษัทใดเลยที่จะหันกลับไปทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ โดยบริษัทต่างๆ ให้คะแนนในการทดลองดังกล่าวมากถึง 8.7 จากคะแนนเต็ม 10 นอกจากนี้ในการทดลองยังเห็นรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 15% อีกด้วย

โดยรายงานดังกล่าวได้เปิดเผยมาแล้วหลังจากได้ทดลองมาเป็นระยะเวลา 6 เดือน และบริษัทที่เข้าร่วมการทดลองนั้นมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 8% ด้วย

นักวิจัยให้เหตุผลว่าการลดเวลาลงนั้นมาจากบริษัทต่างๆ ได้หาวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แทนที่จะพึ่งพาการเพิ่มความเข้มข้นในการทำงานของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น การประหยัดเวลาจากการประชุม การสื่อสารที่คล่องตัวขึ้น และบรรยากาศของสำนักงานทำงานที่ทำให้พนักงานมีสมาธิมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อการทำงานของพนักงาน

นอกจากนี้ผลการทดลองทำงาน 4 วันนั้นยังชี้ว่าส่งผลทำให้พนักงานลาออกน้อยลง ส่งผลในการเก็บพนักงานที่ดีในองค์กรได้อีกด้วย อย่างไรก็ดีถ้าผลวิจัยที่ได้ถามพนักงานว่าถ้าหากกลับไปทำงาน 5 วันส่วนใหญ่นั้นตอบว่าจะต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มเติมให้กับพนักงานด้วย แต่พนักงานอีก 10% ชี้ถึงต่อให้จ่ายเงินเพิ่มก็ไม่ทำงานเพิ่มเป็น 5 วันอยู่ดี

]]>
1439336
วิจัยพบ “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ส่งรายได้บริษัทเพิ่ม 8% ลดภาวะ ‘burn out’ ในหมู่พนักงาน https://positioningmag.com/1410937 Fri, 02 Dec 2022 08:46:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1410937 วิจัยชิ้นใหม่ที่ทำการศึกษาพบว่า “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่อง โดยทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 8% ในระยะเวลา 6 เดือนที่ทดลอง รวมถึงทำให้พนักงานเกิดภาวะ ‘burn out’ น้อยลง ลดความอ่อนเพลีย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น

องค์กรไม่แสวงหากำไรในนิวซีแลนด์ชื่อ “4 Day Week Global” เปิดเผยข้อมูลการวิจัยใหม่ซึ่งทดลองในบริษัทจำนวน 33 แห่ง รวมพนักงาน 969 คน โดยบริษัทที่เข้าร่วมกระจายกันไปใน 6 ประเทศ คือ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ และแคนาดา บริษัทเหล่านี้ได้ทดลองใช้นโยบาย “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” เป็นเวลา 6 เดือน

งานวิจัยพบว่า สัปดาห์ทำงานที่สั้นลงนั้น “สร้างความสำเร็จอย่างเด่นชัดในทุกมิติ”

“บริษัทรู้สึกพึงพอใจอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงาน ผลการดำเนินงาน และประสบการณ์โดยรวม และทำให้เกือบทุกบริษัทเตรียมแผนการหรือวางนโยบายเพื่อจะจัดตารางทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์แล้ว” รายงานการวิจัยระบุ “รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการทดลอง จำนวนวันลาป่วยหรือลาหยุดของพนักงานลดลง อัตราการลาออกลดลงเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้วในช่วงที่เกิด ‘Great Resignation’ (การลาออกขนานใหญ่ในโลกตะวันตก) พนักงานยังคงกระตือรือร้นในการทำงานเช่นเดิม”

ในช่วงการทดลอง รายได้ของบริษัทปรับเพิ่มขึ้น 8.14% โดยเฉลี่ย และถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้เพิ่มขึ้นถึง 37.55%

ในมุมของพนักงาน ผลดียิ่งมีความสำคัญ เพราะ 67% ของพนักงานรู้สึกว่าลดภาวะ ‘burn out’ (หมดไฟในการทำงาน) หลังทดลองทำงาน 4 วัน และเมื่อมีวันพักผ่อนเพิ่มขึ้น 1 วัน ทำให้มีเวลาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 23 นาทีต่อสัปดาห์ ปัญหาการนอนหลับของพนักงานยังลดลง 8% ด้วย

มากไปกว่านั้น แม้ว่าแต่ละสัปดาห์จะมีวันทำงานน้อยลง ผู้เข้าร่วมทดลองกลับไม่รู้สึกว่ามีภาระงานเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ผู้เข้าร่วมทดลองยังตอบแบบสอบถามในรายงานด้วยว่า พวกเขารู้สึกว่าการมีชั่วโมงทำงานสั้นลงในแต่ละสัปดาห์ “เปรียบเสมือนได้รายได้เพิ่มขึ้น 25% ทันที” อีกรายหนึ่งกล่าวว่า “การทดลองนี้มหัศจรรย์มาก เพราะทำให้ฉันได้วันหยุดหรือเวลาหยุดเพิ่ม ด้วยบทบาทหน้าที่การงานนี้ทำให้ที่ผ่านมาไม่สามารถจะหยุดได้ง่ายๆ เมื่อมีโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะหยุดเพิ่มแบบนี้ทำให้ไลฟ์สไตล์ของฉันเปลี่ยนไปอย่างมาก”

การทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ก็ยังคงเป็นวัตรปฏิบัติหลักในสหรัฐฯ แต่บางบริษัทก็เริ่มทดลองสัปดาห์การทำงานที่สั้นลงบ้างแล้ว และบริษัทที่ทดลองก็พบว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก

การทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เริ่มได้รับความสนใจจากสภาคองเกรสด้วยเช่นกัน มาร์ก ทาคาโนะ ส.ส.รัฐแคลิฟอร์เนีย เริ่มผลักดัน “กฎหมายทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์” ไปเมื่อปีก่อน และได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มสหภาพแรงงาน

สำหรับบริษัทในเอเชีย แนวคิดการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ โดย Center for Creative Leadership สำรวจผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิก 2,170 ราย พบว่ามีเพียง 2% ที่ยอมรับได้กับการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ แม้แต่การให้ Work from Anywhere ได้ก็ยังเป็นแนวคิดของบริษัทส่วนน้อย ในไทยเองมีบริษัทที่ยอมรับการทำงานแบบรีโมตจากนอกบริษัทเพียง 16% เท่านั้น (อ่านข้อมูลจากการสำรวจต่อที่นี่)

Source

]]>
1410937
หลายบริษัททดลอง “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดึงดูดทาเลนต์ https://positioningmag.com/1386182 Sat, 21 May 2022 11:26:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386182 โลกยุคใหม่เริ่มทดลอง “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” โดยยังให้เงินเดือนปกติ เพราะพบว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น พนักงานมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และทำให้บริษัทที่มีนโยบายนี้สามารถดึงดูดทาเลนต์เข้าสู่องค์กรได้มากกว่า

การทดลองในหลายประเทศหรือหลายบริษัทเห็นผลเชิงบวกจากการ “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ยกตัวอย่างเช่น ปีก่อนนี้ นักวิจัยใน “ไอซ์แลนด์” พบว่าการทำงาน 4 วันช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานได้จริง

ผลการทดลองเหล่านี้ทำให้บางประเทศหยิบไปใช้เป็นนโยบายของรัฐ เช่น “สก็อตแลนด์” ที่มีแคมเปญใช้งบลงทุน 10 ล้านปอนด์อุดหนุนให้บริษัทต่างๆ ทดลองการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มาตั้งแต่ปีก่อน ส่วน “ไอร์แลนด์” เริ่มทดลองการทำงาน 4 วันเป็นเวลา 6 เดือนในปีนี้ ขณะที่ “สเปน” ก็เริ่มทดลองการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้ว โดยกรณีของสเปนมุ่งหมายเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19

ในระดับองค์กรเอกชนทั่วโลกนั้น ความสนใจในการให้สิทธิประโยชน์พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผลทดลองของ Microsoft ประจำประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2019 พบว่า การทดลองนี้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 40% ทำให้องค์กรอื่นสนใจทดลองบ้าง

Photo : Shutterstock

ยกตัวอย่างเช่นบริษัท Canon ประจำประเทศอังกฤษ ก็เริ่มมีการทดลองทำงาน 4 วันแล้ว ส่วนบริษัทอย่าง Kickstarter และ Bolt ในสหรัฐฯ ก็เริ่มแล้วเช่นกัน รวมถึงบริษัท Unilever สาขานิวซีแลนด์ก็ประกาศทดลองทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน

ในบริษัทที่การทำงาน 4 วันไม่ใช่แค่การทดลอง แต่นำมาใช้ถาวรแล้ว เช่น ธนาคาร Atom ในอังกฤษ ที่มีพนักงานอยู่ 430 คน ธนาคารพบว่า ทันทีที่บริษัทประกาศต่อสาธารณะว่าบริษัททำงานแค่ 4 วัน รวม 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้หยุดเพิ่มในวันจันทร์หรือวันศุกร์ ใบสมัครเข้าร่วมงานก็พุ่งขึ้นทันที 500%

 

พนักงานเครียดน้อยลง มีเวลากับครอบครัวมากขึ้น

จากการสำรวจของ Henley Business School ทำการสำรวจพนักงาน 2,000 คน และผู้นำ 500 คนในบริษัทต่างๆ ของอังกฤษ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 พบว่า 78% ของนายจ้างตอบว่าลูกจ้างของพวกเขารู้สึก “เครียดน้อยลง” ในที่ทำงาน เมื่อทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์

70% ของพนักงานมองว่าการทำงานที่สั้นลงในแต่ละสัปดาห์ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และมี 2 ใน 3 ที่เห็นว่าสุขภาพจิตของตนดีขึ้นเมื่อการทำงานยืดหยุ่นมากขึ้นแบบนี้ รวมถึงมี 69% ที่เชื่อว่าชีวิตครอบครัวของตนจะดีขึ้นเมื่อทำงานน้อยลง

66% ของพนักงานคิดว่าตนเองจะใช้วันหยุดที่เพิ่มขึ้นต่อสัปดาห์ไปกับการใช้เวลากับครอบครัว

เหตุที่การทำงานน้อยวันลงไปเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว เพราะผู้ตอบแบบสอบถาม 66% คิดว่าจะใช้วันหยุดที่เพิ่มขึ้นอยู่กับครอบครัว และคำตอบนี้เป็นคำตอบหลักของคนทุกวัยเลยทีเดียว ทำให้เห็นการจัดลำดับความสำคัญใหม่ของคนเราหลังจากเผชิญวิกฤตโควิด-19

รองลงมามี 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่คิดว่าจะใช้เวลาวันหยุดไปช้อปปิ้ง ซึ่งน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้มีคนประมาณ 25% ที่คิดว่าจะใช้เวลาวันหยุดไปทำงานการกุศลหรืออาสาสมัคร

บางส่วนของพนักงานอาจมองว่าการได้วันหยุดเพิ่ม ไม่ได้มีไว้สำหรับทำกิจกรรมอื่น แต่อาจจะนำไปใช้ทำงานเสริม เพราะ 37% ของพนักงานเห็นว่าการได้ทำงานหลายๆ งาน มีนายจ้างหลายคน เป็นวิถีชีวิตการทำงานที่ “เป็นที่น่าปรารถนา”

งานวิจัยยังพบว่า 68% ของฝั่งนายจ้างรู้สึกว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นช่วยดึงดูดทาเลนต์เข้ามาสมัครงาน ซึ่งการทำงาน 4 วันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญ ร่วมกับคุณสมบัติอื่นๆ เช่น วันปลอดการประชุม

โดยสรุปแล้ว โลกยุคใหม่ทำให้วิถีการทำงานเปลี่ยน มุมคิดของพนักงานเปลี่ยนไป และนายจ้างควรจะลองพิจารณาการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มาเป็นตัวช่วยในการดึงดูดทาเลนต์ให้อยากทำงานกับองค์กรมากขึ้น

source

]]>
1386182
ส่องเทรนด์ทำงาน ‘4 วัน/สัปดาห์’ ในเอเชีย ประเทศไหนพร้อม-ไม่พร้อมเปิดรับ! https://positioningmag.com/1376175 Thu, 03 Mar 2022 09:38:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376175 การมีสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงานจำนวนมาก แต่บางประเทศในเอเชียการทำงานยาว 6 วัน/สัปดาห์ยังคงเป็นเรื่องปกติ! ในขณะที่เทรนด์โลกเริ่มมีการทดลองทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ หลังจากเจอกับการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้พนักงานทั่วโลกได้ Work From Home อย่างไรก็ตาม ลองไปดูกันว่าแต่ละประเทศในภูมิภาคเอชียคิดเห็นอย่างไรกับการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์กันบ้าง

เจมส์ รูท หุ้นส่วนและประธานร่วมของ Bain Futures นักคิดของบริษัทที่ปรึกษา Bain & Company กล่าวว่า ที่ในภูมิภาคเอเชียมีการทำงานถึง 6 วัน/สัปดาห์เป็นเพราะหลายคนมีค่านิยมว่า การทำงานหนักจะทำให้ประสบความสำเร็จ โดยมีหลายประเทศที่มีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน เช่น เกาหลีใต้ จีน และญี่ปุ่น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม พนักงานหลายคนเริ่มมองหา Work Life Balance ทำให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงเอเชียกำลังมองหาวิธีที่ทำให้พนักงานมีสมดุลมากขึ้น อาทิ สามารถทำงานครึ่งวันทุกวันศุกร์, ทางเลือกในการทำงานจากที่บ้าน, การลาคลอด, ให้ทุนสนับสนุนสำหรับการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ แต่ปัจจุบันมีเทรนด์แรงที่คนใกำลังให้ความสนใจก็คือ การทำงาน 4 วัน/สัปดาห์

“เป้าหมายคือ การให้เวลาแก่พนักงานให้มีวันหยุดยาว แต่ยังคงประสิทธิภาพการทำงาน แน่นอนว่าค่าตอบแทนต้องไม่ลดตามจำนวนวันทำงาน ซึ่งจะทำให้ win-win สำหรับพนักงานและบริษัท”

Photo : Shutterstock

เริ่มมีบางบริษัทปรับใช้

ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่ามีวัฒนธรรมการทำงานที่ โหดเหี้ยม ด้วยชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน แถมคาดหวังให้พนักงานให้ความสำคัญกับ อาชีพของตนเหนือสิ่งอื่นใดในชีวิต จนเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่ว่า Karoshi ที่แปลว่า ความตายจากการทำงานหนักเกินไป

แต่เพราะ COVID-19 ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานที่เข้มงวดสูงของประเทศกลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง หลังจากที่ธุรกิจญี่ปุ่นเปลี่ยนให้มีชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถ Work From Home ได้ ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลต่อความสุขของพนักงานอย่างไร

ย้อนไปในปี 2019 Microsoft Japan ได้ทดสอบการทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ แม้ว่าชั่วโมงทำงานโดยรวมจะลดลง แต่ค่าจ้างพนักงานยังคงเท่าเดิมโดยพบว่า ประสิทธิภาพของพนักงานเพิ่มขึ้นเกือบ 40% และช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา Panasonic ได้ทดลองให้พนักงานทดลองทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมสมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับพนักงาน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้จะยังไม่เกิดขึ้น 100% จนกว่าจะถึงเดือนเมษายน 2566

“สวัสดิภาพของพนักงานของเรามีความสำคัญเป็นอันดับแรก และเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสื่อสารและส่งเสริมความเข้าใจในจุดประสงค์นี้” Airi Minobe โฆษกของ Panasonic กล่าว

(Photo : Shutterstock)

พนักงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สนใจปรับใช้

จากการสำรวจที่ตีพิมพ์ในเดือนกุมภาพันธ์โดยบริษัทวิจัย Milieu ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่า พนักงานจากสิงคโปร์ เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียต่างก็ กระตือรือร้นที่จะทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ โดยชาว สิงคโปร์ มากกว่า 76% แสดงความสนใจอย่างมากในงานที่มีวันหยุดสามวัน

พนักงานหลายคนในสิงคโปร์ไม่ต้องการชีวิตที่พวกเขาอาศัยอยู่เพื่อทำงาน แต่พวกเขาต้องการ “มีชีวิตและทำงานเพื่อรักษาชีวิตไว้” Jaya Dass กรรมการผู้จัดการ บริษัทจัดหางาน Randstad Singapore กล่าว ดังนั้น การมีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน เงินเดือน และผลประโยชน์ถือเป็นแง่มุมที่มีค่าที่สุดของงานสำหรับพนักงาน

Dass กล่าวว่า พนักงานชาวสิงคโปร์ไม่พร้อมที่จะสละชีวิตส่วนตัวเพื่อประกอบอาชีพอีกต่อไป แต่เนื่องจากค่าครองชีพที่สูง หลายคนจึงไม่เห็นด้วยที่จะลดชั่วโมงการทำงานลง หากเงินเดือนจะลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คนงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคนที่มีความกระตือรือร้นในการทำงานสัปดาห์ที่สั้นลง อย่างใน มาเลเซีย มีเพียง 48% เท่านั้นที่สนใจแนวคิดนี้อย่างมาก และอีก 41% รู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับแนวคิดนี้ จากการสำรวจของ Milieu

Dass ระบุว่า ไม่ใช่แค่มาเลเซีย แต่ เมียนมา และ กัมพูชา ก็ไม่ได้สนใจที่จะทำงานแค่ 4 วัน/สัปดาห์ เพราะความต้องการความสมดุลระหว่างชีวิตและงานในประเทศเหล่านี้มีน้อย เพราะในระบบเศรษฐกิจเหล่านี้ ชั่วโมงการทำงานที่นานขึ้นมักจะแปลเป็นเงินมากขึ้น

“ในประเทศกำลังพัฒนา พนักงานมักต้องการทำงานให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมีคติประจำใจคือ ถ้าฉันต้องตายจากการทำงาน ฉันจะทำ นั่นหมายความว่าฉันสามารถทำเงินได้ ฉันสามารถซื้อทรัพย์สินของฉัน ฉันสามารถทำให้ครอบครัวของฉันมีชีวิตที่ดีขึ้นได้”

เอเชียล้าหลังตะวันตก

อย่างไรก็ตาม หากเทียบภูมิภาคเอเชียกับฝั่งตะวันตกถือว่ายังตามหลังอยู่ เพราะ รัฐบาลไอซ์แลนด์และสเปน ได้ทดลองลดชั่วโมงการทำงานตั้งแต่ปี 2019 และ 2021 ตามลำดับ เบลเยียม เป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศว่าเร็ว ๆ นี้คนงานจะได้รับสิทธิ์ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์

โครงการของเบลเยียมซึ่งกำลังเริ่มทดลองกำหนดให้พนักงานต้องทำงาน 4 วัน ในจำนวนชั่วโมงที่เท่ากับการทำงานใน 5 วัน และคนงานยังได้รับอนุญาตให้ เพิกเฉยต่อการทำงานนอกเวลา โดยไม่ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากเจ้านายของพวกเขา

สหราชอาณาจักร ในเดือนมกราคมประกาศเปิดตัวการทดลองใช้สัปดาห์ทำงาน 4 วันเป็นเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายน ความคิดริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้พนักงานของบริษัทต่าง ๆ ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมสามารถทำงานได้ 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยที่เงินเดือนและผลประโยชน์ไม่เปลี่ยนแปลง

]]>
1376175
5 วันเยอะไป ‘ยูนิลีเวอร์’ ในนิวซีแลนด์ทดลองพนักงานให้ทำงาน 4 วัน/สัปดาห์ https://positioningmag.com/1308492 Tue, 01 Dec 2020 11:36:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1308492 ‘ยูนิลีเวอร์ (Unilever)’ บริษัทผลิตสินค้าบริโภคยักษ์ใหญ่ได้เตรียมทดลองให้พนักงานในประเทศนิวซีแลนด์ทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์ จากเดิมต้องทำ 5 วัน โดยมีพนักงานจำนวน 81 รายที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยโครงการมีกำหนดเริ่มต้นในสัปดาห์หน้าและสิ้นสุดในเดือนธันวาคมปี 2564

สำหรับผู้ที่ทำงาน 4 วัน จะได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนเหมือนปกติ เนื่องจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ในออสเตรเลียช่วยติดตามความคืบหน้า ขณะที่ยูนิลีเวอร์ กล่าวว่า หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี บริษัทจะพิจารณาว่าจะขยายการทดลองระดับที่กว้างขึ้น

“เราหวังว่าการทดลองจะส่งผลให้ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกที่ใช้วิธีการทำงานที่ให้ผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมกับทั้งพนักงานและธุรกิจ” นิค บังส์ กรรมการผู้จัดการของยูนิลีเวอร์นิวซีแลนด์ กล่าว

Photo : Shutterstock

อย่างไรก็ตาม ยูนิลีเวอร์ไม่ใช่บริษัทแรกที่นำแนวทางปฏิบัตินี้มาใช้ในนิวซีแลนด์ โดยในปี 2018 บริษัท Perpetual Guardian ในท้องถิ่นได้จัดให้มีการทดลองใช้แนวคิดนี้เป็นเวลาสองเดือน ซึ่งบริษัทกล่าวว่าประสบความสำเร็จอย่างมากหลังจากนั้นก็ตัดสินใจที่จะทำให้ถาวร

บังส์ กล่าวว่า ทีมของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ค้นพบจากกรณีศึกษานั้นและเริ่มเชื่อว่า “วิธีการทำงานแบบเก่าล้าสมัย” และแม้แต่นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ผู้นำของนิวซีแลนด์ยังหยิบยกแนวคิดนี้มาเป็นตัวอย่างว่าอาจช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เพราะมีความยืดหยุ่นในแง่ของการเดินทางและการลา

นอกจากนี้ยังมีบริษัทใหญ่ ๆ ในประเทศอื่น ๆ ก็เริ่มเข้าร่วมเทรนด์นี้เช่นกัน อย่างปีที่แล้วทีมงานของ Microsoft ในญี่ปุ่นได้ทำการทดลองโดยปิดสำนักงานทุกวันศุกร์ในเดือนสิงหาคมและให้วันหยุดพิเศษแก่พนักงานทุกคนในแต่ละสัปดาห์ โดยผลลัพธ์ที่ได้มีแนวโน้มที่ดี เพราะแม้ว่าระยะเวลาที่ใช้ในการทำงานลดลง แต่ประสิทธิภาพต่อพนักงานเพิ่มขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ด้วยเหตุนี้ Microsoft จึงประกาศว่าจะติดตามการทดลองอื่น ๆ ในญี่ปุ่นและขอให้บริษัทอื่น ๆ เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย

ทั้งนี้ สัปดาห์การทำงาน 4 วันได้รับการขนานนามว่าเป็นวิธีการปรับปรุงสมดุลชีวิตการทำงาน ธุรกิจบางแห่งเพิ่งเริ่มทดลองใช้เพื่อช่วยต่อสู้กับความเหนื่อยหน่ายที่เกิดจากความท้าทายในการทำงานในช่วงระบาดของ COVID-19

Source

]]>
1308492